Home ความรัก สัญญาณรัก 12 ข้อที่บอกว่าอีกไม่นาน “เขาจะปล่อยมือไปจากคุณ”

สัญญาณรัก 12 ข้อที่บอกว่าอีกไม่นาน “เขาจะปล่อยมือไปจากคุณ”

6 second read
0
0
30

” เราเลิกกันเถอะ! ” คู่รักบางคู่อาจเอ่ยคำนี้ออกมา นับร้อยครั้ง แต่ครั้งไหนบ้างที่เธอหมายความ ตามที่พูดจริงๆ!? จากครั้งแรกที่อาจไม่คิดอะไรเมื่อต้องเจอกับเรื่องทะเลาะ ตะโกน ด่ า ท อ ไม่เข้าใจกัน ทัศนคติเข้ากันไม่ได้ซ้ำซากก็เริ่มเกิดรอยร้าว

สัญญาณต่างๆ ในชีวิตคู่ทำให้เห็นชัดเจน ว่าเธอและเขาไปกันไม่รอดและต้องถึงวัน ‘เลิกรา’ อย่างแน่นอน เออ ท้านัก เลิกจริงๆ เลยแล้วกัน! มีเหตุผลมากมาย ที่คนสองคนจะเลิกกัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็น ‘ญาณล่วงหน้า’ ว่าไปกันไม่รอดชัวร์ๆ

รู้ตัวอีกทีก็เลิกกันแล้วถ้าเธอแน่ใจ ว่าชิวิตคู่เริ่มง่อนแง่น บทความนี้อาจเป็นตัวช่วยที่ดี เช็คว่าคู่ของเธอมีอาการ 1 ใน 12 ข้อนี้หรือไม่ ( หรือครบทุกข้อ )เพื่อหาหนทางแก้ไข ประคับประคอง ให้จับมือกันต่อไปได้ค่ะ ถ้าเตรียมตัว เตรียมใจพร้อมแล้ว ก็เลื่อนลงมา อ่ านเลย!

1. เธอเอาแต่คิดว่า “ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง”

“ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง ฉันจะเรียน ได้เกรดดีมากขึ้นไหม ทำงานแล้วได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นหรือเปล่า หรืออาจจะมีเวลาทำงานอดิเรกที่ชอบมากขึ้น

อืม…แล้วถ้าฉันเปลี่ยนแฟนล่ะ จะมีความสุขมากขึ้นหรือเปล่านะ” ถ้าเธอมีความคิดแบบนี้วนเวียนใน ส ม อ ง จากนานๆ ทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเธออย าก มีชีวิตใหม่และแน่นอน ไม่มีแฟนของเธอรวมอยู่ในนั้นด้วยอีกต่อไปแล้ว

2. คิดถึงแต่ด้านลบของแฟน เวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

แทนที่จะคิดถึงอย าก ให้เขามาอยู่ด้วย ตอนที่ห่างกัน เธอกลับคิดถึงมุม แ ย่ ๆ แง่ ร้ า ย แง่ลบ สิ่งน่ารำคาญทุกเรื่องที่แฟนหนุ่มทำถ้าเวลาเดียว ที่เธอเลิกคิดเรื่อง แ ย่ ๆ คือตอนเขาเอาใจเธอ แปลว่าเธอเห็นค่าของแฟนแค่ตอนที่เขาทำดีกับเธอแค่นั้นเอง

มีคำหนึ่งกล่าวว่า ‘ถ้าเธออย าก รู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหน คนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ’ และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มีแฟนหนุ่ม ของตัวเองอยู่เลย ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ เธอไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ

3. คุยเมื่อไหร่ ทะเลาะทุกที

เมื่อก่อนน่ะเหรอ….เธออย าก อยู่กับแฟน ‘ตลอดเวลา’ 24 ชั่ วโมง ยังไงก็ไอเลิฟยู ขอตามติดไปทั่วทุกที่ คุยกันได้ทุกเรื่องคุยจนหลับแล้วตื่นขึ้น มาคุยอีกก็ไม่เบื่อ ขอให้ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว!

แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรจะคุยด้วยสักนิด ไม่อย ากเล่าอะไร ให้ฟังทั้งนั้น แค่ขยับปากยังขี้เกียจเลย! พอเขาอย าก คุย เธอก็เริ่มหงุดหงิด ถ้าไม่ทำเงียบๆ ก็หาเรื่องพูดให้เขาอารมณ์เสียในที่สุดก็ทะเลาะกันจนได้!

ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ แปลว่าเธอไม่อย าก มีเขาอยู่ในความสัมพันธ์แล้ว เตรียมรอวันเลิกได้เลย

4. อยู่ห่างแฟนแล้วรู้สึกสบายใจกว่า

เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ ‘หน้ากาก’ ยิ้มแย้ม สดใสร่าเริงตลอดเวลา ที่อยู่กับแฟน เพราะต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริงๆ เอาไว้นั่นเองเธอไม่อย าก ทะเลาะ มีเรื่องหรือปิดบังความลับบางอย่างไว้ อันที่จริงอยู่กับคนแปลกหน้าอาจสบายใจกว่าด้วยซ้ำ!

