Home ข้อคิด นิสัย 9 ข้อที่คุณไม่ควรจะมี หากจะเป็น “เถ้าแก่เงินล้าน”

นิสัย 9 ข้อที่คุณไม่ควรจะมี หากจะเป็น “เถ้าแก่เงินล้าน”

8 second read
0
0
18

การจะทําธุรกิจซักอย่างหนึ่ง ให้ประสบความสําเร็จให้ได้นั้น คุณต้องวางแผนการอย่างรัดกุม ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่คุณคาดหวังไว้ว่าซักวันหนึ่งธุรกิจตัวนี้จะต้องเป็นธุรกิจเงินล้านได้อย่างแน่นอน

การวางแผนระยะย าวจะต้องมาจากแผนระยะสั้น หลายๆ แผนเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าสามารถจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่

ปัจจัยต่างๆ ล้วน มีผลกับธุรกิจของคุณทั้งสิ้น ไม่ว่าจะสถานการณ์บ้าน เ มื อ ง สภาวะเศรษฐกิจของโลกหรือประเทศ แต่ปัจจัยสําคัญที่สุดนั้นก็คือ ตัวคุณเองความเคยชินในชีวิตประจําวันบางอย่าง

ก็ไม่เหมาะกับการนํามาใช้ เป็นวิธีทางการทําธุรกิจ ในบทความนี้จะได้ยกสิ่งที่ควรเลี่ยง 9 ประการ ที่คุณอาจลืมนึกถึงไปบ้ างหรือบางประการที่คาดไม่ถึงก็มี

ถ้าคุณสามารถเลี่ยงนิสัย 9 ประการนี้ได้เชื่อแน่ว่าซักวันหนึ่งคุณจะกลายเป็นเถ้าแก่เงินล้านอย่างแน่นอน

1.อย่าใจร้อน การจะล ง ทุ น ทําธุรกิจซักอย่าง

คุณจะต้องตรวจสอบ ข้อมูลในด้านต่างๆอย่างรอบคอบถี่ถ้วนเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นทําเลที่ตั้งว่าเหมาะสมกับรูปแบบของธุรกิจหรือเปล่าเช่น เปิดธุรกิจร้านอ า ห า รแต่ทําเลที่เปิดอยู่ในตรอก

ที่ ไม่ค่อยมีคนผ่าน ไม่มีโรงงาน ไม่มีบริษัทที่มีพนักงานประจําจํานวนมาก แต่รีบตัดสินใจเปิดเพียงเพราะว่าที่ถูกอย่างนี้ก็เติบโตได้ย ากอย่างสินค้าที่จะเลือกมาจําหน่าย

นั้นก็ควรที่จะรู้กลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว มันก็เปรียบเสมือนการเอาเหยื่อปลาที่ ปลาชนิดหนึ่งชอบ ไปล่อไว้ในแหล่งที่มีปลาชนิดนั้นมันก็สมเหตุสมผลดีอยู่แล้ว

นั้นหมายความว่าก่อนที่จะเริ่มลงมือทําธุรกิจจริงคุณก็ผ่านกระบวนการกลั่นกรอง ทางความคิดให้มาก สมมุติสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้และแนวทางแก้ปัญหา ถ้าคุณสามารถหาวิธีแก้ปัญหาตามที่คิดไว้

นั้นได้ทั้งหมดก็ตัดสินใจเปิดธุรกิจได้เลยแม้ว่าในสถานการณ์จริงอาจมีปัญหาบางปัญหาที่คุณคาดการณ์ไว้ ไม่ถึงแต่ก็น่าจะเป็นส่วนใหญ่แล้วที่คุณได้เตรียมการณ์รับมือไว้ล่วงหน้า

และอย่าลืมเรื่องสําคัญที่สุดอย่างเรื่องงบประมาณคิดเผื่อไว้เลยว่าคุณ สามารถขาดทุนได้นานเพียงใด และในช่วงเวลานั้นคุณสามารถ ทําให้ธุรกิจของคุณติดตลาดแล้วเลี้ยงตัวมันเองได้หรือไม่

ฉะนั้นอย่าใจร้อนไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม

2.อย่าใช้จ่ายเงินโดยที่ไม่มีการบันทึกรายรับรายจ่าย

เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่หลายๆ คน มักมองข้ามไป เพียงเพราะคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ที่สามารถที่จะยืดหยุ่นกันได้นิดๆ หน่อยๆ คงไม่เป็นไร เป็นความคิดที่ผิดนะครับคุณรู้ไหม

