
เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่อย ากให้เพื่อนๆ ได้อ่ านไม่สำคัญว่า มีทรัพย์มาก
หรือน้อยแต่สิ่งสำคัญคือต้องใช้ให้น้อยต่างหากชีวิตจึงจะมีเหลือมากกว่าขาดคนจนยิ่งจน
เพราะทำรวย คนรวยยิ่งรวย เพราะทำจนทำตัวให้เป็นปกติ ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นชีวิตก็จะเป็นปกติ
ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีเป็นคนอาภัพอั บโชคที่สุดในโลก ยินดีในสิ่งที่ตนได้พอใจ
ในสิ่งที่ตนมีเป็นคนโชคดี ที่สุดในโลกอดทนได้ จงอดทน อดใจได้ จงอดใจ ไม่อดทนไม่อดใจ
เรื่องเล็กจักกล ายเป็นเรื่องใหญ่คนที่มีความสุขมิใช่คนที่มีมากที่สุดแต่เป็นคนที่ต้องการน้อยที่สุด
ยิ่งมีความต้องการน้อยลงสมบัติที่มีอยู่เดิม ก็ดูเหมือนมีมากขึ้นความสุขหรือความทุกข์ของชีวิต
บางครั้งเหมือนการมองผ่านกระจกหากกระจก ใสสะอาดเมื่อมองสิ่งใดย่อมมีแต่ความสุขปราศจาก
ความขุ่นมัวหากกระจกขุ่นมัว เมื่อมองสิ่งใด แม้เป็นสิ่งเดียวกันก็มีแต่ความทุกข์ใจจงจำไว้ว่า
ความสุขอยู่ไม่ไกลเพียงเช็ดกระจกให้ใส เช็ดใจให้สะอาดเท่านั้นเองทุกข์อยู่ที่ใจ
ทุกข์ของใครก็ของมันทุกข์อยู่ที่ใจ ใครจะเก็บไว้ก็ช่างมันสุขอยู่ที่ใจฉันเก็บมันไว้ทุกวันสุขอยู่ที่ใจ
ฉันจะให้กันและกันฝึก 9 อย่างนี้ ความทุกข์จะเข้าไม่ถึงใจเราวิธีการฝึกจิตใจของตัวเอง
ไม่ให้ฟุ้งซ่ าน ให้มีสมาธิและสติอยู่ตลอดเวล าโดย ก ู รู ได้ชี้แนะให้ประชาชน
ได้ลองฝึกควบคุมจิตใจของตัวเอง และเมื่อทำได้ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเองจิตใจเราจะได้
สงบและไม่เป็นทุกข์ มาดูกันเลยครับ
1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่ าเป็นคนตัวใหญ่จงเป็นคนธรรมดาอย่ าเป็นคนสำคัญ
เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเราอย่ าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป
2. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม
หมายความ ว่าการสะสมอะไรสักอย่ า งนั้นเป็นภาระไม่มีอะไร ที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระ
ยกเว้นความดีนอกนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย
3. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ
หมายความว่าอย่ าไปบ้ า กับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริง
มีแต่คนโ ง่เท่านั้นที่มองว่า ความสมบูรณ์แบบมีจริง
4. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ
หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่ าไปพูดมากไม่ว่าสิ่งนั้น
จะถูกหรือผิด แต่ถ้ามันไม่ดีเป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูด เพราะการพูดหรือวิ จ า รณ์
ในทางเ สี ยหายนั้นมีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำ และขุ่นมัว
5. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติ
ว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป
เวล ามีความทุกข์ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไปเวลามีสถานการณ์แ ย่ๆ เกิดขึ้น
ก็ให้รู้ทันว่าเรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้ อยู่กับเราจนวันต า ย
6. ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา
หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัว ว่าเราต้องถูกนินทาแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทา
ขอให้รู้ว่า “เรามาถูกทางแล้ว” แปลว่าเรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้นแร้ ง เต้นกา
กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลกแม้แต่ คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูกคนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่
นับประสาอะไร กับคนอื่นถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ค่อยมาคิดว่า เราจะไม่ถูกนินทา
7. ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจาก ความเป็นข ี้ข้าของเงิน
หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่รถยนต์ใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมันนาฬิกาใช้อะไรอยู่
ก็หัดพอใจกับมันเสื้อผ้ าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมันการที่คนเราจะเลิกเป็นข ี้ข้ า เงินได้ต้องเริ่ม
จากการรู้จักเพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้วก็ไม่ต้องหาเงินมาก เมื่อไม่ต้องหาเงินมากชีวิต
ก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน
8. ฝึกให้ตัวเองเสียสละ
และยอมเ สี ยเปรียบหมายความว่า การที่คนๆหนึ่งยอมเสี ย เปรียบผู้อื่นบ้าง
เป็นเรื่องจำเป็นใครก็ตามที่บ้ า ความถูกต้องบ้ า เหตุ บ้ า ผลไม่ยอมเสี ย เปรียบ อะไรเลยไม่ช้า
คนๆ นั้นก็จะเป็นบ้ า สติแ ต ก กลาย เป็นคนที่ถูกทุกอย่างแต่ไม่มีความสุขเพราะต้องสู้รบ
กับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น
9. ฝึกอยู่กับปัจจุบัน
เคยได้ยินไหม คำนี้“อยู่กับปัจจุบัน” พูดง่ายนะแต่ทำย ากมากๆการอยู่ปัจจุบัน
ก็คือการไม่หลง เข้าไปในความคิดของตน สติเท่านั้นที่จะเป็นตัวรู้ตัวดูว่าตอนนี้เราคิด อะไรอยู่
สังเกตุดูง่ายๆ หากเรากำลังรู้สึกหดหู่ใจนั่นแปลว่า เรากำลังอยู่กับอดีตหากเรากำลังรู้สึกกังวลใจ
นั่นแปลว่า เรากำลังอยู่กับอนาคตหากเรากำลังรู้สึก ดี และมีความสุขนั่นแปลว่า
เรากำลังอยู่กับปัจจุบัน พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า แนะนำว่า ให้ทำทีละอย่างโฟกัสทีละงาน
ความทุกข์จะเข้าไม่ถึงใจเราแน่นอน 9 ข้อนี้ลองฝึกกันดูนะคะ เพื่อทางแห่งการพ้นทุกข์
ไม่อย ากทุกข์นี่แหละ คือการดับทุกข์ด้วยตัวเอง
ขอขอบคุณ p o s t s a b a i d e e