
เราทุกคนมีชีวิต และมีต้นทุนชีวิต ที่ต่างกันออกไปเราเลือกที่จะกำหนดชีวิต ของเราได้
เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้ตามที่ใจเราต้องการชีวิตคนเรา ก็มีทั้งสุขและทุ กข์ปะปนกันไป
เป็นสีสันชีวิตไม่มีใครที่จะมีสุขเพียงอย่ างเดียวและไม่มีใครที่จะมีทุ กข์เพียงอย่ างเดียวแต่เมื่อเรา
เป็นทุ กข์เราควรรู้ว่าเมื่อทุ กข์กับสิ่งใดก็ขอให้ตัวเรานั้นเดินออกมา จากสิ่งนั้น แต่เมื่อเดินออกมาไม่ได้
ก็จงอยู่ตรงนั้นให้เป็นคำพูดที่ว่า “สิ่งไหนที่ทำให้ทุ กข์ ก็ให้เราเดินออกจากสิ่งนั้น หากทำไม่ได้
ก็ต้องอยู่ให้เป็น”เมื่อเรามีความทุ กข์ ก็จงแก้ที่ตัวเราก่อนและการแก้ หมายถึงแก้ที่ความคิดเราเพราะ
หลายๆคนมีความทุ กข์จากความคิด ของตนคิดซ้ำ คิดย้ำและคิดเยอะ วนเวียนกับความทุ กข์แบบไม่จบสิ้น
แบกอดีตแบกเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาหรือที่ผ่านมาแล้วแต่เราไม่สามารถย้อนเวลาแก้ไขอะไรต่อมิอะไร
ได้สิ่งที่เราแบกคือความทุ กข์ ความเจ็ บป วดความเศร้ ามันจะวนเวียนอยู่เช่นนี้ ไม่จางไปไหนเลย
เมื่อรู้เช่นนี้แล้วจงแก้ที่ใจ ทุ กข์เกิดขึ้นจากตรงไหนจงแก้จากตรงนั้น ใจเรามันทุ กข์ ก็ให้แก้ที่ใจเราก่อน
ทุ กข์ให้รู้ว่าทุ กข์เจ็ บ ให้รู้ว่าเจ็ บ ผ่านลมหายใจเข้าออกเพลงลงไปในอารมณ์ ที่จะเกิดขึ้นจนกว่าความรู้สึกนั้น
จะดั บ ลง มีสมาธิมีสติ ผ่านการฝึกสมาธิเมื่อมีสมาธิ ก็จะมีสติ ปัญญาก็เกิดทุกอย่ างจะผ่านพ้นไปแล้วกลับมาใหม่
วนเวียนอยู่แบบนี้เรื่อยไป นี่แหละที่เขาเรียกว่าชีวิต แบบนี้แหละที่เรียกว่ามนุษย์หากเรารู้เท่าทันความทุ กข์
เราก็จะ ปล่อยวาง ปลง อภัย เท่านี้เองขอขอบคุณ ธรรมดับทุ กข์
ขอบคุณที่มา s a n – s a b a i