
1. คนรวย เน้นพัฒนาจุดแข็ง มากกว่าอุดจุดอ่อน
หมายความว่า คนเราควรเก่งด้านใดด้านหนึ่ง ให้สุดๆ ลองมองหาจุดแข็งของตัวเองให้ได้ค้นหาตัวเองให้เจอแล้วทำมันให้ดีที่สุด เราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง แค่เก่งจริงด้านเดียวก็หากินได้จน ต า ย ศิลปินนักร้องซุปเปอร์สตาร์ ร้องเพลงออกคอนเสิร์ตหนักๆ แค่ช่วงวัยรุ่น
แต่ก็มีกินมีใช้ไปจนเกษียณ นักเขียนนิยาย ตั้งใจทุ่มเทเขียนให้เป็นที่นิยม แค่เรื่องเดียว ก็หากินได้ทั้งชีวิต เจ. เค. โรว์ลิง นักเขียนนิยายชาวอังกฤษ ผู้แต่งแฮร์รี่ พอตเตอร์ทำรายได้จากนิยายเรื่องเดียวของเธอ 2 หมื่นล้านบาท
2. หาเงิน มากกว่าการหาวิธีประหยัดหรือการออมเงิน
ความจริง ข้อหนึ่งคือ ไม่มีเศรษฐีท่านใดร่ำรวย จากการประหยัดรายจ่าย เพราะความร่ำรวยทั้งหมดเกิดจากการ ลงทุน ลงแรง และใช้เวลาทั้งสิ้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้เอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนไม่มีเงินเหลือไว้ลงทุน
จริงอยู่ที่เศรษฐีส่วนใหญ่มักมีนิสัยประหยัดนั่นเป็นเพราะพวกเขามักคิดเสมอว่าเงินที่เขาประหยัดได้นั้นสามารถนำไปสร้างรายได้ ให้งอกเงยได้การออมเป็นสิ่งสำคัญแต่อย่าลืมว่าเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้ในถุงไม่มีวันเติบโตอย่าหวังรวยจากการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์
ดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชีธนาคารนั้นไม่มีวันเอาชนะ ค่าเงินเฟ้อได้เพราะอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ราว 3% ต่อปีในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากนั้นได้ไม่ถึง 1%แค่ฝากเงินไว้ธนาคารเฉยๆ โดยที่ไม่ยอมเอาไปลงทุน
คุณก็จนลงแล้วอย่ามัวประหยัดจนไม่กล้าลงทุนให้ถามตัวเองเสมอว่า การประหยัดครั้งนี้ทำให้เราเสียผลประโยชน์อะไรบ้างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตหากลงทุนสำเร็จเรื่องใดที่พัฒนาชีวิตของเราได้ อย่าเสียดาย เช่น จ่ายสมัคร ค อ ร์ ส เรียนหาความรู้ฝึกทักษะอาชีพ
สละเวลาส่วนตัวที่เอาไปใช้กับความบันเทิงหารายได้พิเศษเพิ่มเติมถ้าค่า ค อ ร์ ส แค่ไม่กี่ร้อยบาท แต่ถ้าฝึกแล้วสามารถสร้างรายได้เพิ่มหลักหมื่นบาทต่อเดือนคุณจะยังเสียดายเงินอีกหรือ ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร เปิด ค อ ร์ ส สอนซ่อมโทรศัพท์มือถือ, นวดแผนไทย, ทำอาหาร ขนม เสริมสวย ฯลฯ
ถ้าฝึกแล้วคุณทำได้ดี ทำให้คนชอบได้อาจจะกลายเป็นอาชีพหลักแทนอาชีพที่ทำอยู่ปัจจุบันก็เป็นได้บ่อยครั้งการประหยัดก็เสียประโยชน์ เช่น การเดินเลือกซื้อของ 1 ชั่ วโมง โดยไล่ถามเทียบราคาทั่วทั้งตลาดเพื่อประหยัดเงินแค่ 20 บาท ไม่คุ้มกันเลย
1 ชั่ วโมงนั้นคุณสามารถนำไปอ่านหนังสือหาความรู้เพิ่มเติมได้บางคนใช้เวลาทั้งวันเทียบราคาสินค้าเพื่อซื้อราคาถูกกว่าแค่ไม่กี่สิบบาทสิ่งที่เราให้ความสนใจจะขยายใหญ่เสมอหากเราโฟกัสไม่ให้เงินหายเงินก็จะหาย ที่หายเพราะไม่มีเวลาไปสร้างเงินเพิ่มโฟกัสที่ได้รูรั่วก็ได้รูรั่ว
