
“ออมเงิน” ชื่อเรียก แสนจะง่ายดาย แต่ทำไมทำ ย า ก จัง จะออมเงินแต่ละบาทในแต่ละเดือน
พอมีรายได้เข้ามาเพียงแปปเดียวก็หมดเกลี้ยงจนผมมานั่งพิจารณาถึงสาเหตุที่ไม่เคยเก็บเงินออมได้สักที
แล้วก็ได้คำตอบว่า กระเป๋าเดียวใช้ ครอบจักรวาล หรือได้เงินมาเท่าไหร่ รวมเงินไว้ใช้กระเป๋าเดียว
จ่ายทุกสิ่ง อาทิ เคลียร์หนี้สินรายเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงจ่าย ด อก เบี้ยเงินกู้ต่างๆ
ใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว เช่น ค่ากินรายวัน เรื่องสำคัญในครอบครัว เช่น ค่าของใช้ในบ้าน
ค่ากินรายวันของคนในบ้านนอก จากค่าใช้จ่ายหลักๆ ข้างต้น สิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ในอนาคต
เช่น ค่าซ่อมรถ ค่า รั ก ษ า พ ย า บ า ล เป็นต้นเพราะฉะนั้นวันนี้เราควรตั้งสติและ
เริ่มออมเงินด้วยการเปลี่ยนจาก “กระเป๋าเดียวจ่ายทุกสิ่ง” เป็น “แยกกระเป๋าใช้จ่ายเป็นเห็นเงินออม”
ผมมีเคล็ดลับจาก มาฝากครับ
1. กระเป๋าใช้ เอาไว้ใช้จ่ายอย่างเดียว
กระเป๋าส่วนนี้ สำหรับใช้จริงๆ ค่าใช้จ่ายหลักๆ ตาม 3 ข้อที่เล่าให้ฟังข้างต้น เคลียร์หนี้สินรายเดือน
ใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว เรื่องสำคัญในครอบครัวเราควรแยกไว้ ที่กระเป๋านี้ทั้งหมดครับเคล็ดลับสำคัญ
ของกระเป๋าใช้ คือ การจดบัญชี รายรับรายจ่าย เริ่มแรกผมจะเขียนไว้ก่อนเลยว่าตอนนี้
มีรายการหนี้สินอะไรบ้าง รวมแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ มันจะทำให้ผมรู้ว่าจะสร้างหนี้เพิ่มได้อีกหรือไม่
จะได้ไม่มีหนี้สินติดตัวมากเกินไป แล้วถ้าเงินหมดเร็วกว่าที่คิดไว้เมื่อเราเปิดบัญชีดูย้อนหลัง
ก็สามารถรู้ได้เลยว่าเดือนนี้เราหมดเงินไปกับอะไรบ้าง มันจำเป็นจริงหรือไม่ เพื่อที่เดือนหน้า
เราจะได้สามารถจัดการเงินของเราได้ดีกว่าเดิมครับ
2. กระเป๋าเก็บ เก็บออมเงินอย่างเดียว
กระเป๋าเก็บนี้ผมตั้งใจ จะไม่หยิบมาใช้เลยครับ เพราะผมจะออมเพื่อเป้าหมายที่ผมตั้งไว้
เช่น แต่งเมียเข้าบ้าน ฮิ้วววว! หรือใช้เวลา ฉุ ก เ ฉิ น เ จ็ บ ป่ ว ย เท่านั้นเคล็ดลับง่ายๆ
เริ่มจากวันที่เงินเดือนออก ผมจะหัก 10% ของเงินเดือน เช่น เงินเดือน 12,000 บาท
ผมจะเก็บ 1,200 บาท ไว้กับกระเป๋าเก็บเลยครับ ไม่เอามาปนกับกระเป๋าใช้
ส่วนวิธีเก็บผมแนะนำให้เปลี่ยนจาก หยอดกระปุกมาเป็นการเปิดบัญชีออมทรัพย์ที่ธนาคารแทนครับ
เงินกระเป๋าเก็บสามารถนำออกมาใช้ได้ ย า ก นั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดครับ
แถมยังได้ ด อ ก เบี้ยด้วยนะครับ ลองคำนวณง่ายๆ เก็บเดือนละ 1,200 บาท
ครบปีมีเงินเก็บตั้ง 14,400 บาทเลยนะครับ
ข้อดีเมื่อ..แยกเงินเป็น 2 กระเป๋า แล้ว…
สรุปสุดท้ายนะครับ การมี 2 กระเป๋าแยกเป็น “กระเป๋าเก็บและกระเป๋าใช้”
จะทำให้เรารู้ว่าเงินก้อนไหน เก็บไว้เพื่ออนาคต และเงินก้อนไหนเอาไว้ใช้ในปัจจุบัน
มันช่วยให้เราจัดการ เรื่องเงินได้ง่ายขึ้น ชีวิตเราก็จะมีเงินออมไว้ใช้ ย า ม ฉุ ก เ ฉิ น
แบบไม่ต้องมีความกังวลอีกต่อไป
ขอขอบคุณ t i d l o r