Home ข้อคิด เคล็ดลับเก็บเงินให้ถึงเป้า..สิ้นปีก็มี “เงินแสน”

เคล็ดลับเก็บเงินให้ถึงเป้า..สิ้นปีก็มี “เงินแสน”

12 second read
0
0
2,261

สำหรับคนเก็บเงินเก่งหรือวางแผนการเงินได้ดีมาตลอด เป้าหมายเหล่านี้ คงไม่ใช่เรื่องยากนัก แต่สำหรับคนใช้เงินมือเติบหรือคนเก็บเงินไม่อยู่มาก่อนเลย

อยากตั้งเป้าหมายทางการเงินของตัวเองบ้าง วันนี้ยังไม่สาย เรารวมเทคนิคการเก็บเงิน ที่มีโอกาสสำเร็จสูงมาฝากเพื่อเริ่มต้นเป็นคนมี สุ ข ภ า พ การเงินที่ดีไปพร้อมๆ กันในปีนี้

เทคนิคที่ 1 : เก็บก่อนใช้

เทคนิคที่เหมาะสำหรับคน ที่เก็บเงินไม่อยู่เอามากๆ คือการ “เก็บก่อนใช้” เพื่อให้เงินส่วนที่ต้องการเก็บไปอยู่ในที่ที่เราไม่เห็น ไม่มีแรง ก ร ะ ตุ้ น ในการใช้

เงินที่ไม่เห็น = เงินที่ไม่ได้ใช้

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนใช้เงินเก่ง ไม่มีเงินเหลือเก็บตามเป้าหมาย และรู้สึกว่าหาเงินเท่าไรก็ไม่พอเพราะหวังจะเก็บเงินที่เหลือ จากการใช้จ่ายแต่ความเป็นจริงสิ่งที่ควรทำคือหักเงินที่ต้องการเก็บออกไปเป็นอันดับแรกหลังมีรายรับ ตามสมการ “รายได้-เงินออม = รายจ่าย”

การเก็บก่อนใช้ จะต้องมีกฎว่า “ห้ามยุ่ง” กับเงินก้อนนี้เป็นอันขาดจนกว่า จะเกิดเหตุการณ์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เช่น ตั้งใจเก็บเงิน 100,000 บาท ในปลายปีนี้ ทุกครั้งที่มีรายได้จะหักเงิน 20-30% ออกเพื่อเก็บทันทีก่อนนำไปใช้จ่ายและจะไม่ยุ่งกับเงินก้อนนี้เลยจนกว่าจะถึงปลายปี

และใช้ตามเป้าหมายที่คิดไว้ตอนแรกเท่านั้นอย่างไรก็ตาม สามารถปรับลดเป้าหมายต่ำลง ตามรายได้และภาระที่มี แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจะเริ่มที่ปีละ 10,000 30,000 หรือ 50,000 บาทก่อนเพื่อฝึกวินัยก็ทำได้ตามสะดวก

เทคนิคที่ 2 : เก็บเงินไว้ในที่ ที่เอาออกยาก

จากเทคนิคแรก หลายคน เคยทำแล้วแต่ตกม้า ต า ย เพราะรู้ว่าตัวเองมีเงิน อยู่ในบัญชีและเอาออกมาใช้ตอนยังไม่ถึงเส้นชัยทุกครั้ง

ฉะนั้น เมื่อหักเงินมาเก็บก่อนใช้ได้แล้ว ลองหาที่พักเงินไว้แบบที่เอาออกไปใช้ได้ยาก เพื่อลดความคล่องตัว โดยอาจทำได้หลายวิธี เช่น

– บัญชีออมทรัพย์ปิด ต า ย ไม่มีบัตร ไม่มี e-banking ยังคงเป็นการเก็บเงินสุดคลาสสิกที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เริ่มต้นการออม

ที่ช่วยหักห้าม การถอนมาใช้ได้ ในระดับหนึ่ง และสามารถสะสมเงินง่ายๆ เพียง โ อ น เข้าไว้ในบัญชีนั้นๆ ทุกเดือน

– บัญชีฝากประจำ บัญชีฝากประจำของแต่ละธนาคาร จะมีเงื่อนไขในการฝากเงินเป็นประจำสม่ำเสมอ

ที่ช่วยให้ไม่เผลอเอาเงินออกมาใช้ และมีผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1-2% ขยับขึ้นมาจากการฝากออมทรัพย์ธรรมดาเล็กน้อย

อย่างไรก็ดี ต้องดูรายละเอียดการฝากประจำ (บางประเภท) ที่จะมีการเรียกเก็บภาษีและปลอดภาษีเพื่อบริหารให้เหมาะกับเป้าหมายของตัวเองด้วย

– ซื้อสลากออมทรัพย์ สลากออมทรัพย์คือการออมเงินประเภทหนึ่งที่มีการให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามที่ตกลง

คล้ายกับการฝากประจำ (ขึ้นอยู่กับประเภทสลาก) ความพิเศษของการซื้อ สลากออมทรัพย์ คือมีโอกาส “ลุ้น ห ว ย”หรือลุ้นถูกรางวัลตามเลขบนสลากที่เราซื้อ

ทำให้มีโอกาสลุ้น เป็นเศรษฐีระหว่างที่ฝากเงินด้วย โดยการซื้อสลากจะช่วยให้เก็บเงินอยู่กว่าการออมแบบธรรมดาเพราะมีกำหนดระยะเวลาไถ่ถอน

เช่น 1 ปี 3 ปี ฯลฯ ซึ่งจะทำให้ตอนครบเวลาฝาก เราจะได้รับเงินก้อน ที่เป็นเงินต้นที่ซื้อไว้คืนทั้งหมดรวมกับดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่ฝากด้วย

เทคนิคที่ 3 : หัดลงทุน

การ “ลงทุน” คือโอกาสที่ทำให้เงินที่มีอยู่งอกเงยขึ้นมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประเภทต่างๆ ที่ต้องแลกมากับ “ความ เ สี่ ย ง ” ตามมา ส่วนจะ เ สี่ ย ง มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุน

ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนที่หลากหลาย และเข้าถึงง่ายผ่านสมาร์ทโฟน โดยการลงทุนเบื้องต้นที่แนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อน และต้องการเก็บเงินให้ค่อยๆ งอกเงย คือ “กองทุนรวม”

กองทุนรวม คือการใส่เงินลงทุน เข้าไปในกองทุนที่คนมีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้จัดการกองทุน ช่วยบริหารจัดการให้ ตามนโยบายที่แจ้งไว้กับนักลงทุนซึ่งในแต่ละกองทุนก็จะไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ อีกทอดหนึ่งโดยส่วนใหญ่จะกระจายหลายสินทรัพย์

ซึ่งจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 1-12% (ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ เวลาที่ลงทุน) ซึ่งมีโอกาสปั้นเงินก้อนให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ แบบออกแรงน้อยลง เช่น อยากมีเงิน 1 แสนบาท ใน 1 ปี หากออมเงินในกระปุก จะต้องเก็บเงินเฉลี่ยเดือนละ 8,333 บาท จึงจะครบแสน

แต่หากนำเงินไปลงทุนกองทุนรวม 1 ปี จะใช้เงินต้นที่น้อยลง เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนจะเข้ามาเติมเต็ม เช่น ถ้าเราลงทุนในกองทุนเดือนละ 8,000 บาท แล้วได้รับผลตอบแทน เฉลี่ย 5% ต่อปีก็มีโอกาสจับเงิน 100,800* บาท เนื่องจากมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมา 4,800 บาทนั่นเอง

ขอขอบคุณ b a n g k o k b i z n e w s

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…