Home ข้อคิด หาเงินได้เท่าไหร่ แต่ทำไมยังไม่พอใช้จ่าย (อ่ านจบพบทางสว่าง)

หาเงินได้เท่าไหร่ แต่ทำไมยังไม่พอใช้จ่าย (อ่ านจบพบทางสว่าง)

7 second read
0
0
24

พูดกันติดปาก ตั้งแต่วัยทำงานจนถึง วัยเกษียณ ว่าหาเงินมาจ่าย ออกหมดหาเงินได้เท่าไหร่

ก็ไม่พอจ่าย หาเงินมา ไม่ทันได้ใช้ หาเงินมาได้ ก็ไม่เคยมีเงินเก็บคนทำงานทุกคน

ต่างต้องการเงิน เดือนสูงๆ รายได้ เยอะๆ กัน ทั้งนั้นอย่างน้อยที่สุด ก็ขอให้ได้เงินเดือน

ที่พอใช้จ่ายตลอดเดือนเหลือเก็บบ้าง เล็กน้อยก็ยังดี แต่สภาพสังคมปัจจุบันชีวิตของคนทำงาน

มีสิ่งที่ทำให้ต้องเสี ยเงิน เสี ย ค่าใช้จ่ายค่ามากขึ้นซึ่งแม้จะเป็นรายจ่าย ที่สำคัญ

แต่ ก็ไม่ได้ หมายความว่า จะเปลี่ยนแปลงหรือลดรายจ่ายไม่ได้

เช่น ค่า ผ่ อ น ชำระ บั ต ร เ ค ร ดิ ต ขั้นต่ำ ในแต่ละเดือน ค่าผ่ อ น สินค้า

ค่าบริการโทรศัพทมือถือ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าเสริมสวย-ซื้ อ เครื่องสำอางค่าใช้บริการฟิตเนส

ค่าน้ำมันรถ รายจ่ายเหล่านี้ เป็นการจ่าย เพื่อสิ่งที่ ‘อาจไม่จำเป็นต้อง มีต้องทำหรือ ต้องเป็น ’

แต่ ก็ยังดีกว่า รายจ่าย ในสิ่งที่ไร้ประโยชน์เช่นค่า เ ห ล้ า ค่า บุ หรี่ ค่า ห ว ย หรือ

ค่าใช้จ่าย สำหรับอบาย มุขต่างๆ เงินเดือนเท่าไหร่จึงจะพอกับ ความต้องการ

จึงเป็นปัญหาโลก แต กสำหรับ คนทำงาน หลายคนมีรายได้ มากกว่าตอนเริ่มต้นทำงาน

แต่ ก็ยังไม่พอใช้ จ่ายไม่พอใช้หนี้ ลองมองย้อน กลับไปในอดีตหากเราไม่ก่อหนี้

โดยเฉพาะหนี้บัต ร เ ค ร ดิ ต เพื่อซื้ อ สิ่งที่ต้อง การอย่างง่ายๆ ป่านนี้ คงมีเงินเก็บมากมาย

หากคนทำงาน อย่างคุณจ่ายค่า เ ห ล้ า ค่า บุ ห รี่ ในแต่ละวัน เท่าค่าใช้จ่าย ประจำวัน

โดยเฉพาะค่า ข้าวถ้าง ด เ ห ล้า ง ด บุ ห รี่ ในแต่ละเดือน

จะเหลือเงินค่าข้าวเป็นสองเท่าเลยทีเดียวหากคุณมีรายได้หลักพัน หรือหลักหมื่นต้นๆ

แต่ซื้ อ เสื้อผ้า เครื่องประดับราคาแพงใส่ไปทำงานใช้ โทรศัพท์มือถือเครื่องละหลายหมื่น

ที่ยังต้องผ่ อ น ดื่ม กาแฟแก้ว ละเกือบร้อยแม้จะเป็นความสุข ของคนทำงาน

ที่ถือเป็นการให้รางวัลตัวเอง จากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย แต่ความทุ กข์ที่ต้องจ่าย

หรือเป็นหนี้ จะตามมาในภายหลังพฤติกร รม และการใช้ชีวิต เช่นนี้ ส่งผลให้คนทำงานส่วนใหญ่

มีหนี้สินแม้แต่คนที่ทำงาน ได้เงินเดือนสูง แต่บริหารรายได้ ของตนเองไม่ดีก็ไม่เหลือเงินเก็บ

