
มนุษย์เราสามารถสร้างนิสัยคิดบวกได้พอๆ กับนิสัยคิดลบแต่นิสัยคิดลบเกิดได้ง่ายกว่าเพราะต่างทำกัน
เป็นประจำอยู่แล้วฉะนั้นลองทำตามวิธีต่อไปนี้ดูนะคะ เพื่อสร้างนิสัยคิดในด้านดีและ ข จั ด ความคิด
ด้านร้ า ยให้หมดไปวิธีการฝึกคิดบวกนั้นไม่ย าก ลองดู 12 ขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ค่ะ
1. ให้มองไปข้างหน้า อย่ ามองย้อนหลังทุกคนเคยทำผิดมาแล้วทั้งนั้นแต่ต้องไม่จมอยู่กับอดีตที่
ผิดพ ล า ด เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไปจงวางเป้าหมายเล็กๆ ที่เป็นไปได้และพย าย ามทำให้สำเร็จ
2. รู้จักให้อภัยตัวเองและผู้อื่นสำหรับคนส่วนใหญ่แล้วเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นผลพวงมา
จากการกระทำของตนเองทั้งสิ้นในบางครั้งบางคราวเราต่างตัดสินใจผิดพลาดแต่เมื่อรู้สำนึกแล้วก็
ต้องปล่อยให้มันผ่านไปเรียกว่าเป็นการให้อภัย และต้องให้อภัยตัวเองเมื่อทำผิดพลาดเพื่อที่จะเดิน
หน้าต่อไป รวมทั้งใช้ความผิดพลาดจากอดีตเป็นบทเรียน เพื่อก้าวย่ างที่ดีกว่าในอนาคต
3. ถ้าแก้วมีน้ำแค่ครึ่งเดียวจงเติมให้เต็มแก้วการมองว่า มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้วหรือน้ำหายไปครึ่งแก้ว
นั้นถูกทั้ง 2 อย่ าง อยู่ที่ว่าผู้มองเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือร้ า ย และไม่ผิดอะไรที่คุณจะเติมน้ำให้เต็มแก้ว
4. มองหาบุคคลต้นแบบทุกคนควรมีบุคคลต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลใจ คนคนนั้นอาจเป็นผู้ที่เอาชนะ
อุปสรรคใหญ่ๆ ได้สำเร็จและประสบความสำเร็จอย่ างงดงามในที่สุดหรือเป็นผู้ที่ทำงานหนักและสัมฤทธิ์ผล
จงเอาคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต
5. พาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวดวงของคนที่ประสบความสำเร็จและมอง โลกในแง่ดีมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่
พลังอำนาจของคนอื่นสามารถส่งผลกระทบต่อพลังในตัวเราได้คนที่คิดในด้านบวกจะช่วยกระ ตุ้ น และเป็น
แรงบันดาลใจให้เราเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราสามารถทำสิ่งที่มุ่งมั่นไว้ให้สำเร็จได้ จำไว้ว่าจงอยู่ให้ห่างคนที่คิด
แต่แง่ร้ า ยซึ่งจะขัดขวางการเดินหน้าของคุณดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
6. เห็นคุณค่าสิ่งดีๆ ในชีวิตเมื่อเราพอใจกับทุกเรื่องดีๆที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
มันจะช่วยให้เราขจัดความคิดในด้านลบออกไปการโฟกัสแต่สิ่งดีๆ เหล่านี้จะทำให้อุปสรรคที่เราเผชิญอยู่
กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราจัดการได้ง่ายขึ้น
7. รู้จักบริหารเวลาอย่ างชาญฉลาด อย่ าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณตั้งเป้าไว้ในชีวิตข้อสำคัญ
คือมุ่งทำในเรื่องที่ทำให้ชีวิตของคุณเป็นไปดังที่หวังไว้ ซึ่งจะส่งผลให้คุณมีทัศนคติที่ดี
8. จินตนาการว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแปลกแต่จริงที่ว่าคนส่วนมากมักชอบวาดภาพเรื่องเ ล วร้ า ยกำลัง
เกิดขึ้นโดยมักจะพูดว่า “ถ้ามันเกิดขึ้น…” จงฝึกนึกถึงเรื่องดีๆกำลังเกิดขึ้นมองเห็นภาพงานที่กำลังทำ
เดินไปด้วยดี (ไม่ว่าจะเป็นงานที่บ้านหรือที่ทำงาน) และได้รับคำชมจากคนรอบข้างว่า “เยี่ยมมาก”
เพราะนั่นจะเป็นกำลังใจให้คุณคิดบวกต่อไป
9. ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้มิใช่แส้ที่เอาไว้เ ฆี่ ย น ตี ทุกคนล้วนเคยทำผิดทั้งนั้นและถึงแม้ว่าได้
พย าย ามอย่ างดีที่สุดแล้วแต่ก็ยังทำพล าด ขอให้จำไว้ว่ายังมีโอกาสให้เริ่มต้นใหม่ ความผิดพลาด
ต่างๆ ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียน เพื่อนำไปปรับ ป รุ ง แก้ไข สิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคต
10. อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีถ้ารอบๆ ตัวเต็มไปด้วยข้าวของวางระเกะระกะ กระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ลองหาเวลาจัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อยซึ่งจะช่วยให้คุณเปลี่ยนมุมมอง ความคิดได้มากใครจะ
มองโลกในแง่ดีได้ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางสภาพสก ป ร ก ร ก รุง รั ง ตลอดเวลาเพราะสภาพแวดล้อมที่ดีจะ
ช่วยสร้างและเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดทัศนคติด้านบวก
11. รับข้อมูลข่าวสารที่ดีหมั่นอ่ า นบทความที่สร้างแรงจูงใจ (ถ้าเป็นของ จิตเป็นสุข จะดีมาก )
หรือฟังธรรมะที่กระ ตุ้ น ให้รู้สึกตื่นตัวและเกิดปัญญาซึ่งจะช่วยให้มองโลกและชีวิตได้อย่ างเข้าใจ
มีความหวังและความสุข
12. ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองและบอกตัวเองซ้ำๆ เพราะคำมั่นสัญญาดีๆ มีผลต่อกระบวนการคิดของ
ตัวเองเช่น ถ้าคุณมีอาการซึมเศร้าเป็นประจำคำมั่นสัญญาของคุณก็คือ “ฉันมีความสุขฉันควบคุม
ตัวเองได้” บอกตัวเองเช่นนี้หลายๆ ครั้งในแต่ละวันแล้วคุณจะรู้สึกถึงพลังความคิดด้านบวกที่เกิดขึ้น
ขอบคุณที่มา Junjaonews