Home ข้อคิด วิธีเก็บเงิน 1 แสนบาท เก็บได้ใน 1 ปี

วิธีเก็บเงิน 1 แสนบาท เก็บได้ใน 1 ปี

7 second read
0
0
148

ทุกคน มีความฝันที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองและได้มีการวางแผน จะซื้อบ้านหรือคอนโด การศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรกถือเป็นเรื่องที่ดีแต่จะดีกว่าไหม

ถ้าคุณมีเงินเก็บอยู่ในมือแล้ว 1 แสนบาท จะสานฝันอะไร ก็สามารถเป็นจริงได้ และนี้คือ 10 วิธีการเก็บเงิน แบบที่มนุษย์เงินเดือนสามารถทำได้

การเก็บเงิน 1 แสนบาท ภายใน 1 ปีก็สามารถเกิดขึ้นจริงได้เงินแสนก็อยู่แค่หน้าปากซอยเอง

แบ่งบัญชีใช้งานให้ชัดเจน

ส่วนนี้หลายคนเคยทำมาบ้างแล้ว แต่จะมีในบางที เดือนที่เงินไม่พอใช้ เลือกจะเลือกวิธีการขอยืมเงินส่วนอื่นมาใช้ก่อน แล้วส่วนใหญ่แน่นอนเลยว่าก็ไม่ได้นำเงินส่วนที่ยืมมาคืนกลับที่เหมือนเดิม

ดังนั้น ถ้าอยากเก็บเงิน 1 แสนบาทไว้ในครอบครองไวขึ้น ต้องมีความเด็ดขาดมากกว่านี้ แยกบัญชีให้ชัดเจนเลย บัญชีเงินเก็บห้ามใช้ บัญชีเงินสำรอง บัญชีรายจ่ายจำเป็นแต่ละเดือนบัญชีใช้จ่าย

ให้ความสุขตัวเอง บัญชีเงินใช้กินใน 1 เดือน เป็นต้น เพื่อเราจะได้เห็นจำนวนเงิน ที่เราสามารถใช้ได้จริงมากขึ้น และส่วนนี้จะทำให้เราเป็นหนี้ได้น้อยลงด้วย

การเก็บเงิน 1 แสนบาทเป็นรายวัน

การเก็บเงินตามจำนวนวัน เป็นสิ่งที่นิยมทำกัน เพราะดูจากมูลค่าที่เก็บแล้ว ไม่ได้มากมายเลย ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท วันที่ 365 เก็บ 365 บาท ใน 1 ปีจะได้เงินประมาณเกือบ 70,000 บาทเลย

แต่เก็บสูงสุดเพียงแค่ หลักร้อยเท่านั้น หรือบางคนอาจมีวิธีการใช้เงินวันละ 300 บาท ถ้าเหลือก็นำมาหยอดกระปุก ก็ถือว่า เป็นวิธีการเก็บเงิน 1 แสนบาท ฉบับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่กดดันตัวเองมากเกินไป

การเก็บเงินแบบรายเดือน

ในบางคนการเก็บเงินรายวันไม่ถนัดเพราะค่อนข้างเก็บถี่เกินไปเลย เปลี่ยนวิธีการมาแบ่งเก็บ เงินรวดเดียวเลยเป็นรายเดือน ถ้าต้องการเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาท จะต้องทำการแบ่งเก็บประมาณเดือนละ 8,400 บาท

อาจจะนำไปฝากธนบัตรรัฐบาล กองทุนเพื่อ เพิ่มมูลค่าของเงินให้เพิ่มขึ้น หรือบางคนน่าจะเคยเก็บกันเยอะ แบ่ง 10%-20% ของเงินเดือน อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยเราก็ได้ตั้งใจเก็บ

เมื่อทำต่อเนื่องเรื่อย ๆ เงินก็จะมีมูลค่าเพิ่มถึง 1 แสนบาทได้

การเก็บเงิน 1 แสนบาทต้องใช้ความตั้งใจ

“ความตั้งใจ” ในการทำทุกสิ่ง ที่ตั้งใจไว้หากถ้าไม่ชัดเจนและแน่วแน่พอ มีหลายคนที่ต้นล้มเลิก หรือเลื่อนเป้าหมายในการเก็บเงินไว้ออกไป เพราะความตั้งใจไม่พอหรือมีเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้เงิน เพราะการเก็บเงินจริง ๆแล้วมีหลายวิธีการมาก และก็ไม่ได้ยากกเกินกว่าจะทำได้

อยู่ที่ตัวคุณเอง มีใจที่จะทำให้สำเร็จหรือเปล่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามแต่การเก็บเงินต้องไม่ เ ค รี ย ด หรือกดดันไปตัวของคุณเอง มากเกินไป คุณต้องมีความสุขและสนุกกับการเก็บเงินก่อน เพราะถ้าคุณเลือกวิธีที่ไม่เหมาะกับคุณแล้วและยิ่ง มีความมุ่งมั่นไม่ชัดเจน การเก็บเงินในครั้งนี้ ก็จะอยู่กับคุณไม่ได้นาน

ลดการซื้อของไม่คุ้มการใช้งาน

ข้อนี้เชื่อได้เลยว่า หลายคนเป็น เวลาต้องการซื้ออะไรสักอย่างต้องเลือกที่ดีที่สุด หรือบางคนซื้อไว้เผื่อได้ใช้งานจริง ๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะเกินความจำเป็น ใช้งานของเราไป เนยิ่งกับพวกสินค้าไอที โทรศัพท์หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ แต่ละชิ้นราคาหลักหมื่นขึ้นทั้งนั้นเลย

