Home ข้อคิด วิธียอมรับกับความเสียใจและเผชิญหน้ากับความจริงที่ต้องเจอ

วิธียอมรับกับความเสียใจและเผชิญหน้ากับความจริงที่ต้องเจอ

13 second read
0
0
47

วันเวลาที่ผ่านไป อย่ างรวดเร็ว ทำให้เราทุกคนต่างแก่ลงกันทุกวินาที และช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาย่อม

มีความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นกับคนเราได้ทุกขณะ มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น อะไรเดิมๆ ก็จบลงไปอยู่ตลอด

ทั้งความสัมพันธ์เก่าและใหม่ ทุกสิ่งล้วนเรียกว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตทั้งสิ้น ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ

ที่ผ่านเข้ามา ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ าย ทั้งเรื่องสุข และเรื่องเศร้า เรื่องราวทั้งสุข และทุกข์เหล่านี้ ทำให้คน

เราเริ่มชินกับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาโดยทำให้เริ่มคิดได้ว่า สุขอยู่ไม่นาน ทุกข์ก็อยู่ไม่นานเช่นกัน

แต่สำหรับบางคนอาจจะยังปิดกั้นการรับรู้ที่จะยอมรับในความเศร้า หรือความทุกข์ โดยไม่ยอมรับกับความจริง

ที่เจอ อย่ าลืมนะคะว่า ความสุขใครๆ ก็เจอกันได้ แต่ความทุกข์นี่สิ ถ้าใครเจอแล้วผ่านมันไปได้ จะทำให้

เราโตขึ้นได้มากเลยล่ะค่ะ เพราะต้องไม่ลืมว่า “ความทุกข์” คือความจริงของชีวิต วันนี้เราอย ากให้ทุกคน

ลองฝึกฝนความคิดและจิตใจให้ชินช า กับความเศร้า และความทุกข์ เพื่อที่จะยอมรับความทุกข์ให้ได้เพราะ

เมื่อใดที่ความทุกข์มาเยือนนั่นย่อมไม่แปลกเลยที่เราจะพูดว่า “เข้ามาเลยเจ้าความทุกข์” เราไม่กลัวเจ้าหรอก

เรากลับชอบเธออีกด้วยนั่นเป็นเพราะอะไรวันนี้ เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้ที่จะโตขึ้น จากการเผชิญกับความทุกข์ค่ะ

1. ใช้ RQ ในการปรับตัว เผชิญความเป็นจริงที่ย ากลำบากได้

มีใครเคยรู้บ้ าง ว่านอกจาก IQ ที่เอาไว้วัดสติปัญญา และ EQ ที่ไว้วัดความฉลาดทางอารมณ์ โลกนี้ยังมี

สิ่งที่เรียกว่า RQ (Resilience Quotient) หมายถึงความสามารถในการปรับตัว เผชิญความเป็นจริงที่

ย ากลำบาก หรือรับมือกับภาวะ วิ ก ฤ ติ ในชีวิตได้ สิ่งนี้คือทักษะอันสำคัญ คือ ความสามารถในการยืดหยุ่น

และฟื้นฟูเยียวย ารักษ า จิตใจได้เมื่อเจอเหตุร้ าย ในชีวิต คนที่สุขอาจไม่ใช่คนที่แฮปปี้ตลอดเวลา แต่สามารถ

ทนรับสถานการณ์ร้ ายๆ ได้โดยไม่พังไปซะก่อน และนี่และค่ะเป็นสิ่งที่จะแสดงให้เราได้เห็นว่า คนที่จะโตขึ้นได้

จะต้องผ่านความทุกข์นานามาแล้วและ สามารถก้าวผ่านมายืนอยู่ ณ จุดที่ยืนอยู่ปัจจุบันได้พูดแบบนี้ก็ไม่ได้

จะให้คิดว่าเรารักที่จะอย ากเจอกับปัญหาขนาดนั้นเพียงแต่ เมื่อเราพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากขึ้น เราก็เรียนรู้

ที่จะรับมือกับปัญหามากขึ้น และ ด้วยใจที่เป็นกลางขึ้นนั่นเองค่ะ

2. ความทุกข์ มักนำพาเรามาเจอประสบการณ์ใหม่

คนเราเมื่อผ่านระยะเวลา แต่ละช่วงของชีวิตมานั้น ย่อมมีเรื่องราวในชีวิตมากมายที่เข้ามา ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ

ให้เราได้ทำความรู้จัก โดยเฉพาะความผิดหวังทั้งจากการใช้ชีวิตจากความรัก ความผิดหวังทำให้เรารู้สึกทุกข์ใจ

ไม่สบายใจทำให้เราได้รู้จักการ ได้มาและเสียไป เมื่อรู้สึกทุกข์ รู้สึกเศร้าผ่านไปชั่ ว ระยะเวลาหนึ่งมันจะหายไป

เมื่อเราเจอปัญหา มองเห็นปัญหา ทำให้เรารู้ได้ว่าครั้งหน้าถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกต้องแก้ไขมันอย่ างไรดี การได้

สัมผัสกับความเสียใจ กับความทุกข์ใจนั้น เมื่อผ่านมันไปได้นั่นแหละก็คือความสุข พูดงง่ายๆ คือ ถ้าเราไม่เ

จอทุกข์ เราจะรู้ได้อย่ างไรว่าความสุขคืออะไร หรืออยู่ตรงไหน

3. ฝึกให้คนเรายอมรับเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น

คนเรานั้น เมื่อทุกข์ใจ เกิดความเศร้า เสียใจ บางครั้งอาจมาถึงจุดที่ต้องฝืนยิ้มให้กับคนรอบข้างและจำเป็น