ว่ามีรายจ่ายเบ็ดเตล็ดอีกหลายรายการที่เกินจําเป็น และหากว่าไม่มีการบันทึกมันไว้คุณก็จะไม่มีทางรู้อีกเลยเช่นกัน และเมื่อนานไปเงินส่วนเหลือใช้พวกนี้มันก็จะสะสมมากขึ้นเป็นก้อนใหญ่

และทําให้คุณไปไม่ถึงฝั่งฝันได้ในที่สุด มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ นะในตอนที่คุณกําลังมองไปที่บัญชีรายรับรายจ่ายส มอง ของคุณก็จะประมวลผลได้ทันทีว่ามีจุดไหนเป็นสิ่งเกินจําเป็น

และวางแผนที่จะตัดส่วนนั้นออกไปในที่สุด หรือแม้กระทั้ง คุณจะพบว่าควรไปเพิ่มเติมส่วนไหนจึงจะมีรายรับเพิ่มมากขึ้นประโยชน์อีกอย่างในการทําบัญชีรายรับรายจ่าย

ก็คือตอนที่คุณจะต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ หรือไม่ก็ปรับปรุงพัฒนาธุรกิจเดิมบัญชีตัวนี้ แหละที่จะอํานวยความสะดวกให้คุณได้อย่างมหาศาล ดียิ่งกว่าสมุดบัญชีธนาคารซะอีก

3.อย่าถอดใจถ้าการดําเนินธุรกิจยังไม่ครบรอบ

คนทําธุรกิจส่วนหนึ่ง มักถอดใจล้มเลิกธุรกิจ ไปกลางคันเสียก่อน เพียงเพราะเจอปัญหาบางอย่าง ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน พย าย ามมองในระยะย าวไว้การทําธุรกิจก็ต้องมีอุปสรรคบ้ างเป็นธรรมดา

เป็นบททดสอบว่าหากคุณไปอยุ่ในจุดที่สูงกว่านี้ ปัญหาหนักกว่านี้คุณพร้อมจะรับมือมันหรือเปล่า คําหนึ่งที่คุณควรทําความเข้าใจคือรอบธุรกิจเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับ ฤดูกาลใน 1 ปี เขตร้อนก็จะมี 3 ฤดู

เขตหนาวก็จะมี 5 ฤดู แต่ละฤดูก็มีเอกลักษณ์เฉพาะ ฤดูหนาวอากาศเย็น ฤดูร้อน อากาศร้อน ฤดูฝนฝนก็ตกธุรกิจเองก็เช่นกันไม่ว่าธุรกิจนั้นจะครองตลาดส่วนมากแค่ไหนย่อมต้องมีรอบของมัน

ช่วงระยะเวลาใดธุรกิจทําเงินได้มากช่วงเวลาใดธุรกิจทําเงินได้น้อย อย่างน้อยๆคุณต้องอยู่สัมผัสมันให้ครบหนึ่งรอบเสียก่อนเพื่อวางแผนการแก้ปัญหาสําหรับรอบต่อไปแต่ละธุรกิจมีรอบไม่เท่ากัน

และระยะเวลาของช่วงทําเงินกับช่วงขาดทุนก็สั้นย าวไม่เท่ากัน คุณต้องเรียนรู้ให้หมดว่าธุรกิจมีช่องโหว่ช่วงไหน เหมือนจะเห็นได้ว่าห้างร้านใหญ่ๆก็มักจะจัดโปรโมชั่น

ในช่วงเวลาที่เป็น low ร้านอ า ห า รก็จะจัดโปรโมชั่ น ช่วงกลางสัปดาห์ หรือ ก่อนปลายเดือน อย่างนี้เป็นต้นที่นี้ ลองยกตัวอย่างธุรกิจรอบย าว 1 ปีดูบ้ าง

อย่างธุรกิจกวดวิชาจะมีช่วง low ในช่วงปิดเทอมซึ้งใน 1 ปี มีช่วง ปิดเทอม 2 ครั้งนอกจากนั้นยังมีช่วง วันหยุดย าวอีกบางช่วง อย่างช่วงปีใหม่ หรือตรุษจีน อันนี้ก็จะไม่ค่อยกระทบซักเท่าใด

เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาย าว ช่วงปิดเทอมเด็กนักเรียนที่เรียนประจํา ก็จะหยุดพักกันไปซะส่วนใหญ่สิ่งที่ คุณต้องทําก็คือสังเกตว่าในช่วง low นี้ที่ยังเหลืออยู่เป็นนกลุ่มใด

จากนั้นก็วางแผน ก ร ะ ตุ้ นการขายส่งเสริมโปรโมชั่ นให้กลุ่มนี้ไปเลยเต็มๆ หรือลองจัดกิจกรร ม อื่นดู หรือไม่ก็เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายไปที่เด็กระดับอื่นบ้ างเมื่อวางแผนไว้แล้วก็ลองใช้ในรอบธุรกิจต่อไป

แล้ววิเคราะห์ว่าผลที่ได้คุ้มค่าตามต้องการ หรือไม่หรือว่ายังไม่คุ้มเท่าที่ควรก็วางแผนแก้ไขกันใหม่ ในรอบธุรกิจต่อไป อย่างนี้เป็นต้น ลองปรับประยุกต์ไปตามธุรกิจของคุณละกัน

4.อย่าเลี่ยงคําติเตียน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อย ากพัฒนาธุรกิจแล้วล่ะ ก็รู้ไว้เลยว่าปกติแล้วคนที่จะติเตียนคุณเนี้ย มีแค่ 2 ประเภท คือ คนที่อิจฉาคุณ กับคนที่รักและเป็นห่วงคุณเท่านั้นต่างกันตรงที่ว่าคนที่อิจฉานั้นจะติเตียนลับหลังคุณ

แต่คนทีรักและเป็นห่วงคุณนั้นจะติเตียนคุณต่อหน้าตรงๆ ดังนั้นหากมีใครมาติธุรกิจหรือการบริหาร งานของคุณจงฟัง และขอบคุณเค้าซะนั้นแสดงว่าเค้าเป็นห่วงคุณเหลือเกิน

การที่คนๆ หนึ่งจะรวบรวมความกล้าพูดติเตียนคุณซึ้งๆ หน้านั้นต้องผ่านการพินิจพิเคราะห์กลั่นกรองคําพูด วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดตามมารวมไปถึงคิดว่าจะกระทบกับจิตใจคุณอย่างไร

ด้วย จนสุดท้ายพ่ายแพ้เหตุผล ที่ว่าหากไม่บอกธุรกิจคุณล้มแน่เมื่อทุกเหตุผล มันลงตัวเค้าจึงจะตัดสินใจพูดกับคุณนี้คือ เงาสะท้อนที่ดีที่สุดของธุรกิจเลย และธุรกิจที่เติบโตได้เร็ว

ส่วนมากก็จะนําข้อติเตียนเหล่านั้นนั่นแหละมาเป็นประเด็นหลัก แล้วหยิบยกไปแก้ปัญหา ทําให้ธุรกิจนั้นๆเติบโตขึ้นและครองใจ คนส่วนมากได้ในที่สุด

5.อย่าอคตกิบัธุรกิจของตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่คุณมี

อคตินั่นนแสดงว่า คุณกําลังถอดใจต้องลองมองย้อนกลับ ในข้อแรกว่าก่อนการเริ่มธุรกิจนั่นคุณ ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของคุณเลยว่า มันจะประสบความสําเร็จและไปรอดในที่สุดแล้ว

แค่เพียงอุปสรรคเล็กน้อย คุณก็เริ่มมีอคติแล้วธุรกิจของ คุณมันจะไปรอดได้อย่างไร ความคิดอคติที่ว่านี่ก็อย่างเช่นธุรกิจนี้น่าจะไม่เหมาะกับทําเลแถวนี้หรือเปล่า

หรืออาจคิดว่า สินค้าของคุณไม่ดีเหรอ เว้นเสียแต่ว่าในข้อห้ามข้อแรกคุณ ไม่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดรีบร้อน ทําธุรกิจจนลืมวิเคราะห์ปัญหาที่จะ เกิดนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

6.อย่าหมิ่นเงินน้อย

ธุรกิจในช่วงเริ่มต้น นั่นจะทําเงิน ได้ไม่มากเท่าที่ควรอาจเรียกได้ว่าไม่คุ้มเลยก็ว่าได้ แต่ในเมื่อคุณผ่านข้อห้ามข้อแรกมาได้แล้วนั่นแสดงว่า คุณเองก็มีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจของคุณจะสามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน

ดังนั้น ควรจะวางแผนการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ ให้เหมาะสม กับธุรกิจดีกว่ามานั่งอมทุกข์ว่าได้เงินน้อยจัง ซักวันหนึ่งเงินน้อยๆหลายๆก้อนนี้แหละที่จะทําให้คุณเป็นเศรษฐีพันล้าน

ยกตัวอย่างง่ายๆ คุณคิดว่าทําน้ำพริกขายเนี้ยกําไรจะมากซักเท่าไหร่เชียว ใครๆ ก็ทําน้ำพริกเป็นแต่ทําไมเจ้าของธุรกิจเหล่านั้นเขายังยืนหยัดสู้จนเป็นส่วนหนึ่งของตลาดได้ในที่สุด ไม่แพ้พวกแบรนด์ดังๆเสียด้วยซ้ำ

ข้อแตกต่างมันอยู่ ที่ทัศนคติ เจ้าของธุรกิจเหล่านี้เค้าผ่านรอบธุรกิจมาแล้วหลายรอบ เค้ามองออกว่าจุดไหนสามารถพัฒนาได้อีก 1 กระป๋องกําไร 1 บาทล้านกระป๋องก็กําไรล้านบาทแล้ว

ไม่เห็นต้องคิดให้ยุ่งย ากเลย คุณคิดมาตั้งแต่แรกแล้ว ก็จงมุ่งมั่น มั่นใจทําให้สําเร็จให้ได้

7.อย่าให้คนอื่นทํางานให้

ฟังแล้วเหมือนกับขัดหลัก การบริษัทห้างร้านใหญ่ๆ แต่มันคือหลักสําคัญ เพราะว่าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจคุณต้องรู้ขั้นตอนของธุรกิจทุกอย่าง รู้ปัญหาทุกอย่างและรู้วิธีแก้ปัญหาทุกอย่าง

ถึงแม้ว่าธุรกิจของคุณ จะเติบโตขึ้นมาจนมีพนักงานหลายร้อย คุณก็ต้องลงมือเข้าไปหางานทุกส่วนด้วยตัวเอง แค่เพียงถามไถ่ก็ดีมากมายแล้วคุณก็จะได้รู้ด้วยว่าพนักงานของคุณเค้ารักธุรกิจเหมือนที่คุณรักหรือเปล่า

พนักงานก็ จะรักและเคารพคุณ ยิ่งขณะมีปัญหายิ่งดีคุณสามารถแสดงแสนย านุภาพ ของคุณให้เค้าเหล่านั่นได้เห็นการแก้ปัญหาของคุณ ที่ทั้งคมทั้งฉับไวเท่านี้ทุกคนก็คงต้อง ยอมสยบให้ความทุ่มเทของคุณ และก็จะทุ่มเทให้ธุรกิจของคุณ อย่างแน่นอน

8.อย่าตกยุค

ข้อมูลข่าวส า รสําคัญมาก สําหรับทุก ธุรกิจ ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวต่างประเทศ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ข่าวเทคโนโลยี แทบทุกข่าวจะทําให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลง

ของสถานการณ์บ้าน เ มื อ ง ทั้งในและนอกประเทศ คุณก็สามารถที่จะคาดการณ์ ได้ล่วงหน้าว่าอาจพบกับวิ ก ฤ ต อะไรต่อไปหรือไม่ ควรเตรียมตัวรับมืออย่างไร

หรือว่าจะพลิก วิ ก ฤ ตเป็นโอกาสได้อย่างไรดี ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ คุณรับเข้ามาทั้งนั้น

9.อย่าปล่อยให้ ร่ า ง ก า ย อ่อนแอ

คงไม่ดีแน่หากคุณหาเงิน มามากมายก่ายกอง เพื่อจองห้องพิเศษสุดในโรงพย าบาลชั้นเฟิร์สคลาส ที่ทั้งสุดหรูและสุดแพง มันไม่คุ้มกัน แค่เพียงคุณจะหาเวลาออกกําลังให้บ่อยๆ

ไม่ต้องหาข้ออ้างว่าไม่มีเวลา เพราะเวลานั่นป็นต้นทุนได้เปล่า ทุกคนได้รับมาคนละ 24 ชั่ วโมงเท่ากัน คุณจะเอามาแบ่งทําอะไรบ้ างต่างหากแค่เพียงเจียดเวลาซักวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่ วโมง

หาสถานที่ออกกําลังกายจะที่ไหนก็ได้เปลี่ยนที่บ้างก็ได้ ดีไม่ดีอาจได้ขย ายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆด้วยก็ได้ คนมีความคิดดีอยู่ที่ไหนก็ทําธุรกิจได้

การสังสรรค์หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ลดหาอ า ห า ร ที่ดีมีประโยชน์ต่อสุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ยบ้างเพราะคุณใช้ส ม อ งในการคิดมากทีเดียวต้องบํารุงให้ถึงที่อ า ห า ร สดสะอาด

ดีกว่า อ า ห า ร เ ส ริ ม อย่างแน่นอนราคา ก็ถูกกว่า เท่านี้คุณก็สามารถมีสุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ยแข็งแรงไว้ลุยงานสานฝัน มีสุ ข ภ า พ ส ม อ ง ที่ปลอดโปร่งไว้คิดแก้ปัญหา หรือวางแผนล่วงหน้าได้อย่างสบายๆ แล้ว

ขอขอบคุณ s m e l e a d e r

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…