
1. ทักทาย “สวัสดี” กับเพื่อนร่วมงานของคุณในย ามเช้าที่สดใส
ถ้าคุณต้องเจอกับเพื่อนร่วมงานที่ห่อไหล่เดินเข้ามาในออฟฟิศ ตามองต่ำไม่มองหน้าใครแล้วเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานคุณจะรู้สึกยังไงกับเขา ในกรณีที่เบาที่สุดคุณอาจจะแค่ไม่สนใจเขา
หรืออย่างร้ าย ที่สุดคุณก็คงหลีกเลี่ ย ง เขาไปเลย ดิฉันว่าเรามาสร้างนิสัยของการยิ้ม และทักทายทุกๆ คนในย ามเช้าของวันทำงานกันดีกว่าค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่ามารย าทเล็กๆ น้อยๆ นี้ของคุณ มีความมหัศจรรย์ที่ช่วยละลายความเย็นชา ในที่ทำงานของคุณได้รวดเร็วแค่ไหน
2. เรียนรู้ศิลปะการคุยเล็กๆ น้อยๆ
ชวนเพื่อนร่วมงานของคุณ คุยเกี่ยวกับเรื่องที่เขาสนใจ อาจจะเป็น เพลงที่ชอบ หนัง หนังสือ หรือ งานอดิเรก การแสดงให้เขาเห็นว่าคุณสนใจพวกเขาจริงๆ มันจะทำให้เขารู้สึกสบายใจเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณ
และคุยถึงเรื่องของคุณ นอกที่ทำงานบ้าง (ถ้ามีจังหวะเวลาที่เหมาะสม) สิ่งนี้จะทำให้คนที่ทำงานกับคุณนึกถึงคุณเป็นคนแรก เมื่อมาถึงที่ทำงานไม่ใช่เป็นแค่พนักงานหรือเจ้านายทั่วๆ ไปที่ไม่มีความหมายอะไร
3. ถามถึงสิ่งที่พวกเขาคิด
คนส่วนใหญ่ชอบให้คนอื่นถามความเห็นของตัวเอง ลองตั้งคำถามและขอความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานคุณ อย่างเช่น คุณคิดอย่างไรกับการจัดการสถานการณ์นี้ด้วย X หรือ คุณคิดยังไงเกี่ยวกับความผิดพลาดจากรายงานชิ้นนี้บ้าง
การถามความคิดเห็นเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่ง ว่าคุณให้ความหมายกับความคิดเห็นของพวกเขา แล้วอย่าลืมกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจให้กับคำแนะนำเหล่านั้นด้วยนะคะ (แม้ว่าความคิดนั้นจะมีประโยชน์น้อยแค่ไหนก็ตาม)
4. หลีกเลี่ยงการนินทา
คุณไม่ต้องการให้ใครพูดถึงคุณ ลับหลังอย่างไร คุณก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับใครเช่นกัน เมือมีเพื่อนร่วมงานเขามาใกล้ๆ คุณแล้วนินทาเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ในออฟฟิศหรือใครบางคนกำลังโดนไล่ออก
ในคุณตอบโต้เขาไปด้วยคำว่า “จริงเหรอ?” แล้วพย าย ามเปลี่ยนเรื่องไปหรือวกกลับเข้าไปเรื่องงาน หรือถ้าคุณไม่ตอบโต้อะไรเลยคนที่ชอบนินทา คนนั้นก็จะไปหนีคุณไปเอง และการที่คุณไม่นินทาใครก็จะทำให้คุณสามารถรักษ า ความเชื่อใจและความเคารพจากเพื่อนร่วมงานของคุณเอาไว้ได้
5. เมื่อคุณต้องคุยงานกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยย ากให้ทำเหมือนว่าลูกของคุณกำลังมองคุณอยู่
เมื่อคุณต้องคุยงาน กับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยย าก (7 ประเภทของเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยย าก) ซึ่งคุณก็คงลำบากใจไม่น้อยที่จะต้องเข้าไปคุยงานด้วย แน่นอนว่าคุณคงพย าย ามที่จะหาทางหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยว แต่ในบางครั้งก็มีเหตุจำเป็นให้คุณต้องเข้าไปติดต่อกับเขา
ถ้าอย่างนั้น ก็ให้คุณคิดเสียว่าในขณะที่คุณกำลังคุยงาน มีสายตาของลูกคุณค่อยเฝ้ามองอยู่ ซึ่งนี่คือเทคนิคการสร้างมโนภาพที่จะช่วยให้คุณสามารถรักษ า ความสุขุมเอาไว้ได้ หลังจากนั้น ความสุขุมและมารย าทที่ดีของคุณ
จะช่วยลดระดับความไม่พอใจทั้งของคุณและเขา และเป็นแบบอย่างที่สอนให้เพื่อนร่วมงานคนนั้นรู้ว่า ควรจะทำตัวอย่างไรจึงจะดีและเหมาะสม
6. ชื่นชมเพื่อนร่วมงาน
ชื่นชมเพื่อนร่วมงานของคุณในเวลา ที่เขาประสมความสำเร็จหรือดูแลรับผิดชอบหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เช่น วันนี้งานพรีเซ็นของเธอเยี่ยมมาก หรือ งานที่เธอรับผิดชอบออกมาดีมากเลยนะ เพื่อให้กำลังใจเขา
เพราะคนเรามักจะตำหนิในสิ่งที่คนอื่นทำผิดพลาดมากกว่าชมเชยในสิ่งที่เขาทำดี ซึ่งการชื่นชมของคุณ จะต้องไม่มากเกินไปจนดูเหมือนเป็นการประจบ ซึ่งจะทำให้ความหวังของคุณมันดูปลอม ไปทันทีเมื่อคุณข้ามเส้นของความพอดี
