Home ข้อคิด จุดเริ่มต้นของคนจะรวย น้อยคนนัก..ที่จะมีแนวความคิดนี้

จุดเริ่มต้นของคนจะรวย น้อยคนนัก..ที่จะมีแนวความคิดนี้

5 second read
0
0
43

สมัยนี้เงิน คือตัวแทนของทุกสิ่งอยากได้อะไร ส่วนใหญ่ต้องใช้เงินแลกมาทุกคนจึงตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน หลายๆ คนอยากรวย มีเงินเยอะๆ ก็ขยันทำนั่นนี่

ทำงานที่สอง สาม สี่ มีรายได้เพิ่มขึ้นหลายช่องทางนับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้ตัวเองมีรายได้จากหลายๆทาง แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยากมีรายได้หลายๆ ทาง แล้วไม่รู้จะทำอะไรดี

เพราะมองไปทางไหน ก็มีคนเขาขาย เขาทำกันหมดแล้วเจ้าใหม่ๆ อย่างเราจะเอาอะไรไปสู้ สุดท้ายได้แต่คิด แล้วก็ไม่ได้ทำเคล็ดลับในการหารายได้เพิ่ม

เขาบอกให้เริ่มจากจุดเล็กๆ คิดทำเล่นเป็นงานอดิเรกไปก่อน ทดลองตลาดไปเรื่อย วันหนึ่ง อาจดัง ปังเว่อร์ขึ้นมาเองก็ได้การอยากมีรายได้เพิ่ม แล้วเที่ยวไปถามใครว่า ควรทำอะไรดี ปัญหานี้

คนที่ตอบได้ดีที่สุด คือเจ้าของคำถามเอง โดยลองตั้งโจทย์ ตั้งเงื่อนไขว่างานเสริมที่จะทำต้องสร้างรายได้ในระดับที่น่าพอใจความ เ สี่ ย งไม่มากลงทุนไม่สูง

ช่วยเพิ่มเติมทักษะของตัวเองให้สูงขึ้นและมีโอกาสต่อยอดได้ในอนาคต เมื่อได้ขอบเขตแล้วก็มาเฟ้นเอาจากใจของเรา ว่าอะไร อันไหนที่ใช่

โดยใช้ตัวกรองอีก 3 ตัวคือ ความรัก ทำได้ดี มีประโยชน์กับคนอื่น

ขั้นแรก ลองถามใจตัวเอง แล้วจดแยกออกมาเป็นข้อๆ ว่าเราชอบ รักที่จะทำอะไร สิ่งที่ทำแล้วมีความสุขนั่งทำ นอนทำ ได้เป็นวันๆ ไม่เบื่อ

เช่น ชอบกิน ชอบอ่ า น หนังสือชอบเล่นดนตรี ชอบวาดรูป ชอบดูตลก ชอบเที่ยว ชอบออกแบบ ชอบพูด ชอบพบปะผู้คน เป็นต้น

บางคน อาจชอบหลายๆอย่าง ก็เขียนออกทุกอย่างที่ชอบนั่นแหละ

ขั้นที่สอง อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดี หรือสิ่งที่เพื่อนๆ คนในบ้านชอบ วานให้เราทำงานนั้นจะเป็นเครื่องบ่งชี้

ว่าเราทำงานนั้นได้ดี ที่คนอื่นมองเห็น จึงไหว้วานเราบ่อยๆ

ขั้นที่สาม ลองดูว่าสิ่งที่เรารัก ทำได้ดีนั้นสามารถสร้างประโยชน์ ให้กับคนอื่นได้หรือไม่ สามารถแก้ปัญหาให้กับคนอื่นได้หรือเปล่า

จากนั้นก็นำทั้งสามขั้นนี้ มาคัดกรองแยกแยะ ออกมาก็จะได้รายชื่อหรือชนิดของงานที่เราจะทำแล้ว อาจได้มาหลายชื่อหน่อยก็ไม่เป็นไร ใส่ลงมาก่อน

จากนั้นก็นำไปกรองกับเงื่อนไขที่ตั้งไว้ทีแรกอีกที ที่ว่า รายได้พอใจ ความ เ สี่ ย ง ไม่มากลงทุนไม่สูง สามารถต่อยอดได้ในอนาคตเมื่อกรองทั้งสองชั้น

