
ทุกคนล้วนมีภาระ และหน้าที่ที่แตกต่างกันไป รวมถึงภาระเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็เช่นกัน หลายคนอาจจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน มาเพื่อใช้จ่าย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่ถ้าถึงคราวต้องใช้คืน
แต่ลูกหนี้กลับมีเงินไม่พอ หรือยังไม่พร้อมด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ ย่อมทำให้ลูกหนี้เองเกิดความ เ ค รี ย ด ท้อแท้ มืดแปดด้านขึ้นมาได้ มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้าง
ที่จะเตรียมใจเราให้พร้อมรับมือ กับปัญหาหนี้สินได้โดยไม่ เ ค รี ย ด
ยอมรับความจริง!
ทุกปัญหาจะแก้ได้ ต้องเริ่มต้นจากการยอมรับให้ได้ก่อน ว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้ว หนี้สินก็เช่นกัน เมื่อมีภาระหนี้สินผูกพันซะแล้ว
การแสร้งทำเป็นลืม ๆ ไปไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย เพราะถึงแม้จะทำให้สบายใจได้ในวันนี้ แต่ไม่ว่าจะพรุ่งนี้หรือวันไหน ๆ หนี้ก็ยังอยู่
ถ้ายังไม่รู้จักแก้ไขให้ถูกต้อง หันกลับมาเผชิญหน้า ความจริงตั้งแต่วันนี้ดีกว่าปล่อยไว้จนสายเกินแก้
“คนมีหนี้” ไม่ได้แปลว่าเป็น “คนล้มเหลว”
หลายคนรู้สึกท้อแท้ ที่จะรับมือกับหนี้สิน เพราะมองว่าหนี้เกิดจากความไม่เอาไหนของตัวเอง ซึ่งไม่จริงเสมอไป
ทุกคนต่างมีความจำเป็นของตัวเอง ในโลกนี้มีคนมากมายที่ต้องพบกับปัญหาแบบนี้แช่นเดียวกับคุณ
และหลายคนก็สามารถผ่านพ้นมาได้สำเร็จ อย่ามัวโทษตัวเองอยู่เลย รีบลุกขึ้นสู้ไปด้วยกันเถอะ
ทำความเข้าใจเหตุผลที่แท้จริง
ลองตอบตัวเองให้ได้ว่า หนี้ที่มีนั้นเกิดมาจากอะไรกันแน่ เป็นเพราะความจำเป็นจริง ๆ หรือเพราะความฟุ่มเฟือยกันแน่
ถ้ามาจากความจำเป็นก็อย่าเสียใจ จำไว้ว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว และพร้อมจะรับผิดชอบผลของมันอย่างกล้าหาญ
แต่ถ้ามาจากความฟุ่มเฟือย รูดบัตรเพลินเกินตัวล่ะก็ รีบดัดนิสัยตัวเองโดยด่วน ก่อนจะเกิดหนี้ก้อนใหม่ตามมาติด ๆ
จำไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
ไม่ว่าปัญหา จะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็จะเบาลงได้ ถ้ามีคนช่วย แ ช ร์ อย่าเอาแต่แบกรับความกลุ้มใจไว้เพียงคนเดียว
ลองหันไปปรึกษาคนในครอบครัว หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ พวกเขาต้องพร้อมเป็นกำลังใจให้คุณแน่นอน
หรือคุณอาจจะลองเข้ากลุ่ม สังคมออนไลน์กับคนที่ประสบปัญหาหนี้สินเหมือน ๆ กัน
อาจจะได้คำแนะนำดี ๆ ก็ได้ เห็นไหมว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวเลย
“หนี้” เป็นแค่อุปสรรคเล็ก ๆ ในชีวิตเท่านั้น
คนเราเกิดมากว่าจะ ต า ย ย่อมต้องเจออุปสรรคมากมายเป็นธรรมดา ซึ่งถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าหนี้สินที่มีตอนนี้
ก็เป็นแค่ปัญหาจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งในชีวิตคุณเท่านั้น คุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคนบนโลกนี้เยอะ
ฉะนั้น จะยอมแพ้ง่าย ๆ ไม่ได้นะ
ลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
มองโลกในแง่ดีแล้ว อย่าลืมวางแผนการเงิน อย่างชาญฉลาด และลงมือจัดการกับหนี้สินอย่างจริงจัง
เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หารายได้เสริม และเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาข้อตกลงที่ลงตัวกับทั้งสองฝ่าย
เพียงเท่านี้ คำว่า “ปลอดหนี้” ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
มีหนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่สำคัญคือ ต้องมีสติ และมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ จำไว้ว่าฟ้าหลังฝนนั้นสดใสเสมอ!
ขอขอบคุณ w e a l t h i