
หากคุณกำลังจะตกงาน แล้วยังหางานไม่ได้หรือถ้าคุณทำงานอยู่แล้วเริ่มรู้สึกเบื่องาน อย ากหางานใหม่
คุณควรจะต้องตั ด สินใจเลือกบริษัทที่กำลังจะทำงานด้วยให้ดีเพราะว่าการหางานไม่ได้มีเพียงปัจจัยใน
เรื่องของเงินและหน้าที่การงานเท่านั้นแต่ยังมีเรื่องที่ต้องคิดเกี่ยวกับตัว “บริษัท” ที่เราจำต้องไปร่วมงานอีกด้วย
ซึ่งก่อนที่จะยื่นสมัครหรือตอบตกลง ทำงานกับบริษัทใดแม้ว่าเงินเดือนจะมากกว่างานที่คุณทำอยู่หรือตำแหน่ง
งานน่าสนใจมาก ก็ตามขอพูดถึงมีบริษัท 7 แบบที่คุณไม่ควรไปร่วมงานด้วย หรือหากร่วมงานอยู่
1. บริษัทที่คนลาออกบ่อย
สังเกตอย่ างไร
มีการลงประกาศรับสมัครงานตำแหน่งสำคัญๆ ตามเ ว็บไซต์ บ่อยๆ หรือ
บริษัทที่คุณเข้าไปทำงานอาทิตย์แรกมีแต่คนพูดว่าจะลาออก ทั้งพูดเล่นพูดจริง
มันแย่แค่ไหน
ปกติแล้วบริษัทที่ดีไม่ควรมีการเปิดรับสมัครตำแหน่งผู้จัดการ หรือผู้บริหารระดับสูง
ในทุกๆ 6 เดือนถ้าคุณเห็นบริษัทใดที่มีพฤติก ร ร มดังกล่าว แสดงว่าบริษัทนั้น
กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ ที่ไม่ค่อยดีนักซึ่งอาจจะเป็นไปได้ 3 สาเหตุคือผู้บริหาร
ไม่มีความเป็นผู้นำ ที่ดีมีวัฒนธรรมองค์กรภายในที่ไม่สามารถดึง ดู ด คนดีๆ ไว้ได้
หรือเป็นไปได้ว่าผู้บริหารระดับสูงมีเป้าหมายสั้นพอๆ กับระยะเวลาที่พนักงานอยู่ในบริษัท
ทำอย่ า งไร
บริษัทที่มีแต่คนลาออกมักไม่ทำตามข้อตกลงที่เคยบอกคุณไว้
เพราะฉะนั้นหากเขาสัญญาว่าจะโปรโมตคุณในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้
2. บริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรขัด แ ย้ ง กันเอง
สังเกตเห็นได้อย่ า งไร
มีคนวงในหรือเพื่อนของเพื่อนคุณที่ทำงานในนั้นบ่นให้ฟังถึงบรรย า กาศ
การทำงาน หรือมีคนรี วิ ว การทำงานตามบอร์ดสาธารณะอยู่เรื่อย ๆ
มันแย่แค่ไหน
บริษัทแบบนี้อาจจะไม่ใช่ เหตุผลที่ทำให้คุณไม่เลือกส่งใบสมัครมาตั้งแต่แรก
แต่รับรองได้ว่ามันจะส่งผล กระทบต่อชีวิตการทำงานของคุณในระยะย า ว
แน่ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพ การทำงานของคุณไปจนถึงด้านการเงินของบริษัท
ทำอย่ า งไร
เลี่ยงได้ก็เลี่ยง พย า ย า มอย่ า ตกลงปลงใจทำสัญญา
กับบริษัทแบบนี้เพราะคุณอาจมีปัญหาในระยะย า วแน่
3. บริษัทที่ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
สังเกตเห็นได้อย่ า งไร
ภาพบรรย ากาศการทำงานสุดคูล ออฟฟิศสุดเลิศ และแคมเปญ โ ฆ ษ ณ า
ที่ไม่มีใครเทียบได้แต่พอเข้าไป ทำงานจริงกลับกลายเป็นหนังคนละม้วนมีแค่ออฟฟิศ
ของเจ้านาย เท่านั้นที่สามารถเรียกว่าออฟฟิศได้ส่วนตรงอื่นอย่ า เรียกว่าออฟฟิศเลย
