
อยากทำมีหลายที่ที่อยากไป มีหลายอย่างที่ต้องการ และหนึ่งในนั้น….คือ “การมีเงินเก็บ”
มีเงินออม มากพอที่จะสามารถนำไปใช้จ่าย กับสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แต่ทว่าในยุคปัจจุบัน สิ่งที่หลายคนต้องพบเจอ คือ การมีเงินไม่พอใช้
บ้างก็ใช้เดือนชนเดือนตลอด อาจเกิดจากการใช้เงินมากเกินตัวค่าครองชีพสูงเกินไป
ค้าขายไม่ดี งานไม่เป็นไปตามแผน ฯลฯ บางคนทำงานมานานหลายปีแต่ยังไม่มีเงินเก็บก็มีนะ
และอาจเป็นสัญญาณบอกว่าการวางแผนด้านการเงินของเรา อาจมีปัญหาแล้วล่ะ
วันนี้เรามีตัวอย่างของผู้ที่เก็บ เงินดีเด่นมาฝากบอกเลยว่า…มนุษย์เงินเดือนที่ได้อ่าน
จะต้องมีกำลังใจ ในการเก็บเงินแน่นอนมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา….
หญิงสาวคนหนึ่งได้ แ บ่ ง ปั น วิธีเก็บเงินอย่างละเอียดโดยเธอเน้น การเก็บแบบเรื่อย ๆ
ไม่ได้ตั้งเป้าอะไรสูงเพราะเธอทำงานเป็น “พนักงานเซเว่น”เงินเดือนเพียง 9,300 บาท
ใช้จ่ายธรรมดาค่าอยู่ค่ากิน ก็แทบจะไม่พอแล้วแต่เธอทำได้!
การเก็บเงินของเธอ คือวางแผนตั้งแต่เงินเดือนออก กดออกจากธนาคารมาให้หมดแล้ว
หักค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่จำเป็นของเดือนออกไป คราวนี้ก็จะไม่ต้อง “เป็นหนี้”
ส่วนค่ากินนั้นก็ต้องมีการวางแผนด้วย นึกภาพให้ออกว่า…วันนึงเรามีความจำเป็น
ต้องใช้เงินไปกับอะไรแค่ไหนแล้วทำการ แยกเอาไว้เป็นถุงๆ จนครบเดือน
เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นถ้า เป็นเหรียญยิ่งดี
เพราะมันจะทำให้รู้สึก ขี้ เ กี ย จไม่ อยากหยิบมาใช้จ่าย ส่งผลให้มีเงินเหลือมากขึ้น
แล้วเธอจะนำเงินที่เหลือในแต่ละวันนี่แหละ มาเป็นกองกลางสำหรับใช้จ่ายอะไรก็ได้
ในส่วนสุดท้าย เธอได้เลือกการออมเงินโดยการนำเงินที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
ไปลงทุนกับสลากออมทรัพย์ของ ธกส. ทั้งยังรับเสื้อผ้า มือ 2 มาขาย
เพื่อหารายได้เสริมสรุปง่ายๆ คือ ทุกๆ เดือน
เธอจะแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ในแต่ละเดือน
ส่วนที่ 2 คือ ค่ากิน ค่าใช้จ่ายรายวัน ถ้าเหลือก็จะเข้ากองกลาง สำหรับซื้ออะไรก็ได้
ส่วนที่ 3 คือ เงินออมสำหรับการลงทุน ต่อยอดให้งอกเงยนั่นเอง
การออมก่อนแต่ใช้ทีหลัง เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมาก ลองทำดูนะครับ
ขอขอบคุณ อ่ า น ส นุ ก