Home ข้อคิด “อยากจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ” อย่าเชื่อความคิดตัวเอง หากยังทำสิ่งนี้อยู่

“อยากจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ” อย่าเชื่อความคิดตัวเอง หากยังทำสิ่งนี้อยู่

10 second read
0
0
25

ขอเกริ่นก่อนว่า บทความนี้ไม่ได้เป็นการบอกสูตรในการเก็บเงิน ไม่ได้เป็นการบอก 10 เทคนิคในการเก็บเงินอะไรทำนองนั้น แต่เป็นการสร้างความเข้าใจเรื่องจิตวิทย าที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจใช้เงินของเรา

เพื่อเป็นการเข้าไป แก้ปัญหาที่ต้นเหตุโดยตรง ถ้าพร้อมแล้วเชิญอ่ าน บทความได้เลยครับ หลายคนเริ่มชีวิตวัยทำงานด้วยความคิดที่ว่า “หาเงินเองได้แล้ว จะไม่ขอเงินพ่อแม่แล้ว” “หลังจากนี้จะเริ่มต้นเก็บเงินเพื่ออนาคต” “เริ่มต้นออมเงินทีละน้อย แล้วค่อยๆ ออมให้เยอะขึ้น

จากนั้นเราก็จะกลายเป็นเศรษฐี ตั้งแต่อายุไม่เกิน 30” การตั้งเป้าหมายที่จะเก็บเงินตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างที่หลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว…ว่ามีน้อยคนที่จะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ บางคนก็เก็บเงินได้ แต่เก็บได้ไม่มากอย่างที่ตั้งใจ

บางคนเดือนชนเดือน หามาได้เท่าไรก็หายหมด หรือบางคนรายรับรายจ่ายยัง คงติดลบตัวแดงทุกเดือน ผ ล าญ เงินเก็บของตัวเองไปเรื่อยๆ ยังเริ่มเก็บเงินไม่ได้เลย

ข่าวดีก็คือ ความสามารถในการเก็บเงิน มันไม่ได้ติดมากับพันธุกรร ม มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกว่าคนนี้คือคนที่เก็บเงินอยู่และจะรวยในอนาคต คนนี้คือคนที่เส พ ติ ด การใช้เงินและคงย ากจนไปตลอดชีวิต

มันไม่ใช่แบบนั้น ความสามารถใน การเก็บเงินเป็นเรื่องที่ “ทุกคน” สามารถฝึกฝนได้ เพียงแต่ว่าเราต้องหัดฟังสิ่งที่ ส มอง บอกให้น้อยลงซักหน่อยก็เท่านั้น

เบื้องหลังพฤติกรร ม ใช้เงินฟุ่มเฟือย

ใครๆ ก็ชอบพูดว่าเงินซื้ อความสุขไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม จริงๆ แล้วทุกวันนี้เรากำลังใช้เงินซื้ อความสุขอยู่ และเป็น “ความสุขแบบเร่งด่วน (instant gratification)” ซะด้วย อย ากกินอะไรหวานๆ ก็เดินออกไปซื้ อชานมไข่มุก กินเข้าไปมีความสุขทันที

เครีย ดจากงาน ก็ไปช็อปปิ้งซื้ อของ ได้จ่ายเงินออกไปก็มีความสุขทันที (หรือบางคนเครีย ดก็ไปจบที่ชานมไข่มุกเหมือนเดิม) ข้อดีของความสุข แบบเร่งด่วน คือ มันให้ความสุขกับเราได้อย่างรวดเร็ว ส่วนข้อเสียก็คือ ความต้องการส่วนนี้มันไม่มีที่สิ้นสุด

เราไม่ได้กินอาห ารอร่อยๆ แค่ครั้งเดียวแล้วจะไม่อย ากกินอีกเลยตลอดชีวิต อะไรที่ให้ความสุขกับเรา เราก็จะอย ากทำมันอยู่เรื่อยๆ นั่นแหละแล้วทำไมเราถึงชอบความสุขง่ายๆเร็วๆ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ต้องย้อนไปถึงเส้นทางการวิวัฒนาการของมนุษย์เรา สิ่งมีชีวิตไม่ว่าชนิดใดก็ตามจะมีสัญชาตญาณบางอย่างในตัวที่คล้ายกัน

