Home ข้อคิด โรงเรียนที่ดี..ก็ไม่เท่าพ่อแม่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับลูก สำคัญกับลูกมาก

โรงเรียนที่ดี..ก็ไม่เท่าพ่อแม่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับลูก สำคัญกับลูกมาก

7 second read
0
0
53

เป็นอีกหนึ่งบทความที่ให้ข้อคิดดีๆ สำหรับการเอาใจใส่ ดูแลของพ่อแม่

มีผลต่อความสำเร็จทางการเรียนมากกว่า การเรียนหนังสือในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงดี

เชื่อว่าพ่อแม่หลายต่อหลายคน เป็นกังวลไม่น้อย เรื่องการพยายาม

สรรหาโรงเรียนที่ดี ให้กับลูกๆ ของตัวเองพ่อแม่หลายคนพยายามให้ลูก

ได้เข้าโรงเรียนอินเตอร์ ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีค่าเล่าเรียนราคาแสนแพง

เนื่องจากคัดสรรครู ที่มีคุณภาพชั้นดี หรือมีอุปกรณ์การเรียนการสอนครบครันหรือไม่

ก็พยายามให้ลูกกวดวิชา เพื่อสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนชื่อดัง เป็นโรงเรียนเก่าแก่

ที่มีอัตราการแข่งขันสูงรับเด็กได้จำนวนจำกัด

เพราะคิดว่านี่คือ การรับประกันความสำเร็จในอนาคตของลูก

แต่จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยทำการทดสอบ กับเด็กวัยรุ่น 10,000 กว่าคน จากโรงเรียนประมาณพันแห่ง

ในรัฐต่างๆ พบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้เด็กประสบความสำเร็จ ในการเรียนนั้น

ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของโรงเรียน แต่กลับเป็นความเอาใจใส่ดูแลของพ่อแม่ผู้ปกครองมากกว่า

นักวิจัยพบว่าเด็กนักเรียนวัย 18 ปี ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนธรรมดาที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานเท่าที่ควร

แต่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ให้ความเอาใจใส่ ดูแลในด้านการเรียนของลูกจะทำคะแนนสอบได้ดี

กว่าเด็กนักเรียนที่เรียนโรงเรียนดีสภาพแวดล้อมดี แต่พ่อแม่ไม่ได้ใส่ใจในด้านการเรียนของลูก

ความใส่ใจของพ่อแม่นั้น นักวิจัยกลุ่มนี้วัดจากระดับคะแนนความสัมพันธ์

ว่าพ่อแม่ผู้ปกครองเชื่อมั่น ในลูกของตัวเองมากน้อยแค่ไหน พ่อแม่ช่วยตรวจทาน

เวลาลูกทำการบ้าน ให้กำลังใจ มีการพูดคุยเรื่องกิจกร รมของลูกที่โรงเรียนบ้างไหม

และพ่อแม่เข้าไปร่วมกิจก รรมกับทางโรงเรียนมากน้อยแค่ไหน การที่พ่อแม่มีเวลาเอาใจใส่

พูดคุยเรื่องการเรียนกับลูกอย่างสม่ำเสมอ ยังเป็นการสื่อสัญญาให้ลูกรับรู้

ว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา โดยปัจจัยต่อการเรียนรู้ จากพ่อแม่นี้

จะมีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อลูก ยังอยู่ในระดับประถมศึกษาในส่วนของคุณภาพ

ของโรงเรียนนั้นนักวิจัยวัดระดับจากคะแนน ที่พ่อแม่ให้กับคุณครู มาตรฐานการเรียน

การสอนของโรงเรียน โอกาสของนักเรียนในการทำกิจก รรมนอกห้องเรียน

และกิจกรรมกีฬา การสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองและโรงเรียน

ไม่มีปัญหาเรื่องเด็กเกเรเป็นต้น นักวิจัยกลุ่มนี้ ทำการติดตามผลการเรียนของเด็ก

แต่ละคนเป็นระยะยาว โดยวัดคะแนนสอบในสี่วิชาคือคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ

การอ่านวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์พวกเขาพบว่า ปัจจัยจากโรงเรียน

และปัจจัยจากพ่อแม่มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพ ในการเรียนของเด็ก

แต่เห็นได้ชัดว่า การมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครองนั้นสำคัญกว่า

และนำไปสู่การประสบความสำเร็จ ในการเรียนได้มากกว่า ชื่อเสียงของโรงเรียน

“การวิจัยของเราชี้ ให้เห็นว่าพ่อแม่ ควรตระหนักในความสำคัญของตัวเองให้มากขึ้น

ว่าพ่อแม่สามารถช่วยให้ผล การเรียนของลูกดีขึ้นได้ และควรเอาใจใส่ ให้เวลากับลูกๆ ด้วย

การหมั่นตรวจสอบ การบ้านของลูก เข้าร่วมกิจกรร มของโรงเรียน และให้ความสนใจ

พูดคุยกับลูกเรื่องการเรียนอย่างสม่ำ เสมอนั่นคือให้ความสำคัญ กับบทบาทหน้าที่

ของพ่อแม่มากกว่าการลงทุนลงแรงในการพยายามให้ลูก ได้เข้าโรงเรียนชั้นดี”

ขอขอบคุณ s t a n d-s m i l i n g

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…