นอกจากไฟฟ้าที่ไม่สว่าง และคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สมัยพระเจ้า เ ห า แล้วไม่ต้องพูดถึง
มุมพักเบรคของพนักงาน ฝันไปซะเถอะ
มันแย่แค่ไหน
ก็เหมือนคุณเข้าเว็บจองโรงแรมที่คุณไม่ได้มีโอกาสเห็นจริงๆ ก่อน ในรูปดูสวยมาก
แต่พอเข้าพักจริงๆ แล้วต่างกันราวฟ้ากับเ ห ว แต่ที่น่ากังวลกว่าคือโรงแรมคุณ
อยู่แค่ 2-3 คืนแต่บริษัทแบบนั้นคุณจะต้องอยู่กับมันอย่ างน้อย 40 ชั่วโมง
ต่อสัปดาห์ไปอีกอย่ างน้อยครึ่งปีคิดดูว่าจะแย่แค่ไหน
ทำอย่ า งไร
หาอ่านรี วิ ว บริษัทให้ดีก่อน ตั ด สินใจเข้าทำงานในที่ใดที่หนึ่งแต่ทางที่ดี
คุณควรหาคนรู้จักที่ทำงานดูในนั้นแล้วถามซะ ของแบบนี้ต้อง Dig Deep
4. บริษัทเน้นคุยงานไม่เน้นทำงาน
สังเกตเห็นได้อย่ า งไร
วันๆ ผู้บริหารเอาแต่ประชุมๆ ไม่กระจายงานไม่ ตั ดสินใจอะไรสักอย่ า ง
มันแย่แค่ไหน
ลองคิดถึงว่าคุณต้องทำงานในบริษัทที่มีผู้บริหารระดับสูง 3 คนนั่งประชุม
ระดมความคิดกันเอง อยู่ในห้องทั้งวันแต่พอจบวันพวกเขากลับลงเอยแยกย้ าย
กันกลับบ้านและคุณก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรหรือแย่กว่านั้นคือพวกเขากลับมา
ทวงงานคุณทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ให้คุณทำอะไรทั้งวัน
ทำอย่ า งไร
ลองถามตัวคุณเองด้วยคำถามเหล่านี้ เช่น มีเฉพาะคนในเท่านั้นใช่มั้ย
ที่จะได้โปรโมทหรือบริษัทกำลังหาคนนอกเข้าไปทำงานตำแหน่งใหญ่
หรือเปล่า หรือ เอ๊ะ ทำไมมีผู้บริหารระดับ Vice Pressident เป็น10
ทั้งๆ ที่บริษัทมีพนักงงานทั้งหมดแค่ 100 คน ถ้าคุณเกิดคำถามขณะดู
รายละเอียดบริษัท นั่นแหละคือสัญญาณที่บอกว่าบริษัทนั้นเป็นบริษัทที่เน้น
คุยงานไม่เน้นทำงานซึ่งถ้าคุณเลือกได้ก็อย่ า เข้าไปทำงานกับบริษัทแบบนี้เลย
5. บริษัทที่เล่นไม่ซื่อกับคุณ
สังเกตเห็นได้อย่ า งไร
บริษัทที่คุณทำงานอยู่ไม่มีการตั้ง เป้าหมายที่ชัดเจนหรือไม่มีการเขียนอะไร
เป็นลายลักษณ์อักษรไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณที่ชัดเจน
ไปจนถึงเป้าหมายระยะย า วของบริษัทหรือคุณอาจจะเห็นนายคุณเองที่
เอาแต่สัญญาว่าจะโปร โ ม ท คุณวันนั้นวันนี้ ระวังไว้ให้ดี
มันแย่แค่ไหน
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนถามหาความโปร่งใสเชื่อถือได้จากทุกองค์กร บริษัทต่างๆ
จึงพย า ย า มนำเสนอความโปร่งใสโดยการนำเสนอให้เห็นวัฒนธรรมองค์กร
เช่นการเปิดเผยสวัสดิการ หรือโบนัสต่างๆ จนกลายมาเป็นเหมือนคำมั่นสัญญา
ที่บริษัทพย า ย า มสร้างมาแข่งกันลองคิดดูว่าถ้า HR มาบอกว่าจะโปร โ ม ท
คุณปลายปีนี้ แต่พอปลายปีกลับทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือบอสคุณบอก
จะขึ้นเงินเดือนให้ปลายปีแต่พอถึงปลายปีกลับบอกว่าไว้กลางปีหน้านั่นแหละคือที่