นั่นก็คือ ความต้องการอาห าร ความต้องการสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้เ ผ่ า พั น ธุ์อยู่รอด เพื่อที่จะให้สิ่งมีชีวิตหาอาห ารและเข้าสังคมอยู่ตลอดเวลา ธรรมชาติจึงกำหนดไว้ว่าถ้าทำสิ่งนี้แล้วจะให้ความสุขเป็นรางวัลทันที

ถ้าอย ากได้ความสุขก็ต้องหาอาห าร ถ้าอย ากได้ความสุขก็ต้องแสวงหาการยอมรับจากสังคม (ซึ่งในปัจจุบันแสดงออกด้วยการซื้ อของแพงๆ มาประดับบารมี) เป็นเหมือนกลลวงให้สิ่งมีชีวิตไล่ตามความสุขเพื่อดำรงเ ผ่ า พั น ธุ์ต่อไป ระบบการให้รางวัลแบบนี้ถูกสร้างและพัฒนามาเนิ่นนานตั้งแต่หลายล้านปีก่อนแล้ว

ระบบนี้ฝังตัวอยู่ในส่วนของ ส มอง ด้านใน สาเหตุที่มันต้องไปซ่อนตัว อยู่ด้านในเพราะ มันมีความสำคัญกับการดำรงอยู่ของ เ ผ่ า พั น ธุ์ มันจำเป็นต้องถูกปกป้อง เมื่อสังเกตจากรูปเปรียบเทียบส มอง ของคนกับ สั ต ว์ ชนิดต่างๆ

จะเห็นว่าส มอง ส่วนนี้แทบไม่เปลี่ยนไปเลย ดังนั้นมันจึงฝังลึกเกาะติดส มอง เราอย่างเหนียวแน่น ถึงแม้รูปร่างเราจะแตกต่างจากสั ตว์อื่นมากมาย แต่ส มอง ด้านในเรายังคล้ายกันเสมอ

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราเอา ส มอง ยุคหลายล้านปีที่แล้วมาใช้ในปัจจุบัน

ขอยกตัวอย่างสิ่งมีชีวิตหนึ่ง นั่นก็คือ สุนัข ถ้าเกิดสุนัขตัวหนึ่งมีความสามารถในการหาอาห ารได้ เข้ากับกลุ่มได้ สื บ พั น ธุ์ ได้ วันว่างๆ ก็ไปนอนเล่นอยู่หน้าประตูเซเว่นฯ นั่นก็ถือว่าสุนัขตัวนั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้วในฐานะสุนัขตัวหนึ่ง

ระบบการให้รางวัลในส มอง ของสุนัขทำงานได้เป็นอย่างดีกับการใช้ชีวิตของสุนัข แต่สำหรับมนุษย์ ส มอง แบบนั้นมันไม่เวิร์ค ชีวิตมนุษย์มีความซับซ้อนกว่า ชีวิ ต สุนัขหลายร้อยเท่า การไล่ตามความสุขแบบผิวเผินไปวันๆ มีแต่จะทำให้ชีวิตของเราแ ย่ลง

ความสุขจากการนอนตื่นสายทำให้เราโดนเจ้านายด่า ความสุขจากการกินขนมทำให้เราอ้วน ความสุขจากการช็อปปิ้งซื้ อของทำให้เราไม่มีเงินเก็บและลำบากในระยะย าว ฯลฯ การไล่ตามความสุขระยะสั้นโดยไม่คิดถึงอนาคตมันไม่ตอบโจทย์ชีวิตเราอีกต่อไป

และข่าวร้ ายก็คือ เราไม่มีทางกำจั ดความอย ากต่างๆ ให้หายไปจาก ส มอง เราได้ เว้นเสียแต่ว่าในอนาคต ส มอง มนุษย์จะวิวั ฒนาการแล้วกำจั ด ส มอง ส่วนด้านในนี้ออกไป

