ไม่มีใครอยากเปลี่ยนงานบ่อย โดยไม่มีเหตุจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนในแผนกใดขององค์กรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ใครก็อยากอยู่กันแบบครอบครัว มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เรื่อย ๆ แต่เพราะแต่ละคนมีที่มาไม่เหมือนกัน นิสัยใจคอไม่เหมือนกันนี่สิ
การปรับตัวเลยยากกันสักหน่อย บ่อยครั้งตำแหน่งสูง ๆ ก็ต้องใช้อำนาจลงมาจัดการบ้างเพื่อให้แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีบางครั้งก็ไม่อยากจะทำเลย เพราะดูเหมือนเป็นการฝืนใจกัน แต่เพื่อให้งานเดินต่อไป จะทำไงได้?
ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเจ้านายจะใช้อำนาจ เพื่อควบคุมลูกน้อง แต่ก็ต้องบาลานซ์ความเหมาะสม ในแต่ละสถานการณ์ด้วย อย่าลืมว่าเราทำงานกับคน ไม่ใช่เครื่องจักรที่ป้อนคำสั่งแล้วเป็นอันจบ เราต้องมีการซื้อใจกันเพื่ออยู่ด้วยกันไปนาน ๆ
หัวหน้าที่ดีคืออะไร? เจ้านายที่ดีเป็นแบบไหน?ในแต่ละคนคงมีอุดมคติที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วใครก็อยากได้เจ้านายในแบบนี้
1. วันหยุด-วันลายาว
บอกมาได้เลยว่า อยากได้ช่วงไหน จะให้ลาได้เต็มที่ แต่ต้องบอกกันล่วงหน้านะ เพื่อจะได้บริหารงาน บริหารคนได้ถูกระหว่างที่คุณไม่อยู่
เราเข้าใจดีว่าคุณก็ต้องการผ่อนคลายบ้าง ร่า งก า ย คนเรามันก็ต้องมีล้ามีเหนื่อยสะสมจากการทำงานมาเป็นปีบ้าง
2. ตรงไปตรงมา ผลักดันลูกน้องที่มีศักยภาพ
คุณไม่ต้องเ ลี ยแข้งเ ลี ย ประจบประแจง เราเพื่อให้ได้มาซึ่งความก้าวหน้า เราดูออกว่ามันเฟค เอาใจแลกใจกันดีกว่า ตรงไปตรงมา
คุณอยากได้อะไรบอกเรา คุณคิดว่าเราบกพร่องตรงไหนบอกมา ถ้าคุณทำงานเก่ง ฉายแววให้เราเห็น เราจะช่วยผลักดันคุณให้เก่งไปอีก
อาจจะส่งไปเทรนด์งานต่างประเทศหรือฝึกสกิลอื่นเพิ่มก็ว่ากันไป
3. ให้เครดิตลูกน้อง
ถ้ามันเป็นฝีมือคุณจริง ๆ ไม่ได้ลอกใครมา เราพร้อมจะขอบใจคุณ ถ้าคุณทำงานมาเป็นทีมก็บอกว่ามันเป็นผลงานของ “เรา”
บอกกันตามตรง อย่าดิสเครดิตกัน การทำงานมันก็ต้องมีคละกันทำเดี่ยวทำเป็นทีมกันบ้าง เราดูออก
4. เรียกมาคุย
ปัญหาไหนที่เราเห็นก่อน เราจะไม่รอให้คุณมาฟ้องก่อน เราจะเรียกมาคุยเลย
ว่าคุณโอเคมั้ย? ไหวป่าว? มีปัญหาอะไรมั้ย? เคลียร์กันตรง ๆ แมน ๆ ไม่นอกประเด็น
5. ใครจะใช้เด็กเรา
กรุณามาคุยกับเราก่อน เราไม่อยากให้ลูกน้องเรา เหนื่อยเพิ่มโดยไม่จำเป็น
เพราะแต่ละคนย่อมมีหน้าที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว
6. เราพร้อมจะเถียงและออกหน้าแทนลูกน้อง
หากพิสูจน์ได้ว่ามันไม่แฟร์ กับพวกเขาจริง ๆ พร้อมจะงัดหลักฐานมาสู้กันให้เป็นประจักษ์ทุกสายตา
แต่ถ้า ลูกน้องเราผิดจริง เราก็พร้อมจะตักเตือน ถามที่มาที่ไป ให้ขอโทษอีกฝ่ายซะ
7. เราพร้อมจะลุยงานกับลูกน้อง
การเป็นหัวหน้า ไม่ได้แปลว่า ต้องรับผิดชอบเฉพาะงานระดับสูงแต่เพียงอย่างเดียว งานเล็กน้อย งานกรรมกรก็ต้องทำได้อย่างไม่มีข้อแม้
ไม่จำเป็นต้องรอใครก่อนเมื่อมีโอกาส ทำได้คิดซะว่าช่วย ๆ กันไป หรือใครมีปัญหาติดขัดที่ตรงไหน ก็เดินเข้ามาขอคำปรึกษาได้เลย
อย่าลุยคนเดียว โดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีทางได้พัฒนาฝีมือ
8. กระจายงาน
ให้ทุกคน ได้ทำงานตามศักยภาพแบบพอดี ไม่ให้ใครทำงานหนักเกินไป overload มากไป ทุกงานต้องชัดเจน เท่าเทียม
และต้องมีการกำหนดไว้ด้วยว่าจะให้ใคร back up ใคร ในกรณีที่อีกคน ป่ ว ย ลา มีเหตุฉุกเฉินที่ไม่สามารถทำงานได้
9. อย่างน้อยมีช่วงเวลาสานสัมพันธ์กัน
เช่น ทำอาหาร มาเลี้ยงกัน, ชวนกันไปแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน ทุกคนจะได้สนิทกันมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน อยากอยู่กับทีมไปนาน ๆ
เวลาทำงานจะได้กล้าพูด กล้าคุยกันได้มากขึ้น ใจเขา ใจเรา เราก็มีหัวใจ คนอื่นก็มีหัวใจ เราเหนื่อยเป็นคนอื่นก็เหนื่อยเป็น มองเพื่อนร่วมงาน
ให้เหมือนครอบครัวเดียวกันสิ ! นี่แหละคือการเอาใจใส่ที่ไม่ได้ยากอะไรเลย
ขอขอบคุณ j e e b .m e