มาของบริษัทที่เล่นไม่ซื่อกับคุณ
ทำอย่ า งไร
วางแผนหางานใหม่และเตรียม ตัวลาออกเลยเพราะมันไม่มีเหตุผลที่คุณจะอยู่ทำงาน
กับบริษัทที่เอาแต่สัญ ญ า และเล่นไม่ซื่อกับคุณอยู่ไปชีวิตคุณคงย่ำอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ
6. บริษัทบอนไซ
สังเกตเห็นได้อย่ า งไร
คุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลยจากงานที่ทำอยู่ทุกวัน ไม่มีการประเมินผล
การทำงาน หรือคุณอาจจะโดนสั่งให้ทำงานนอกเหนือความรับผิดชอบตลอดเวลา
มันแย่แค่ไหน
คุณอาจจะคิดว่าเงินเดือนโอเค หน้าที่ที่คุณได้รับมอบหมายก็ไม่แย่แต่พอคิดๆ ดูอีกที
ยิ่งทำงานนี้ไปเรื่อยๆ คุณกลับไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลยหนำซ้ำยังรู้สึกภูมิปัญญา
ลดน้อยถอยลงจะขอไปเรียนต่อเหรอ ฝันไปเถอะบริษัทบอนไซเหมาะมากกับคนที่
ไม่อย ากเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว พอแล้วกับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีเป้าหมาย
ในอนาคตไม่อย า กโตไปมากกว่านี้แต่ว่าไม่มีใครอย า กทำงานกับบริษัทแบบนี้แน่
ทำอย่ า งไร
ทำงานที่บริษัทบอนไซหมายถึงสัญญาณที่คุณจะต้องลาออกมาเข้าสู่วัฏจักร หางาน
สมัครงาน ใน 12 เดือน 18 เดือนแน่นอนเพราะบอนไซคือต้นไม้ที่ถูก ตั ด และเลี้ยง
ไว้ไม่ให้โตไปมากกว่านี้ หรือพูดอีกอย่ า งคือ ไม่ตา ย ก็เลี้ยงไม่โต
7. บริษัทที่ไม่มีอนาคต ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร
สังเกตเห็นได้อย่ า งไร
บริษัทคุณไม่มีแผนอะไรเลย ไม่ว่าระยะสั้น ระยะย า ว ระยะไหนๆ ไม่ว่าคุณ
จะไปถามใครในบริษัทก็ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งหัวหน้าคุณเอง
มันแย่แค่ไหน
บริษัทที่เปรียบเสมือนไททานิคที่ล่องไปในมหาสมุทรกว้างใหญ่ดูแล้วไม่มีอนาคตแบบนี้
ก็เหมือนบริษัทที่พร้อมจะ จ ม ลงได้ทุกเมื่อคุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรเมื่อเข้าไปเริ่มงานแรกๆ
อาจจะมองว่ามันเป็น ความท้าทายเป็นความเปลี่ยนแปลงในบริษัทที่เกิดขึ้นเหมือนชีวิต
ต้องหมุนเร็วตลอดเวลาแต่เมื่อทำงานไปแล้วคุณอาจจะพบว่าทุกอย่ า งมันเละ
ทุกอย่ า งถูกคิดและทำแบบวันต่อวันไม่มีการวางแผนไว้ก่อนระ วั ง ตัวไว้บางทีอาจ
จะมีสัญญาณเช่น “เดือนนี้ผมขอยังไม่จ่ายเงินเดือนนะ” ตามมาก็เป็นได้
ทำอย่ า งไร
ไม่ว่าภาพลักษณ์ของบริษัทจะดูดีแค่ไหน ตามที่คุณเห็นในสื่อต่างๆ แต่ถ้าบริษัท
ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ทำไปทำไมแสดงว่าบริษัทคุณไม่มีแผนกลยุทธ์
สิ่งที่คุณทำได้คือช่วยบริษัทคุณวางแ ผ น หรือลาออกไปทำงานที่อื่นซะดีกว่า
ขอบคุณที่มา Junjaonews