แน่นอน มี 1 อย่าง อย่างที่ 2, 3 และ 4 ต้องตามมา แต่ตามหลัก ความเป็นจริงแล้ว การซื้อมาฟังก์ชั่นครบจัดเต็มแต่ความจำเป็น ของคุณจริง ๆ ได้ใช้ขนาดนั้นหรือไม่ ใช้งานได้ 100% ของค่าของที่ซื้อไปไหม

แต่ถ้าใครคิดว่าบริหารการเงินไหว หาจากส่วนอื่นก็ได้ ตรงจุดนี้ก็แล้ว แต่ความสะดวกของแต่ละคนในการเก็บเงิน

อย่าให้รางวัลตัวเองมากเกินไป

หลาายครั้งมักจะได้ยินบ่อย มากกับคำที่ว่า “ทำงานเหนื่อยขนาดนี้ขอนิดนึงให้รางวัลตัวเองหน่อย” ความจริงก็ไม่ได้ผิดอะไรให้ได้ แต่ถ้าคุณมีความตั้งใจที่จะเก็บเงินจริง ๆก็ลองเปลี่ยนจากการซื้อของให้รางวัลตัวเองเปลี่ยนมาเป็นเงินเก็บเข้าบัญชีดู

เว้นแต่อยากได้มาก ๆ รอช่วงสินค้าลดราคา ก็ไม่ได้เสียหายอะไรบาง ส่วนนี้ถ้าปรับได้ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเก็บเงิน

เก็บเงินวันละ 275-300 บาท

ส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีของการเก็บเงินรายวัน ถ้าคนที่มีฐานเงินเดือน ค่อนสููงหน่อย ก็อาจเก็บเป็นค่าแรงขั้นต่ำไป แต่ถ้าฐานเงินเดือนไม่ได้สูงมากก็อาจจะหาเป็นรายได้เสริม

เพื่อให้จำนวนเงินมีมากขึ้น หรือแบ่งครึ่งเพื่อเก็บก็ได้ ถึงระยะเวลาอาจจะนานขึ้นหน่อย แต่อยากน้อยเราได้เริ่มลงมือทำและทำอย่างต่อเนื่อง การเก็บเงิน 1 แสนบาทก็จะเพียงแค่เอื้อมมือ

สลับทำอาหารกินเองบ้างก็ได้

อาหารในชีวิตประจำวันนี้ถ้าซื้ออย่างราคาถูกเลย ก็อยู่ที่ประมาณ 50 บาท 1 วันก็จะตกประมาณ 150 บาท แล้วถ้า 1 ปี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 18,250 บาท ซึ่งส่วนนี้เรายังไม่รวมค่าบุฟเฟ่ต์และค่าเฟ่ขนมหวานนะ

แต่ในทางกลับกันถ้าใครสะดวก พอที่จะทำอาหารกินเองได้บ้าง 150 บาท ก็สามารถซื้อเนื้อสัตว์ได้เป็นกิโล สามารถยืดระยะเวลาในการใช้เงินส่วนนี้ไปได้ ทำให้เราประหยัดขึ้นได้หลายบาทเลยทีเดียว

ชงกาแฟหรือน้ำหวานเองบ้างก็ได้

คล้ายกับทำอาหารเรื่องของเครื่องดื่มก็เช่นกัน บางคนติดกาแฟหรือน้ำหวาน ต้องซื้อกินทุกวันเพื่อเติมความสดชื่น ในราคากลางที่ส่วนใหญ่ซื้อกันก็อยู่ที่ประมาณ 60-120 บาทต่อแก้ว ถ้าเรากินแบบนี้ทุกวันตลอดระยะเวลา 1 ปี จะเป็นเงินประมาณ 22,000 บาท

อาจจจะลองปรับมาเป็น ทานของฟรีที่บริษัท หรือซื้อเป็นแพ็คมาชงกินเองบางสลับกัน เพื่อไม่ให้เกิดความกดดัน หรือความอยากมากขึ้น แต่หากใครไม่สะดวกจริง ๆ ลองเปลี่ยนมากินราคาที่ถูกลงกว่านี้หน่อย

ทุกวันนี้ ร้านที่ราคาไม่แพงแก้วละ 20-30 บาท อร่อยถูกปาก ก็มีให้เห็นหลายร้านอยู่

สายปาร์ตี้ สู บ บุ ห รี่ การเข้าสังคม เที่ยวน้อยลงบ้างก็ได้

เข้าใจว่าทำงาน มาหนักเหนื่อย อยากพักผ่อน หาความสุขสนุกเข้าตัวบ้าง ก็ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหายอะไร แต่ในบางคนเป็นต้องเจอกันทุกศุกร์

เก็บเงินจ่ายเงินมาแต่ละรอบก็เล่นเอาหนักหน่วง ถ้าลดค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ลงได้บ้าง ก็จะมีส่วนของเงินเก็บให้ถึง 1 แสนได้เร็วขึ้น

และนี้คือ 10 วิธีการเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นเรื่อง ที่สามารถทำได้ไม่ได้ไกลตัวเลย แต่อย่างที่บอกการเก็บเงินต้องเลือกวิธีการที่เราสะดวก และเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของแต่ละคนเพื่อให้สามารถเก็บได้นานและมีความสุขในการที่จะเก็บเงิน

ถึงแม้ว่าการเก็บเงินอาจใช้ระยะเวลาเกิน 1 ปี แต่อย่างน้อยเพียง แค่เราเริ่มเก็บไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องไม่นาน ทุกคนก็จะเก็บเงิน 1 แสนบาทได้ความฝันในการมีบ้านของตัวเองก็จะอยู่ไม่ไกล

ขอขอบคุณ l e o w o o d

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…