แล้วเราต้องทำอย่างไร ในเมื่อเราเปลี่ยน ส มอง ไม่ได้

จริงอยู่ที่เราไม่สามารถกำจั ด ความ อย ากซื้ อนู่นซื้ อนี่ออกไปจาก ส มอง ได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ส มอง จะบอกให้เราไล่ตามความสุขอยู่เสมอ สิ่งที่เราทำได้ถ้าอย ากให้ชีวิตดีขึ้น คือ เราต้องมีสติ แยก “สิ่งที่ให้ความสุข” กับ “สิ่งที่จำเป็น” ออกจากกันให้ได้

นี่คือเรื่องที่คนถูกส มอง ของตัวเองหลอกอยู่บ่อยๆ เราชอบคิดว่าอะไรที่ให้ความสุขกับเรา คือสิ่งจำเป็นในชีวิต เราขาดมันไปไม่ได้หรอก ขาดไปแล้วต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่เป็นความจริงเลย มันเป็นแค่การล่อลวงของส มอง ที่หลอกให้เราทำนู่นทำนี่ตามสัญชาตญาณยุคดึกดำบรรพ์แค่นั้นเอง

ความจริงแล้วถึงเราขาดมันไปเราก็อยู่ได้ แถมอาจจะอยู่ได้ดีกว่าเดิมด้วย เพราะหลายครั้งสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข มันไม่ได้มีประโยชน์กับเราเสมอไปการกินของอร่อยให้ความสุข แต่อาจจะไม่ได้ดีต่อสุขภ าพ การดูซีรีส์ให้ความสุข แต่อาจจะทำให้เสียการเสียงาน การซื้ อของเยอะๆ ให้ความสุข

แต่อาจจะทำให้เราไม่มีเงินเก็บและลำบากในอนาคต ถ้าเรามีสติ แล้วแยกแยะได้ว่าสิ่งที่เรากำลังอย ากอยู่ตอนนี้ มันจำเป็นกับเราจริงๆ หรือเป็นแค่การไล่ตามความสุขระยะสั้น เราก็จะสามารถควบคุมชีวิตของเราได้ดีขึ้นรวมถึงเรื่องการเงินของเราก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน

เพราะเราได้เปลี่ยนจากการมองหาความสุขแบบเร่งด่วน (instant gratification) ให้กลายเป็นการมองหาความสุขใน ระยะย าว (delayed gratification) เรียบร้อยแล้ว

สรุป

ถ้าเราอย ากประหยัดขึ้น ไม่อย ากใช้เงินเยอะเกินความจำเป็นเราต้องรู้ทัน ความคิดตัวเองอยู่เสมอ ช่วงแรกการหักห้ามใจอาจจะทำได้ย าก แต่ถ้าฝึกทำให้ได้บ่อยๆ เราก็จะหักห้ามใจได้ง่ายขึ้น ทุกครั้งที่เกิด “ความอย าก” ลองถามตัวเองดูว่า สิ่งที่เรากำลังจะจ่ายเงินซื้ อมันมีประโยชน์กับเราจริงๆ หรือไม่

มันจำเป็นกับเราจริงๆ หรือไม่ หรือมันแค่ความสุขชั่ วคราวและกำลังจะส่งผลร้ ายในอนาคต อย่าลืมว่า “สิ่งที่ให้ความสุข” ไม่ใช่ “สิ่งที่จำเป็น” เสมอไป ถ้าอย ากเก็บเงินให้ได้เยอะขึ้น อย่าเชื่อส มอง ของตัวเองมากครับ

ขอขอบคุณ f i n n o m e n a

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

หากบริหารเงิน 4 ส่วนนี้ได้ ชีวิตก็สบาย

การวางแผนและกำหนดเป้าหมายทางการเงิน เป็นวิธีการบริหารเงิน ที่เริ่มด้วยการออมเงิน ที่เป็นรา…