จำไว้ว่าอย าก มีเวลาส่วนตัวกับเพื่อน กับอย าก อยู่เป็นโสดนั้นต่างกัน คนเราต้องมีระยะห่างบ้าง เป็นเรื่องปกติแต่ในที่สุดก็กลับมาหาแฟน แต่ถ้าอย าก อยู่เป็นโสดคือเธอไม่มีเขาในหัวใจอีกแล้วอย าก ตัดขาดว่าอย่างนั้นเถอะ!

ถ้าเริ่มอึดอัดกับสภาพ ที่เป็นอยู่ แปลว่าเธอไม่อย าก ใช้สถานะ ‘แฟน’ กับเขาแล้วล่ะค่ะ

5. เถียงกันจากเรื่องเล็กๆ จนบานปลาย

มันอาจจะเริ่ม จากเรื่องเล็กๆ เช่น ‘วันนี้ใครจะล้างจาน’, ‘วันนี้ใครจะจ่ายค่าไอติม’ แต่ไม่มีใครยอมอีกฝ่ายจนบานปลายทะเลาะกันใหญ่โต ล ามไปถึงลักษณะนิสัย พฤติกรร ม ไม่ดี ที่ผ่านมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว

แล้วสรุปด้วยคำว่า ‘เป็นอย่างนี้ไงถึงอย าก เลิก!’ บางคู่อาจเก็บอารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ในบ้านเท่านั้นแหละ

ใส่ไม่ยั้ง! ทั้งตะโกน ก รี ด ร้ อ ง เขวี้ยงปาข้าวของร้องไห้เสียงดังจนข้างบ้านคิดว่า มีการ ฆ า ต ก ร ร ม ตอนนี้การทะเลาะห่างจากประเด็นหลักไปไกลแล้ว ถ้าอย าก ให้จบเธอต้องเลือกระหว่าง ‘ขอโทษ’ หรือ ‘ทำเงียบแล้วปล่อยไป’ แต่ถ้าอย าก เลิก ก็ทำตรงกันข้ามเท่านั้นเอง!

6. เริ่มวิพากษ์วิจ ารณ์ หาข้อเสียของแฟนมากขึ้นเรื่อยๆ

เจอแฟนทีไร ขอให้ได้บ่นว่า ขุดคุ้ย วิพากษ์วิจ ารณ์ข้อเสียต่างๆ นานา ‘เธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้’, ‘ทำไมหาเงินได้แค่นี้เองล่ะ’ อย ากให้เขาหล่อขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น รวยขึ้น มีความคิดมากขึ้นเพราะตอนนี้มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเธอสักอย่าง มาตรฐานต่ำกว่าเกณฑ์สุดๆ

ถ้าเธอเป็นแบบนี้ แปลว่าเธอไม่ได้ มองเขาในฐานะ ‘คนรัก’ แล้ว แต่มองในฐานะ ‘สินค้าที่ต้องปรับปรุง’ ผู้ชายที่โดนพูดกรอกหูว่าตัวเองต่ำต้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า นานวันความอดทนก็จะหมดลง เขาจะเริ่มไม่พอใจและหันมาวิจ ารณ์เธอบ้าง ในที่สุดก็ทะเลาะและเลิกราค่ะ

7. ขุดความผิดของแฟนมาพูดซ้ำๆ ในการทะเลาะทุกครั้ง

นี่ถือเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย! เวลาทะเลาะต้องคอยขุดความผิดของแฟน มาพูดซ้ำซาก บางอย่างจบไปตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมลืมขอให้ได้พูด ได้เถียงแล้วชนะเธอ ก็สะใจแล้ว แต่ไม่สนใจความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่นิดเดียวเธออาจรู้สึกดี

แต่ฝ่ายตรงข้าม จะถูกย้ำเตือนเสมอว่า ไม่ว่าจะขอโทษในความผิดที่ทำสักแค่ไหน เธอก็ไม่เคยให้อภัยเขาเลย! แสดงถึงนิสัยยึดติดและ อ า ฆ า ต ม า ด ร้ า ย แน่ล่ะ ไม่มีใครชอบผู้หญิงแบบนี้หรอก… จุดจบไปสู่การเลิกราก็ตามมาโดยไม่ต้องสงสัย

8. หงุดหงิดแฟนแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

เมื่อก่อนแฟน ทำอะไรก็ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือ การขยับนิ้วมือไปมาของเขา