โฟกัสที่ประตูก็ได้ประตูมัวแต่หาทางไม่ให้เงินเล็ดเงินก็เลยยิ่งเล็ดเพราะคิดแต่คำว่า หาย ต า ย จน แ ย่ หนี้ ไม่มี ประหยัด…แต่คนรวยจะคิดแต่คำว่า หา ลงทุน เยอะ งอก รวย เจ๋ง เศรษฐี โอกาสคนรวยจึงไม่ได้โฟกัสที่เงิน
แต่โฟกัสที่ เ นื้ อ งานคำใน ส ม อ ง ที่ต่างกันก็ทำให้ชีวิตคนเราต่างกันไม่อยากให้ฟุ่มเฟือยให้โฟกัสในการหามากกว่าการหวง เงินหมดบัญชี หัวใจแทบสลาย
ไม่มีเศรษฐีร่ำรวย จากการประหยัดรายจ่าย แต่เขาร่ำรวยจากการสร้างรายได้เพิ่ม
ไม่มีเศรษฐีร่ำรวย จากการทำงานง่าย แต่เขาร่ำรวยจากการทำงานยาก
ไม่มีเศรษฐีร่ำรวย จากการทำงานหนัก แต่เขาร่ำรวยจากการทำงานฉลาด
ไม่มีเศรษฐีร่ำรวย จากการขายแรงงาน แต่เขาร่ำรวยจากการขายไอเดีย
3. เวลา เป็นของมีค่า อย่าใช้ฟุ่มเฟือย
คนรวย ไม่เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระเบา ส ม อ ง ติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้าง เพื่อปรับตัวให้ทันสมัยแต่อย่าสนใจ แต่เรื่องของชาวบ้านจนเกินพอดี หรือมัวแต่แสวงหาความบันเทิงจนลืมพัฒนาตัวเองเวลาเป็นของมีค่า อย่า ฆ่ า เวลาไปเปล่าๆ โดยไม่ได้อะไรกลับคืนมา
แต่อย่าหักโหม จนไม่ได้พักผ่อน เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอตามที่ ร่ า ง ก า ย ต้องการก็ถือ เป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าเช่นกันหาก สุ ข ภ า พ พังเพราะขาดการพักผ่อนก็ทำงานต่อไม่ได้อย่ามัวเสียเวลากับการกดมือถือ หลับพักผ่อนให้เพียงพอ คุ้มค่าทุกนาที
4. คนรวยปฏิเสธเก่ง พอพอกับตอบตกลง
หมายความว่า คนเราควรปฏิเสธ หากมีใครมาชวนทำอะไร ที่ไม่อยู่ในเป้าหมายของเรา เราก็ควรปฏิเสธการตอบปฏิเสธคนอื่นบางครั้งเป็นการตอบตกลงกับตัวเอง คนไทยมีนิสัยขี้เกรงใจ ทำให้ตกเป็น เ ห ยื่ อ ต่อผู้ที่หวังผลประโยชน์ได้ง่ายปฏิเสธไม่เป็นชีวิตลำเค็ญแน่นอน!
หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน การปฏิเสธสิ่งที่อยู่นอกเหนือเป้าหมายของเราก็จะง่ายขึ้นถ้ามีใครชักชวนไปขายอะไรสักอย่าง แล้วเทตามไปลงทุน ด้วยหมดโดยไม่ได้วิเคราะห์ว่ามันตรงกับเป้าหมายของเราไหมปล่อยให้ความโลภครอบงำก็อาจทำให้เราเสียหลักจนไปไม่ถึงเป้าหมาย
ถ้าคุณทำอะไรได้ดี อย่าทำสิ่งนั้นฟรีๆ ให้กับใคร เช่น มักมีญาติสนิทมิตรสหายขอให้ทำให้ฟรีๆ เมื่อคุณให้เขาฟรี หนึ่งครั้งแล้ว ครั้งต่อไปจะคิดเงินก็คงยากทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายคนที่ไม่ได้ทำอาชีพเดียวกับคุณเขาไม่เข้าใจหรอก ว่าคุณต้องลงทุนอะไรบ้างน้ำใจมีให้กันได้
แต่จงมีให้อย่างพอดีๆ และมีน้ำใจให้ถูกคนด้วย มิเช่นนั้น คุณจะถูกเอาเปรียบเวลาและความสามารถเป็นต้นทุนที่ประเมินค่ามิได้การจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน 1% นั้นได้ คุณก็ต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้เหมือนคนรวยเสียก่อน
ขอขอบคุณ a d c h i p s