ต้องดึงตัวเองออกมาสู่ความรู้สึกดีๆ ให้ได้ไวๆ จุดนี้เราจะยอมรับควาจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไปเอง สังเกตว่า

ในบางครั้งผู้ใหญ่ที่มีเรื่องราวทุกข์เศร้า จำเป็นต้องเข้มแข็ง ไม่แสดงออกถึงความอ่อนแอให้คนที่เป็น

เด็กกว่าได้เห็น เพื่อเป็นตัวว่าต้องไม่อ่อนแอ แม้จะเสียใจมากเพียงใดก็ตาม และเรามักจะมองคนที่เก็บ

อารมณ์เศร้าเสียใจได้ดีว่ามีภาวะผู้นำ และความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนที่เสียใจ แล้วร้องไห้ฟูมฟาย แม้ว่า

ตอนนั้นคนคนนั้นจะรู้สึกเสียใจอยู่ ป วด ร้ าว อยู่ ทุกข์ใจอยู่ก็ตาม แต่ต้องยิ้มออกมา และก้าวผ่านจุดนั้น

ไปให้ไวกว่าคนอื่นๆ นี่จึงทำให้เค้าดูเป็นผู้ใหญ่ไปโดยปริย ายค่ะ

4. ฝึกให้หัวเราะกับเรื่องแ ย่ๆ ที่ผ่านเข้ามาได้

ปัญหาและ ความทุกข์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาสุดท้ายแล้วมันก็ต้องผ่านไป สุขทุกข์อยู่กับเราได้ไม่นาน ขอแค่

เรามีสติว่าทุกอย่ างมีเกิดขึ้น ก็ต้องมีหายไป ทั้งเรื่องดี และไม่ดี ไม่ยึดติด ทำอะไรก็ต้องรู้ตัวอยู่ตลอด

ก้าวผ่านความเสียใจ ความทุกข์ใจไปให้ได้ทุกครั้ง และเชื่อมั้ยคะว่าการที่เราฝึกการรู้สึกตัว การยอมรับ

ความจริงทุกอย่ างได้บ่อยๆ บางครั้งเราอาจจะรู้สึกตลกจนอย ากหัวเราะออกมาเมื่อก้าวผ่านความเสียใจ

มาได้ ความสามารถที่เกิดจากการฝึกฝนที่จะรู้สึกตัวยังคงติดตัวอยู่บ้ าง มาถึงจุดนี้ ทำให้เราเห็นตัวเอง

คิดมากขึ้น ทั้งดี และ ไม่ดี

5. คิดได้ว่าปัญหาก็เหมือน “หม า”

ข้อนี้อาจฟั งดูแปลก ไปสักหน่อยนะคะ ที่พูดเช่นนี้เพราะเราอย ากให้ทุกคนคิดว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ในชีวิตก็เหมือน “หม า” เพราะเมื่อเราจ้องตามัน มันจะจ้องตาเรา ถ้าเราวิ่งหนีมันมันจะวิ่งตามเราแต่

หากเราวิ่งตามมัน มันจะวิ่งหนีเราค่ะ ดังนั้นเมื่อเราวิ่งหนีปัญหา ปัญหานั้นก็จะตามพัวพันเราไปทุกที่แต่ถ้า

เราหยุด มันก็จะหยุดนิ่งเช่นกันนั่นเองหรือ ถ้าเราลงมือแก้ไขกับปัญหาจัดการกับความทุกข์ใจได้ปัญหา

นั้นก็จะวิ่งถอยห่างออกไปจากเราเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่สุดแล้วล่ะค่ะถ้าเราเรียนรู้ และรู้จักทำ

ความเข้าใจ กับธรรมชาตินี้ เราจะรู้ว่าในที่สุดเราจะชนะปัญหา เราจะไม่วิ่งหนีมันไปไหน แต่จะพร้อมสู้มันทันที

ที่มันมา นี่แหละคือชีวิตที่เราต้องดำเนินไป และรู้จักวิธีที่จะจัดการกับมันก่อนที่มันจะจัดการเราค่ะ

6. รู้สึกอย ากเป็นคนดี และเสียใจเมื่อทำไม่ดี

เมื่อเรา รู้สึกเสียใจ และเริ่มรู้สึกว่าอาการเสียใจนั้นหายไป เราจะเริ่มมีสติว่าตัวเองทำอะไรลงไปเมื่อไม่นานมานี้

อาจจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าทำอะไรไม่ดี ไม่สมควรลงไป เมื่อนึกย้อนก็คิดว่าไม่อย ากทำแบบนั้นอีก หรือในอนาคต

จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกอย่ างเด็ดขาด สิ่งนี้จะสั่งสมและทำให้เราเป็นคนรู้ดี รู้ชั่ ว มากขึ้นไม่อย าก

ทำตัวไม่ดี เพราะจะทำให้คนอื่นเสียใจ แค่เรารู้สึกอย ากเป็นคนดี เท่านี้ก็โตขึ้นอีกระดับแล้วล่ะค่ะผู้คน

มากมายต่างผ่านเรื่องราว มาแตกต่างกันเป็นปกติที่คนๆ หนึ่งจะมีทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นไม่มีเหตุจำเป็นที่

จะไปตัดสินใครและคนส่วนมาก ถ้าเข้มแข็งพอ พวกเค้าคงอย ากเป็นคนดีตรงนี้ดูได้จากการใช้ชีวิต

จากคนใกล้ตัว ของเรานี่ล่ะค่ะ จะเห็นว่าคนเราย่อมต้องอย ากเป็นคนดีกว่าคนไม่ดี เพราะขนาดดูละคร

เรายังเชียร์พระเอก นางเอกมากกว่าตัวโกง หรือตัวอิจฉาใช่มั้ยล่ะคะ

ขอบคุณที่มา g o o d l i f e u p d a t e

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…