Home ข้อคิด “ตอนตกงาน” จะเริ่มตั้งหลักชีวิตอย่างไร ถึงเวลาพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

“ตอนตกงาน” จะเริ่มตั้งหลักชีวิตอย่างไร ถึงเวลาพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

4 second read
0
0
73

การตกงาน มีสาเหตุได้หลายอย่าง บางคนสมัครใจว่างงานด้วยตัวเอง ในขณะที่บางคนโดนบริษัททำ ร้ า ย ด้วยการเชิญให้ออกจากงานถ้าใครโดนอย่างหลัง ก็คงมีบ้างที่จะรู้สึกเสียใจ เสียเซ้ลฟ์เสียศูนย์

แต่เมื่อเวลาล่วงเลย อยากจะกลับมาโชว์ความสามารถในออฟฟิศ อีกรอบจะทำยังไงดี ว่างงานไปช่วงหนึ่งแล้วกลัวโดนปฏิเสธอีกรอบ วันนี้มีเคล็ดลับ 5ข้อมาแนะนำกันค่ะ

1. มองหางานที่คิดว่าเหมาะสมจริง ๆ

จริง ๆ แล้วการที่ว่างงานก็ถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะมีเวลาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ และได้ใช้เวลาตระหนักถึงความต้องการที่แท้จริงของชีวิตมากขึ้นลองคิดดูว่าเรามีความสามารถ ความถนัด

หรือความชอบด้านใดเป็นพิเศษและนอกเหนือไปจากนั้น อย่าลืมเรียงลำดับความสำคัญด้านอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการสมัครงานด้วย เช่น สวัสดิการ ค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผล

และอื่น ๆคราวนี้เมื่อเราต้องหางานใหม่อีกครั้ง จะได้เลือกงานที่ใช่กับเรามากที่สุด

2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เมื่อมีโอกาสได้ว่างงาน บางทีอาจมีเผลอใช้ชีวิตตามสบายเกินไปบ้าง เช่นนอนตี 3 ตื่นบ่าย 2 ตื่นแล้วไม่อาบน้ำ ไม่แต่งตัว เมื่อคุณอยากจะกลับเข้าตลาดงานอีกครั้ง คงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กลับเข้ามาใกล้เคียงวงจรชีวิตคนทำงานให้มากที่สุด

พยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเข้าเวปไซต์หางาน หรือถามหาโอกาสการรับคนเข้าทำงานจากเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องหาความรู้รอบตัว ที่เกี่ยวข้องกับตลาดงานจากทุกสื่อให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อเตรียมความพร้อมกับการถูกเรียกสัมภาษณ์งานอีกครั้ง

3. ปรับปรุงเรซูเม่

หยิบเรซูเม่ฉบับเก่าขึ้นมาอีกครั้งแล้วอัปเดทเสียใหม่ ถ้าคุณมีโอกาสอันดีได้ทำงานฟรีแลนซ์ หรือโปรเจกต์อื่นใดในช่วงที่ว่างงานอยู่ก็อย่าลืมเพิ่มเติมลงไปด้วย จงจำไว้ว่าเรซูเม่ที่มีช่วงเว้นว่างของระยะเวลา

บางช่วงไปจะเป็นช่องว่างให้บรรดาเหล่าผู้จ้างงานถามว่า ณ ช่วงเวลานั้น เราหายไปไหนมา ทำอะไรอยู่ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ในช่วงที่ว่างงาน ก็อย่าลืมเอาเวลาไปพัฒนาตัวเองในด้านที่ เราขาดด้วยนอกจากฝึกฝนเพิ่มเติมทักษะเฉพาะตัวแล้ว ยังทำให้เรซูเม่เราดูน่าค้นหามากขึ้นกว่าเดิมด้วย

4. ปรับแก้ทัศนคติ

คนที่เคยตกงานมาในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการตกงานโดยสมัครใจ หรือด้วยภาวะจำยอมก็ตามทีอาจเป็นไปได้ว่าเกิดความหดหู่ในชีวิต เสียความมั่นใจบางส่วนจากการทำงาน หรือบางคนอาจถึงขั้นมีทัศนคติไม่ดีกับออฟฟิศเดิมหัวหน้าเดิม แบบแค้นฝังหุ่น

ถ้าคุณเข้าข่ายเป็นผู้มีทัศนคติในแง่ลบดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วละก็ ขอบอกเลยว่าขอให้หยุด แล้วปรับทัศนคติใหม่ ให้เป็นไปในทางบวกเสีย เพราะอะไร ๆ ก็ตามที่เราคิด มันจะยึดติดอยู่ในจิตใต้สำนึกเราอย่างเหนียวแน่น

ซึ่งมีผลต่อการแสดงออกทางความคิด และอารมณ์ของเราด้วย ความรู้สึกในส่วนนี้ ถ้าตามเราเข้าห้องสัมภาษณ์ไปด้วยคงไม่ดีแน่ ๆ เชื่อเถอะว่าทุกองค์กรอยากได้คนที่มีทัศนคติในทางบวกเข้าไปร่วมงานกับองค์กรมากกว่าแน่นอนค่ะ

5. สัมภาษณ์งานแบบมือโปร

การสัมภาษณ์งานเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการสมัครงาน เป็นการสร้างความประทับใจครั้งแรกให้กับผู้ที่คุณจะเข้าไปร่วมงาน ด้วยในอนาคตดังนั้นการแสดงออกในระหว่างการสัมภาษณ์งานจะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่จะบอกว่าคุณจะได้ไปต่อหรือไม่

การแสดงออกที่ว่าไม่ใช่แค่เพียงการพูดจาตอบคำถามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแต่งตัวไปสัมภาษณ์งานให้ถูกต้องเหมาะสมกับกาลเทศะ สุภาพ ไม่ควรใส่สีฉูดฉาด หรือนุ่งสั้นเพื่อแสดงออกถึงความน่าเชื่อถือของตัวเราเตรียมเอกสารเกี่ยวข้องที่สำคัญไปให้พร้อม

(ทางที่ดีควรสอบถามทางฝ่ายบุคคลที่ โ ท ร ม า นั ด ก่อนวันสัมภาษณ์ว่าควรเตรียมอะไรไปบ้าง) อุปกรณ์เครื่องเขียนสำหรับกรอกใบสมัคร และเมื่อถึงตอนที่ต้องสัมภาษณ์งาน ควรตอบด้วยเสียงดังฟังชัดสบตาผู้สัมภาษณ์ตอบด้วยความมั่นใจ คิดก่อนตอบ ไม่ต้องรีบ

ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าพูดโอ้อวด อย่า โ ก ห ก หรือสร้างภาพให้เกินจริงเมื่อถูกถามว่าทำไมถึงออกจากงานเก่า ไม่ควรกล่าวพาดพิง หรือต่อว่าที่ทำงานเก่าอย่างเด็ดขาดนะคะ จะทำให้คุณดูไม่ดีมาก ๆในสายตาของผู้สัมภาษณ์งาน

และอย่าลืมเล่าด้วยว่าระหว่างที่คุณว่างงาน คุณได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ หรือได้รับความรู้อะไรใหม่ ๆ ที่จะนำมาช่วยในการทำงานครั้งต่อไปของคุณได้บ้าง…ถ้าทำได้แบบนี้แล้วละก็เชื่อเลยว่า คุณจะได้งานสมตามความปรารถนาอย่างแน่นอนค่ะ

ขอขอบคุณ j o b s d b

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…