
ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาแล้วรวยเลย แต่ทุกคนสามารถก้าวไปถึงความร่ำรวยได้หากมีความรู้
ความพย าย ามที่มากพอและไปได้ถูกทาง สิ่งหนึ่งที่ควรจะเปลี่ยนคือทัศนคติ หากมันดีทุกอย่ างจะดีตามเอง
ถ้าอย ากจะรวยเราก็ต้องดูว่าทำแบบไหนถึงจะไปถึงจุดนั้น แม้จะเป็นการไปช้า ๆ
แต่ก็ต้องค่อย ๆ ไปเดี๋ยวมันก็ถึงเอง และวิธีหยุดนิสัยเหล่านี้ มีน้อยก็ยังเหลือเก็บ
9 วิธีหยุดนิสัยฟุ่มเฟือย
1 วางเเผนการเงินทุกเดือน ก่อนจะซื้ออะไรไตร่ตรองถึงความจำเป็นสักนิด
2 ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
3 ลดการเดินห้าง ลดการช็อปออนไลน์
4 อย่ าจ่ายเพื่อหน้าตาทางสังคมมากเกินไป การอวดรวยเอาหน้ามันไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น
5 อย่ าพกเงินสดเยอะเกินไปและงดการใช้บัตรเครดิต
6 ไม่จำเป็นต้องไปสังสรรค์บ่อยนัก
7 สินค้าลดราคาก็ปล่อยมันผ่ านไปบ้าง
8 ของใช้ส่วนตัวบางอย่ างลดได้ลด เช่น เสื้อผ้า น้ำหอม เเอลกอฮอล์ รองเท้า กระเป๋า แต่งรถ ฯลฯ
9 ฝึกลงทุนให้เป็นนิสัยและมีวินัยในการลงทุน และหมั่นหาความรู้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ในยุคที่บ้านเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจไม่ดี และค่าครองชีพก็ยังจะเเพงขึ้นไปอีก
อย ากจะให้หลายคนลองอ่ า นเรื่องนี้ดู มี 8 ข้อคิดเตือนใจมาฝาก ว่าชีวิตคนเรานั้นมันไม่เเน่ไม่นอนนะ
อย่ าลืมวางเเผนและเตรียมรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ให้ดีด้วย โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
หากใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่คิดหน้าคิดหลังอนาคตจะลำบากอย่ างเเน่นอน แต่ละข้อมีอะไรบ้างมาดูกันได้เลย
1 คนเเก่ยังต้องทำงาน
สมัยนี้คนหนุ่มสาวมีลูกช้า เเต่งงานช้า เ ด็ ก ๆ มีน้อยแต่คนเเก่มีเยอะขึ้น ในหลาย
ประเทศก็เป็นแบบนี้รวมถึงไ ท ยเราด้วย เลยยังทำให้คนเเก่ต้องทำงานอยู่และหลายบริษัทก็เลือกจ้างคนเเก่อายุ 60 ปีเข้า
มาทำงานแล้วด้วย เพราะว่าประชากรส่วนมากเป็นผู้สูงอายุทั้งนั้น หากคุณยังหนุ่มยังเเน่นอย่ าลืมเก็บเงินให้เป็น
ลงทุนให้ได้และมีอะไรเป็นของตัวเองสักหน่อยพอแก่ตัวมาจะได้ไม่ต้องลำบากเรื่องเงินมากนัก
2 เงินหาย าก
มีหลายบริษัทเลิกกิจการ ลดจำนวนพนักงาน เลิกจ้าง ฯลฯ ทำให้หลายคนโดนเทกลางอากาศแบบงง ๆ
ก็ยังมีเลย เพราะมันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้นั่นเอง งานที่ดูเหมือนจะมั่นคงแต่มันก็ไม่มั่นคง
ฉะนั้นเราจะต้องรู้จักวางเเผน พย าย ามอย่ ามีรายได้เพียงทางเดียว
เพราะแค่ค่าเเรงขั้นต่ำ 300 มันไม่พอกิน บางทีจ่ายไม่ถึงด้วยซ้ำ ยิ่งหากอยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพสูงแล้วจะใช้ชีวิตกันยังไง