แค่เห็นก็ ท ร ม า น ใจสุดๆ อะไรจะหล่อจะเท่ขนาดนี้ แต่ปัจจุบัน…แค่ได้ยินเสียงลมหายใจฟืดฟาดของเขาก็หงุดหงิดได้อีก ไปให้พ้นๆ สายตาได้ไหม

ไม่สิ ไปให้พ้นจากชีวิต น่าจะดีกว่า ( แฟนได้ยินรีบไปผูกคอใต้ต้นถั่วงอกรัวๆ )แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เธอก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคันจนต้องบอก ให้เขา ‘ไปให้ไกลๆ’เป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้สึกว่าเขา ‘มีเสน่ห์’ อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็น สิ่งน่ารำคาญอย่างหนึ่ง และนี่แหละจะนำไปสู่การเลิกรา

9. ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

จากที่เคยตัวติดกัน เป็นตังเม ก็เริ่มมีปัญหาชีวิต / ภาระหน้าที่ / วิถีชีวิตไม่ตรงกัน ทำให้ใช้เวลาห่างกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงห่างกันบ้างเป็นเรื่องดีเพราะทำให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ชีวิตของตัวเอง

เว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง แต่ถ้าในใจของเธอกลับไม่อย าก เห็นอย าก คุยกับแฟนติดต่อกันนานๆ เป็นไปได้ว่าเธอสบายใจกว่า ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเธอค่ะ!วิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ

คือ ถ้าเธอรู้สึกว่าการนัดเจอ นัดเดทกับแฟนเป็น ‘หน้าที่’ ที่ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามความรู้สึกหรือหัวใจแปลว่า เธอกำลังเบื่อและอาจไปหาคนใหม่ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุกเมื่อ ถ้ายังไม่อย าก ปล่อยมือแฟนก็ต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะว่า สาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อคืออะไรแล้วแก้ไขมันซะ!

10. เธอให้อภัยความผิดของแฟนไม่ได้

ต่อจากข้อข้างบน เธอไม่ยอม และไม่มีวันให้อภัยความผิดของแฟนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม! แค่เขาลืมล้างจาน ลืมซักผ้า เธอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนเขาไป ฆ่ า ใคร ต าย บางคู่ผู้ชายก็ทำความผิด ร้ า ย แ ร ง จริงๆ

เช่น บังคับเธอให้ออกจากงาน, ตะคอกใส่เธอเสียงดัง ด้วยคำพูด ห ย า บ ค า ย,ทำให้เธออับอายต่อหน้าสาธารณชน นึกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็รับไม่ได้ทุกที แล้วเธอจะแบกความทรงจำเหล่านี้ ไปตลอดชีวิตงั้น

หรือจะมานั่งทบทวนแล้ว หาทางออกร่วมกัน หรือจะแยกทางใครทางมัน เธอเป็นคนตัดสินใจเองค่ะ

11. เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีกต่อไปแล้ว

เมื่อแรกคบ ก็ตัวติดกันตลอด ปล่อยมือกันเกินสองนาทีไม่ได้ ต้องจับมือกันเดินไปนั่นนี่ตลอด แต่ตอนนี้ อย่ามาจับนะ ร้อน เปื้อนเหงื่อ! สำหรับคู่แต่งงานก็ละเลยเรื่อง บ น เ ตี ย ง ไปโดยปริ ย าย

เพราะรู้สึกกระดากและแปลกๆ ที่ต้องมาสัมผัส ร่ า ง ก า ย กัน ก็แค่หอมแก้ม กอดยังไม่อย าก ทำเลยนี่นาอาการแบบนี้อธิบายได้สั้นๆ ว่า “ไม่รู้สึกสนิทสนมด้วยแล้ว”

ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรน่ารัก มุ้งมิ้งด้วยกันอีกต่อไป แค่จะยื่นมือไปสัมผัสก็รังเกียจ ถ้าเธอกำลังเจอเหตุการณ์นี้รีบหาต้นตอและแก้ไขโดยด่วนก่อนจะสายเกินไปค่ะ!

12. เริ่มคิดถึง ‘การเลิกรา’ ( หรืออาจวางแผนจะเลิกแล้ว )

‘ห่างกันสักพัก’ อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ ที่คลอนแคลนดีขึ้น เพราะได้เวลากลับไปคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมาและอาจกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

แต่มันก็คือ ด า บ ส อ ง ค ม ถ้าไม่กลับมาคืนดีแล้วรักกัน มากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย! ซึ่งคู่รักหลายคู่ก็ใช้เหตุผลนี้เป็นการบอกเลิกอย่างเนียนๆ นั่นแหละค่ะ

ลองสังเกตตัวเองว่า เมื่อใช้สถานะ ‘ห่าง’ กับแฟนแล้วรู้สึกมีความสุข เป็นอิสระมากขึ้นไหม ถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลายๆ ว่าต่อไปต้องเลิกกันแน่นอน

ขอขอบคุณ s i s t a c a f e

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ความรัก

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…