ก็น่าจะเหลือตัวเลือก สักหนึ่งหรือสองอย่าง ถ้าเลือกไม่ได้จริงๆ ก็อาจ ทำไปทั้งสองเลยก็ได้ ถ้าทำไหว จะได้รู้ว่า แบบไหนรายได้ดีกวากัน

ยกตัวอย่างเช่น เจนมีอาชีพหลัก เป็นครูพี่เลี้ยงเด็กอนุบาลแห่งหนึ่ง เจนเป็นคนชอบฟังเพลง ชอบท่องเที่ยว อันนี้คือข้อหนึ่งคือสิ่งที่เจนรักส่วนสิ่งที่เจนถนัดคือ เจนเป็นคนเล่าเรื่องเก่ง เขียนเรียงความได้ดี เพื่อนๆมักจะไหว้วานให้เจนแต่งเรื่องเล่านิทานให้สมัยเรียนมัธยม

ซึ่งบอกได้ว่าข้อสองเรื่องความถนัดของเจนนั้น คือการเขียน แต่งเรื่องนั่นเองทีนี้ก็มาคิดต่อว่า การชอบฟังเพลง ชอบท่องเที่ยว และแต่งเรื่องเขียนเรียงความได้ดี จะช่วยสร้างประโยชน์ให้คนอื่นได้อย่างไรบ้าง เมื่อเจนลองคิดดู ก็ได้งานออกมา 2 อย่างคือ เป็นนักแต่งเพลง กับเป็นมัคคุเทศก์

ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่นได้ เรียกว่ามันขายได้นั่นเอง เมื่อได้มา 2 รายชื่อแล้วก็นำไปกรองกับเงื่อนไขอีกชั้นหนึ่งทั้งมัคคุเทศก์และนักแต่งเพลงต่างให้รายได้ที่น่าพอใจกับเจน ความ เ สี่ ย ง และการลงทุนนั้นแทบจะไม่มี เพราะทั้งสองอย่างนั้นไม่ต้องลงทุนซื้อหาอุปกรณ์อะไรเลย

มาถึงข้อสุดท้าย อันไหนใช้ต่อยอดได้อันไหนที่เข้ากันได้กับงานประจำ จะว่าไปงานทั้งสองอย่างนั้นไม่ขัดแย้ง กับงานประจำเจน แต่งเพลงสามารถทำได้ทุกวัน ส่วนมัคคุเทศก์ก็ใช้เวลาช่วงเสาร์ อาทิตย์ ไปทำก็ได้ ทีนี้ก็เหลือแต่เจนชั่งใจแล้วว่าชอบอันไหนมากกว่ากัน

หรือจะทำไปทั้งสองอย่างเลยก็ได้จากตัวอย่างข้างต้นทำให้คนที่อยากมีรายได้เสริม ใช้เป็นแนวทาง ในการเริ่มต้นทำงานเล็กๆ ลองเลือกเอาจากสิ่งที่ตัวเองรัก ถนัด และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น เ สี่ ย งน้อยลงทุนไม่มาก และนำไปต่อยอดได้เมื่อได้เริ่มลงมือทำแล้ว

ผลงานนั้นจะฟ้องกลับมาเองว่าเราจะไปต่อได้ดีแค่ไหน ถ้าเราเริ่มจากสิ่งที่ใจรัก ต่อให้เจออุปสรรค เราก็จะฟั น ฝ่าไปได้ รายได้เริ่มต้นอาจไม่มากแต่ด้วยความที่ทำแล้วมีความสุขเป็นงานที่เข้ากับตัวเอง

เชื่อว่าวันหนึ่งมันจะสามารถพัฒนา ต่อยอดสร้างรายได้ก้อนโตกลับมาให้ และทำให้เรากลายเป็นคนร่ำรวยขึ้นมาได้

ขอขอบคุณ m o n e y h u b

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

7 สิ่งเหล่านี้ “หากเลิกคาดหวังได้” ชีวิตคุณจะมีความสุขขึ้นเยอะ

“บรูซ ลี” อดีตดารากังฟู ชื่อดัง เคยกล่าวว่า “ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตตามความคาดหวังของค…