Home ข้อคิด รักแบบนี้..เป็นความสัมพันธ์แบบกาฝาก (มันไม่ใช่ความรัก)

รักแบบนี้..เป็นความสัมพันธ์แบบกาฝาก (มันไม่ใช่ความรัก)

0 second read
0
0
123

เรื่องเล่าเตือนสติ.. ความสัมพันธ์แบบกาฝากหลาย ๆ คนมักเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักว่า “ถ้ารักกันแล้วเราต้องขาดกันไม่ได้”ตัวอย่ างเช่น เมื่อเราเลิกกับแฟนไปแล้ว

ไม่ว่าหญิงชายที่โดนแบบนี้มักจะกินไม่ได้นอนไม่หลับคิดถึงเค้าอยู่ตลอด คิดมาก บางคนถึงกับคิ ด สั้น เลยก็มีงั้นเราขอหยิบยกเรื่องราวของคนไข้สาวรายหนึ่งที่แฟนหนุ่มพึ่งจากไปเพื่อเป็นกรณีศึกษาเตือนสติ

“ฉันไม่อย ากอยู่ต่อไปแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาค่ะหมอ”เธอรำพึงรำพันกับ จิ ต แ พ ท ย์ ซึ่งเธอลืมไปแล้วว่าก่อนหน้าที่เธอจะมีเขาเธอก็ใช้ชีวิตอยู่มาได้ด้วยตัวคนเดียวตลอดแต่เมื่อขาดเขาไปกลับคิดว่าตัวเองจะอยู่ไม่ได้

“ฉันรักเขามากค่ะ คุณหมอคงทราบใช่ไหมคะว่าหนูรักเขามากขนาดไหน”ทุกถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเอ่ออาบแก้ม จิ ต แ พ ท ย์ ยื่นกระดาษทิชชูเช็ดน้ำตาเธอจนหมดกล่อง

“สงสัยคุณจะเข้าใจผิดแล้วแหละครับ คุณผู้หญิง คุณไม่ได้รักแฟนคุณเลยสักนิด”

จิ ต แ พ ท ย์ เอ่ยขึ้น

“คุณหมอพูดแบบนี้ได้อย่ างไรค่ะ ก็ฉันพึ่งจะพูดไปว่าขาดเขาไม่ได้ ถ้าขาดเขาแล้วหนูก็ไม่อย ากมีชีวิตอยู่ต่อไป”เธอแสดงความไม่พอใจออกมาอย่ างชัดเจน จิ ต แ พ ท ย์ ยกมือขึ้นปรามเธอพร้อมอธิบาย

“สิ่งที่คุณพูดกับหมอมาทั้งหมดมันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกครับความสัมพันธ์ของคุณกับเขาเรียกว่า ความสัมพันธ์แบบกาฝากตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณคุณก็ทำตัวเหมือนต้องมีเขาตลอดเวลา

มันทำให้ชีวิตของคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสระภาพคุณลองถามตัวคุณเองว่ามันเป็นความรักหรือแค่ความสัมพันธ์กาฝากกันแน่”คนไข้สาวอึ้งไปชั่วขณะ เหมือนว่าหมอต้องการซ้ำเติมเธอหรืออย่ างไร

“ความรักที่แท้จริงต้องมีอิสรภาพ…คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้งสองสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่ างไม่เป็นทุกข์แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อความสุขที่มากขึ้น”หลังจาก จิ ต แ พ ท ย์ พูดจบ คนไข้สาวเริ่มดวงตาเห็นธรรม รอยยิ้มเริ่มปรากฎขึ้นที่มุมปาก

“คำพูดของคุณหมอเปรียบเสมือนแสงตะวันที่สาดส่องทะลุทำลายกำแพงหมอก บัดนี้ดิฉันได้เห็นแล้วซึ่งสัจธรรม ”แนวคิดเรื่อง ภาวะพึ่งพิง หรือ ความสัมพันธ์แบบกาฝากเป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิต โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่นได้

แต่ถ้าคุณถึงขั้น “ขาดเขาไม่ได้ ” จงอย่ าเอาคำว่า “รักเขามากเหลือเกิน ”มาลวงหลอกใจตัวเอง ยิ่งต้องถึงขั้นคิ ดสั้นเลย นั่นยิ่งแสดงว่า “แม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่รัก”

หลายคนคิดว่าถ้าฉันไม่อยู่แล้วจะทำให้เขารู้สึกผิดกับการกระทำของเขาที่ทิ้งเราไป คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่ไร้ค่าปัจจุบันผู้หญิงเรามีการศึกษา มีการงาน และ ความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย

ไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้ชายเป็นผู้นำของชีวิตเหมือนในสมัยก่อน…การอยู่เป็นโสดหรือเลิกกับคนรักไป ไม่มีผลถึงกับทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ผู้หญิงทั้งหลายจึงสามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้อย่ างมีความสุข

และภาคภูมิใจ ในเกียรติของผู้หญิง และ หากได้พบชายใดที่เราเห็นว่าทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นและดีขึ้น กว่าการอยู่คนเดียวคุณก็อยู่ในฐานะที่มีโอกาสเลือก… ไม่ใช่จำเป็นต้องเลือก ไม่มีทางเลือก

หรือ จำใจเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต จำไว้ว่าหากมีชีวิตคู่แล้วต้องส่งเสริมกันและกันให้ดีขึ้นไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพึ่งพาอาศัยอีกฝ่ายอยู่ตลอดไป

ที่มา :  bitcoretech

Load More Related Articles
Load More By wansuk2
Load More In ข้อคิด

Check Also

ถึงเวลาแล้ว..จงเป็นผู้หญิงที่สง่างามและมีความสุข

คุณป้าท่านหนึ่งในพันทิปบอกกับเราว่า อายุขนาดประมาณหนูนี่แหละ อยู่ในวัยแข็งแรงกำลังทำงานหลา…