3 อิ ส รภาพทางการเงินไปถึงย ากกว่าเดิม
เชื่อว่าใคร ๆ ต่างก็อย ากมีอิ ส รภาพทางการเงินกันทั้งนั้น แต่มันก็ไม่ง่ายเลยนะ
จะหางานอะไรที่มันเป็น Passive Income จริง ๆ แทบไม่มีเลย แต่ก็มีอยู่เพียงแค่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้เท่านั้นเอง
แน่นอนว่ามันมีคนทำได้ แต่มันจะต้องทุ่มเทอย่ างหนักมาก มันไม่ใช่งานที่สบายเลย
งานทุกงานเหนื่อยหมด แต่คนเราจะมีอิ ส รภาพได้มันก็อยู่ที่หลายปัจจัย บางคนก็แบกภาระไว้เยอะเหลือเกินกว่าจะไปถึงฝันมันก็ช้า
เป็นธรรมดา สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ถึงได้คือ คุณจะต้องรู้จักเก็บเงินออม
และแบ่งเงินมาลงทุนให้เป็น เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหา ฯ เป็นต้น
4 หลังยุคด อ กเบี้ย 0 %
มันจะยิ่งเเย่ไปกว่าเดิมเพราะว่าเงินในระบบมันเยอะจนล้นแล้ว แต่ว่าเงินนั้นมันล้นไปอยู่กับคนรวยซึ่งในประเทศไ ท ยมีไม่กี่เปอร์เซ็น
เอง คนค่อยเกินกว่าครึ่งประเทศคือ ฐานะย ากจน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
5 ปัญหาครอบครัวมีเยอะขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องเงินบ้านไหนมีปัญหามันก็จะท ะ เ ล า ะกันบานปลายได้เลย เพราะมันลำบากกันทั้งบ้าน
บางบ้านหาเงินอยู่คนเดียวมันไม่พอกิน ไม่พอใช้จ่ายอะไรเลย ทุกวันนี้หลายบ้าน
ก็ต้องออกหาเงินกันทั้งสองฝ่าย ส่วนลูกหลานก็ให้คุณตาคุณย ายเป็นคนเลี้ยง
บางทีปัญหาอย่ างอื่นก็ตามมา เช่น เ ด็ กมีปัญหา ปัญหามือที่ 3 ปัญหาเงินขาด
ปัญหาติดเพื่อน หลงผิด ฯลฯ เเน่นอนมันจบลงที่ครอบครัวพั ง ฉะนั้นก็ต้องใส่ใจคนในบ้านตัวเองให้ดีด้วย
6 เงินเฟ้อเเฝง
มองง่าย ๆ เลย เงินมันอยู่กับเราเท่าเดิมแต่ข้าวของต่าง ๆ มันแพงขึ้น ปกติแล้วเงินเฟ้อมันขึ้นไปละ 3% เป็นของธรรมดาแต่ทุกวันนี้
มันเฟ้อเเฝงแล้ว ราคาข้าวของมันไม่ได้อิงตามค่าเเรงขั้นต่ำเลย มันเเพงมาก ค่าครองชีพสูงสุด ๆ เเทบจะอยู่ลำบากกันเลยทีเดียว
7 เงินมีอำนาจเหนือคน
เพราะทุกคนต่างทำทุกอย่ างเพื่อแลกกับเงิน มีหลายคนก็ยอมทำในสิ่งที่
ไม่ชอบเพื่อให้ได้เงินมา เพราะว่านั่นคือ เงินมันมีอำนาจเหลือกว่านั่นเอง
8 คอรัปชั่นจัดการไม่เคยหมดเเถมมีเยอะกว่าเดิมอีก
เงินมันหาย ากเวลาใครที่เห็นเงินเยอะ ๆ ก็อย ากจะโกงกิน อย ากจะคอรัปชั่น บางคนอย ากจะได้งาน อย ากได้ตำเเหน่งก็ยื่นเงินใต้
โต๊ะ เงินใส่ซองทำบุญอะไรก็ว่ากันไป ซึ่งไม่เคยจะสนใจความผิดถูกเลยขอแค่ให้ตนได้ในสิ่งที่ต้องการ
นั่นก็เพราะว่าเงินมันมีอำนาจเหนือกว่า เลยทำให้คนทำแบบนี้เพื่อได้มันและใช้มันในทางที่มิควร
ที่มา : sabuyjaijung