Home ข้อคิด ทำงานมาหลายปี แต่ทำไมถึงไม่มีเงินเก็บเหมือนคนอื่น(เตือนสติดีมาก)

ทำงานมาหลายปี แต่ทำไมถึงไม่มีเงินเก็บเหมือนคนอื่น(เตือนสติดีมาก)

14 second read
0
0
80

ไหนมีใครทำงานมา 5 ปีแล้ว ยังไม่มีเงินเก็บในบัญชีบ้าง ไม่ต้องยกมือแค่คุณรู้อยู่ในใจของคุณคนเดียวก็พอ

จากคำถามข้างต้นทำไมต้องทำงาน 5 ปี ก็เพราะคนส่วนใหญ่ เมื่อได้งาน เริ่มมีเงินเดือน ในปี 2 ปีแรกยังสนุกกับการใช้เงินที่หามาได้จากการทำงานอยู่น่ะสิ

บางคนรู้สึกตัวไวหน่อยพอเริ่มเข้าสู่ปีที่ 3 ก็จะเริ่มเก็บเงินเพราะอยากได้บ้าน อยากได้รถกันแล้ว แต่ก็มีไม่น้อยที่ทำงานได้เงินมาก็ใช้จ่ายทำงานเป็นสิบปี

ไม่มีเงินเก็บเลยก็มี วันนี้เราจะมาเปิดประเด็น แบบเจาะลึกว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราไม่มีเงินเก็บเหมือนคนอื่นเขา

ไม่วางแผนชีวิต

เหตุผลแรกเลย ที่ทำให้หลายคนพลาดคือ การไม่รู้จักวางแผนอนาคตให้ตัวเอง เชื่อไหมว่าบางคนเรียนจบมาทำงาน ก็ทำไปวัน ๆ ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตเลย

กินเที่ยวไปวัน ๆ บางคนก็อ้างว่าไม่มีภาระอะไรที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งความจริงแล้ว ถ้าคนที่คิดได้คิดเป็น ภาระหน้าที่ที่ต้องตอบแทนบุพการีที่เขาส่งเสียเลี้ยงดูจนเรียนจบ

หรือแม้แต่การรับผิดชอบตัวเองในยาม เ จ็ บ ป่ ว ย หรือแก่เฒ่า หรือการวางแผนเผื่อยามฉุกเฉิน ทุกอย่างที่ว่ามาล้วนเป็นภาระหน้าที่ที่คนธรรมดาทั่วไปควรต้องทำ

ถ้าไม่อยากลำบากตอนแก่ ก็ต้องวางแผนการเก็บเงินตั้งแต่อายุยังน้อย

เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็สิ้นเดือน…เดี๋ยวเงินเดือนก็ออก

เมื่อทำงานมีรายได้ เป็นเงินเดือนในทุก ๆ สิ้นเดือนเลยใช้จ่ายแบบสบายไม่ต้องคิดมากเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็สิ้นเดือน…เดี๋ยวเงินเดือนก็ออก

มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่คิดแบบนั้น ถ้าคุณก็เป็นคนหนึ่ง ที่คิดแบบนั้น ไม่ต้องแปลกใจที่คุณไม่มีเงินเก็บ

เหลือใช้แล้วค่อยเก็บ

100% ของคนที่คิดแบบนี้ จะมีเงินไม่พอใช้และไม่เคยมีเงินเก็บ เพราะธรรมชาติของคนเรา เมื่อมีเงินในมือ ไม่ว่าใครก็มักใช้เกลี้ยงแน่นอน

ดังนั้น ถ้าอยากมีเงินเก็บต้องแบ่งเก็บก่อนใช้ จึงจะช่วยให้คุณมีเงินเก็บได้

ตกหลุมพรางทางการตลาด

อะไรคือหลุมพราง บัตรเครดิตที่รูดไว้ก่อนค่อยผ่อนทีหลัง ของลดราคาที่ใช้ไม่ใช้ไม่เป็นไรซื้อไว้ก่อนตอนนี้ กำลังลดราคา ของมันต้องมี

เพื่อนมีฉันก็ต้องมีบ้าง สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้คุณอยากได้อยากมีจนลืมนึกไปว่า สิ่งเหล่านั้นเราเสียเงินซื้อไปเพื่อสนองความต้องการของตัวคุณเอง

และสังคมรอบข้าง หากไม่มีเหมือนใคร เขาก็กลัวอาย กลัวน้อยหน้า แต่หารู้ไม่ว่าคุณกำลังตกหลุมพรางของการตลาดเข้าอย่างจัง

และมีหลายต่อหลายครั้งที่ซื้อไปแทบไม่เคยจะหยิบเอามาใช้เลยด้วยซ้ำ

มีความสุขกับปัจจุบัน

ฟังดูดี มีความสุขกับปัจจุบัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน เคยไหมวันนี้ทำงานอยู่ดี ๆ พรุ่งนี้เกิด ป่ ว ย โดยไม่คาดคิด

แต่ถ้าไม่ใช่แค่การ ป่ ว ย เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เป็นการ ป่ ว ย ที่ต้องใช้เงิน รั ก ษ า หรือเขาให้ออกจากงานกะทันหันล่ะ

เมื่อวานยังทำงานได้ แต่วันนี้ไม่มีงานทำแล้ว จะทำอย่างไร เข้าใจว่าทำงานเหนื่อยมันก็ต้องมีบ้างในการให้รางวัลกับตัวเอง

ใช่…ข้อนี้ไม่ผิด แต่ต้องมีความพอดี พอประมาณ แบ่งความสุขจากการได้กินได้ใช้มาเป็นเงินเก็บบ้าง

อย่างน้อยก็อุ่นใจ ที่ยังมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน หากไม่เกิดอะไรขึ้นก็ถือเป็นเงินเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณ คิดแบบนี้จะดีกว่าไหม

คงไม่มีใคร ที่อยากลำบากตอนแก่ ในวัยที่เรายังมีแรง มีกำลังสามารถทำงานหาเงินได้ก็แบ่งเก็บแต่เริ่มต้น

เพราะเราไม่รู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีเงินสำรองไว้ดีกว่าไม่มีเงิน ที่สำคัญการมีเงินเก็บ

ทำให้เรามีทางเลือกมากกว่าการไม่มีเงินเก็บเลย ดังคำที่ว่ามีเงินเดือนสูงเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ากับมีเงินเก็บเท่าไหร่

ประโยคนี้ไม่ได้เป็นแค่คำพูดไว้เท่ ๆ อีกต่อไป แต่มันคือเรื่องจริง ที่คนใช้ชีวิตแบบฉลาดเขาใช้กัน

ขอขอบคุณ n o r t h a d a m s o p e n s t u d i o s

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…