เพราะส่วนมากได้เงิน เยอะก็ใช้ เยอะตามไป ด้วยนี่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้อง กับความอย ากได้

อย ากมีของคน ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนเป็นเด็ กคุณอาจจะคิดว่ามีเงิน แค่ 1 ล้านบาท

ก็ถือว่ารวยแล้ว แต่เมื่อโตขึ้นมาเงิน1ล้านบาท อาจจะเป็นเงินจำนวน ที่น้อยมาก

ในสายตาคุณนั่นก็เพราะกิ เ ล ส ไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งคนเติบโตมากขึ้น เท่าไหร่กิ เล ส

ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นตาม ‘สภาพและฐานะ นุรูปที่คุณต้องสร้างภาพ ให้ปรากฏแกสังคม’

ดังนั้น ถึงจะมีเท่าไร ก็ไม่พอใช้ เพราะความต้องการ ที่เพิ่มขึ้น ลองพิจารณาดูว่าในช่วงเริ่มต้น

ชีวิตการทำงาน คุณอาจมีรายได้แค่หลักพัน หรือหลักหมื่นต้นๆจากรายได้ที่เพียงพอ

ต่อการใช้ชีวิตในหนึ่ง หนึ่งเดือน เมื่อคุณมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ รายได้ก็เกิด

การไม่พอใช้ต้องหมุนเงินเดือนชนเดือนหลังจากนั้น คุณก็จะเริ่มคิดว่า ถ้ามีเงินเดือนสามหมื่นบาท

ก็คงพอค่าใช้จ่ายอยู่ได้สบายๆ แต่เมื่อเงินเดือน คุณถึงสามหมื่นเมื่อไหร่ก็กลับเข้าสู่

พฤติกรร ม เดิมเงินสามหมื่น ที่คิดว่าพอสุดท้ายก็ไม่พออยู่ดี จากที่เคยคิดว่า ‘ใช้เท่าไหร่ ก็ยังไม่พอ’

พย าย ามเปลี่ยนมาเป็น ‘อย ากเก็บออม ให้ได้เยอะที่สุด จนรู้สึกว่า ออมเท่าไหร่ ก็ยังออมไม่พอ’

หรือสร้างหนี้ ได้แต่ต้องเป็น ‘หนี้เพื่อ อนาคต’ ออมเงิน กับประกันชีวิตและฝากเงิน

กับธนาคารจะได้ สบายตอนแก่ หรือมีเงินเก็บไว้ใช้หากเกิดเหตุการณ์ฉุ ก เฉิ น หรือเหตุการณ์

ที่ไม่คาดคิดขึ้นประเมินรายจ่าย จากเงินเดือน หรือรายรับอื่นๆ ก่อนเสมอเพื่อจัดสรรเงินเดือน

เป็นส่วนๆ คิดว่าควรจ่ายอะไรเท่าไหร่ บ้างจะได้ รู้ว่าที่จ่ายไปแต่ละเดือน

จนไม่เหลือกิน เหลือเก็บนั้น รายจ่ายส่วนใด ที่ไม่มีความจำเป็น ก็ค่อยๆ ตัดออกไป

เรียกง่ายๆ ว่าใช้จ่าย อย่างประหยัด หากเก็บออม 1 ปี ได้สัก 8 หมื่น เก็บออมได้ 3 ปี

เป็น 2 แสน 4 หมื่น ระหว่างนั้น อาจจะไป ฝากธนาคาร ลง ทุ นก็จะมีเงิน

เก็บเพิ่มได้แม้ในอนาคตข้าวของเครื่อง ใช้จะขึ้นราคา คุณก็ไม่เดือดร้อน อะไรถ้าเทียบกับคน

ที่ทำงานมา 3 ปี เท่ากัน แต่ไม่มีเงินเก็บ แม้แต่บาทเดียวที่สำคัญคุณจะมีเงิน

สำรองนอนนิ่งๆ ไว้ ใช้ได้ย าม ฉุ ก เ ฉิ น เช่น ย าม เจ็ บ ป่ วย หรือ

เกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ที่ทำให้คุณ ไม่สามา รถทำงาน ได้ อีกต่อไป

ขอขอบคุณ J u n j a o n e w s

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

หากบริหารเงิน 4 ส่วนนี้ได้ ชีวิตก็สบาย

การวางแผนและกำหนดเป้าหมายทางการเงิน เป็นวิธีการบริหารเงิน ที่เริ่มด้วยการออมเงิน ที่เป็นรา…