Home ข้อคิด ข้อคิดสอนใจดีมากๆ “อย่าอวดดี..เป็นม้าพันลี้”

ข้อคิดสอนใจดีมากๆ “อย่าอวดดี..เป็นม้าพันลี้”

0 second read
0
0
33

อย่ าทำตัวเป็นม้าพันลี้ อย่ าคิดว่าตนเก่งกว่าใครที่เมืองแห่งหนึ่ง มีม้าหนุ่มพันลี้อยู่ตัวหนึ่ง ที่มีความแข็งแรง และเก่งมากสามารถวิ่ง

ได้ระยะทางเป็นพันลี้ โดยที่ไม่เหนื่อยเลย และยังวิ่งได้เร็วมากอีกด้วยม้า

ตัวนี้รู้ว่าตัวเองนั้น มีความสามารถมากเพียงใด ใครๆก็ต้องการมัน

มันจึงรอให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และดีเทียบเท่าเท่านั้น ที่จะยอมให้ขี่มันในระหว่างที่รอคนที่ม้าคิดว่าเหมาะสม

ก็ได้มีผู้คนมากมายเข้ามาหาพ่อค้า ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่า “เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่”

ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า “ม้าฝีเท้าดีๆแบบข้า ทำไมจะต้องยอมไปกับเจ้า แค่ไว้ใช้งานส่งของด้วยล่ะ”ทหาร ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้

และถามว่า “เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่”ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า

“เจ้าเป็นแค่ทหารธรรมดา ทำไมข้าจะต้องไปรับใช้คนแบบเจ้าด้วยล่ะ”

นายพราน ได้เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่า “เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่”ม้าพันลี้ส่ายหัว และตอบว่า “ข้าเป็นถึงม้าพันลี้ ทำไมต้องไป

ทำงานหนักรับใช้นายพรานแบบเจ้าด้วยล่ะ”เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปี ม้าพันลี้ตัวนี้ก็ยังคงค้นหาเจ้านายที่ใฝ่ฝันไม่เจอสักที

ถึงแม้ที่ผ่านมา จะมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาหา แต่เจ้าม้าพันลี้ตัวนี้ ก็ไม่ยอมรับใช้ใครเลยข่าวความเก่งกาจสามารถของม้าพันลี้

ได้แพร่กระจาย จนไปถึงในวังหลวงและได้มีรับสั่งตามพระราชโองการ ให้ขุนนางท่านหนึ่ง ไปตามหาม้าพันลี้

ไม่นาน ขุนนางพบกับม้าพันลี้ ก็ได้แนะนำตัว และไถ่ถามเมื่อม้าพันลี้รู้ว่า คนที่มาหาตนเป็นถึงขุนนางชั้นสูง ก็ดีใจอย่ างมากที่จะได้

รับใช้คนที่เหมาะสมกับตนเอง ที่ตนรอคอยมานานแสนนานมาพันลี้ จึงได้พูดกับขุนนางว่า ” ข้าคือม้าพันลี้ ที่ท่านตามหาอยู่ “

แต่ก่อนที่ขุนนางจะพากลับไปในวัง จึงได้ถามม้าพันลี้ว่า ” เจ้าเชี่ยวชาญเส้นทางในประเทศเราไหม “ม้าพันลี้ตอบว่า ”

ไม่ เพราะข้าไม่ได้เดินทางไปไหนนานมากแล้ว “ขุนนาง ก็เลยถามต่อ ” เจ้าเคยมีประสบการณ์ ในการสู้สมรภูมิรบบ้างไหม “

ม้าพันลี้ตอบว่า ” ไม่ ข้าไม่เคยเข้าร่วมรบ เพราะข้าไม่รับใช้ทหารธรรมดาๆ “

ขุนนาง ก็เลยถามต่อ ” เจ้าเคยเข้าป่า เพื่อให้คนขี่ใช้วิ่ง ล่ า สั ต ว์ ไหม “ม้าพันลี้ตอบว่า ”

ไม่ ข้าไม่ใช่ม้าธรรมดา ที่จะให้นายพรานมาใช้งานหรอก “ขุนนาง เลยพูดขึ้นว่า ” แล้วข้าจะเอาเจ้าไปใช้ประโยชน์อะไรได้อีก “

ม้าพันลี้บอกว่า “ข้าวิ่งเวลากลางวันได้ วันละ พันลี้ กลางคืน แปดร้อยลี้ “ขุนนางจึงให้ม้าพันลี้ ลองวิ่งให้ดู เพื่อทดสอบความแข็งแรง

และความเก่ง ที่เขาล่ำลือกันเมื่อม้าพันลี้ เริ่มออกวิ่ง มันรู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่จะได้โชว์ความสามารถของตัวเองสักที

แต่พอมันออกวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว มันก็หอบหายใจเหนื่อยซะแล้วขุนนาง จึงพูดขึ้นว่า “เมื่อก่อนตอนหนุ่ม เจ้าคงจะเก่งมากจริงๆ

ตามที่คนล่ำลือกันไว้ แต่ตอนนี้เจ้าแก่แล้ว ไม่ไหวแล้ว ถ้าข้าเอาเจ้าไป คงใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีกแล้ว “

หลังจากพูดจบ ขุนนางก็เดินจากไปในทันที ในขณะที่ม้าพันลี้ยังเหนื่อยหอบไม่ทันหายนิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า…อย่ าทำตัวเป็น

“ม้าพันลี้” อย่ าอวดดี คิดว่าตนเองเก่ง เพราะเหนือฟ้า ยังมีฟ้าเสมอกาลเวลาผ่านไป

อะไรๆก็เปลี่ยน ไม่มีอะไรอยู่คงทน แม้แต่ความสามารถ

เมื่อก่อนเราอาจจะเก่ง แต่สักวันก็ต้องมีคนมาแทนที่เราจนได้และหากเรายิ่งหลงทะนงตน

ไม่ยอมฝึกฝน หรือหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองจะยิ่งทำให้เราหยุดพัฒนาตนเอง และถอยหลังมากกว่าเดิม

ในขณะที่อีกคน รู้ว่าตัวเองไม่เก่งเท่าคนอื่น จึงพย าย ามฝึกฝน หาความรู้อยู่ตลอดเวลาสุดท้ายเขาก็จะพัฒนามาเทียบเท่า และแซง

เราไปในที่สุดเพราะฉะนั้น จงอย่ าประมาทในการใช้ชีวิตและอย่ าประเมินความสามารถคนอื่นต่ำเกินไป อย่ าชะล่าใจ

ที่มา : bitcoretech

Load More Related Articles
Load More By wansuk2
Load More In ข้อคิด

Check Also

ถึงเวลาแล้ว..จงเป็นผู้หญิงที่สง่างามและมีความสุข

คุณป้าท่านหนึ่งในพันทิปบอกกับเราว่า อายุขนาดประมาณหนูนี่แหละ อยู่ในวัยแข็งแรงกำลังทำงานหลา…