7. เผยแผ่กำลังใจที่ดีของคุณ
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี หรือให้กำลังใจเขาตลอดเวลา แค่สัปดาห์ละครั้งก็พอที่จะให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานของคุณ (โดยไม่เลือกคนเดิมซ้ำๆ กันจนมีคนมองว่าคุณลำเอียงเอาได้) เช่น อาทิตย์นี้คุณอาจจะให้คุกกี้ (โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลที่จะให้)
อาทิตย์หน้าอาจจะเป็นการ์ดหรือโน้ตที่เขียน ขอบคุณเขาสำหรับความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ หรือ ส่งกระดาษที่เขียนข้อความตลกเพื่อสร้างรอยยิ้ม ให้กับเพื่อนร่วมงานที่กำลังมีเรื่องกลุ้มใจก็ได้นะคะ
8. ตอบ e-mails หรือโทรกลับทันที
การมัดใจเพื่อนร่วมงานวิธีการที่ดี เริ่มต้นที่การมีมารย าทในออฟฟิศที่ดี ไม่มีอะไรน่าผิดหวังไปกว่าคนที่ยุ่งจนไม่ตอบ e-mails และไม่โทรศัพท์กลับ ความเงียบของคุณไม่ใช่แค่ทำให้งานของเขาทำย ากขึ้นเท่านั้น
แต่มันยังสื่อความหมายว่าคุณอาจจะไม่พอใจในข้อความของเขาหรือ เขาไม่มีความสำคัญอะไรสำหรับคุณ ซึ่งมันคงไม่ส่งผลดีต่อบรรย ากาศในการทำงานของคุณกับเพื่อนร่วมงานสักเท่าไร
9. ให้เครดิตเสมอ
อย่าลืมให้เครดิต กับเพื่อนร่วมงานที่เขาควรได้รับ ให้จำเอาไว้ว่า “เราต้องชนะไปด้วยกัน” และทำให้ทุกคนรู้ว่ามีใครที่ทำงาน ได้ดีหรือดีมากกว่าหน้าที่รับผิดชอบในงานนั้นๆ บ้าง ให้เครดิตอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องจำเป็นนะคะ
10. ข้อสำคัญสำหรับ The Boss
ในการทำงานทุกครั้ง คุณจะต้องไม่ให้งานที่ย ากมากเกินไปกับลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานของคุณเมื่อพิจารณาจากความสามารถของเขา หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ควรย ากมากในระดับที่แม้แต่คุณก็ทำเองไม่ได้
เพราะมันคงจะทำให้คุณเป็นหัวหน้าที่ใจ ยั กษ์ ใจม าร ที่ไม่น่ารักสำหรับพวกเขา
11. เคารพเวลาของคนอื่นอยู่เสมอ
คุณอย ากใช้เวลาให้มี ประสิทธิภาพสูงสุดมากแค่ไหน เพื่อนร่วมงานเองก็ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องงานหรือเรื่องเร่งด่วนจริงๆ ก็ไม่ควรไปรบกวนเวลาทำงานของเขา
แต่ถ้าคุณอย ากคุยเรื่องสัพเพเหระ หรือเรื่องส่วนตัวกับเขาเพื่อสานสัมพันธ์อันดี ก็ควรเข้าไปชวนคุยในเวลา พักหรือหลังเลิกงานจะดีกว่าค่ะ
12. เคารพความคิดเห็นของคนอื่น
เมื่อคุณนำเสนอ ไอเดียของคุณออกไปแล้ว ก็ต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นโดยไม่ใช้อคติด้วยเช่นกัน แม้ว่าทุกความคิดเห็นที่ออกมาอาจจะไม่ได้ดีทั้งหมด แต่บางความเห็นก็อาจจะมาเสริมเติมให้อีกความเห็นมีจุดบกพร่ อ ง น้อยลง
หรืออาจจะมีความเห็นใหม่ๆ ที่ดีกว่า เหมาะสมกว่า ตามมาก็ได้หลังจาก คุณเสนอความเห็นก็เป็นได้ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรปิดหูและปิดใจ จนพลาดที่จะเปิดโลกของคุณให้เห็นมุมมองใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
13. เมื่อมีอะไรที่คุณยังไม่รู้ให้สมมติสิ่งที่จะเกิดขึ้นไปในทางบวกไว้ก่อน
คุณคงจะขำไม่ออก ถ้าเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องในทีมของคุณเอาแต่สนใจว่างานเขาจะต้องทำหนักกว่าคนอื่นในตึกนี้หรือเปล่า หรือ เจ้านายจะเห็นผลงานหรือไม่ คำถามที่เต็มไปด้วยความคิดลบๆ
พวกนี้มีแต่จะทำให้คุณไม่มีความสุขกับการทำงาน แทนที่คุณจะสนใจว่าคนอื่นทำงานหนักและทำได้ดีที่สุดหรือเปล่า คุณควรเชื่อในงานและบริษัทที่คุณกำลังทำงานมากกว่า เพราะถ้าคุณไม่เชื่อ บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่คุณต้องเดินออกมาจากบริษัทนั้น
การเป็นที่รัก ของเพื่อนร่วมงาน เริ่มต้นจากการทำตัวคุณให้ดี ไม่เย็นชากับเพื่อนร่วมงาน แต่ก็ไม่ได้ดีเกินไปจนคนอื่นไม่เกรงใจหรือดูหลอกลวง แล้วการทำงานของคุณ จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
ทั้งนี้ทั้งนั้น ความจริงใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์อันดีของผู้ร่วมงาน
ขอขอบคุณ rd.c o m