
ปัญหาเรื่องการเงิน ที่เป็นจุดเริ่มต้น ของปัญหาการเงินอีกหลายๆ อย่างเลย คือ เก็บเงินไม่อยู่ ไม่ว่าจะมีสาเหตุ มาจากการที่เราไม่รู้ “วิธีออมเงิน” ที่ถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อเราไม่มีเงินออม เวลาเกิดเหตุไม่คาดฝันไม่ว่าจะเป็น ตกงาน เจ็ บ ป่ ว ย อุ บั ติเ ห ตุ ฯลฯ ก็จะทำให้เราไม่มีเงินไปจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้
ซึ่งนั่นก็จะเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เราต้องเริ่ม กู้ ยื ม เป็นหนี้กันไปซึ่งบอกเลยว่าเราเองก็เคยเป็นคนที่เก็บออมเงินไม่ได้เหมือนกัน วันนี้เราเลยมีเทคนิคสำหรับคนที่ออมเงินไม่เก่ง ก็สามารถทำได้มาฝากกัน เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ได้ผลดีมาก เพราะเราลองเองมาแล้ว
1. เก็บออมก่อนใช้เสมอ
“วิธีออมเงิน” นี้เป็นวิธีที่เราน่าจะได้ยินกันมานาน แต่รู้กันหรือไม่ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ทรงพลั ง มากที่สุด เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเจอปัญหาประมาณว่าเหลือเงินอยู่ 500 บาท แต่ต้องใช้ชีวิตให้รอดตลอดอาทิตย์กันมาบ้างแน่ๆ แล้วก็เป็นอะไรที่น่าแปลก เพราะเราก็มักจะรอดมาได้ทุกครั้ง
เหตุผลก็เพราะว่าคนเรามีความสามารถในการปรับตัว การเก็บออมก่อนใช้ก็เป็นการสร้างสถานการณ์ที่คล้ายๆ กับที่เราพูดถึงไป สมมติว่า เราตั้งใจจะเก็บให้ได้เดือนละ 1,000 บาท แต่ถ้าเราไม่มีการออมก่อนใช้ แปลว่าอาทิตย์สิ้นเดือนนั้นเราจะเงินเหลือ 1,500 บาท แทนที่จะเป็น 500 บาท
ทีนี้เราก็จะเริ่มหาข้ออ้าง ข้อแก้ตัวอย่างเช่น “ไว้ก่อนละกัน” “ไว้ค่อยเก็บเดือนหน้าละกัน” เหตุผล ส าร พัดที่สุดท้ายถูกหยิบยกขึ้นมาทำให้เรา เก็บเงินไม่ได้เราแนะนำต่อว่า สำหรับเงินที่หักออมล่วงหน้าออกมาทุกเดือนให้เปิดบัญชีแยกเก็บกับบัญชีที่เราใช้ประจำ เพื่อเป็นการวางเงินให้ไกลไม้ไกลมือมากที่สุด
ตอนที่เราเริ่มเก็บออมเงิน เราจะไม่ผูกอะไรไว้กับบัญชีที่เก็บเงินแยกเลย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเดบิต M o b i l e B a n k i n g ต่างๆ เพื่อลดความเสี่ ย ง ที่เราไปหยิบถอนออกมา โดยบัญชีที่เก็บแยกเราอาจจะใช้บัญชีเงินฝากประจำ ที่ต้องมีการฝากเงินทุกเดือนเพื่อเป็นการเพิ่มวินัยการออมให้กับตัวเราไปในตัวด้วย
2. เก็บแบงก์ 50 และหยอดเหรียญใส่กระปุก
อีกวิธีการหนึ่ง ที่เราทำแล้ว รู้ตัวอีกทีก็มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเดือนละหลายพัน การเก็บ ’แบงก็ 50’ และ ‘หยอดเหรียญใส่กระปุก’ หลักการก็คือ ทุกครั้งที่เราได้เงินทอนกลับมาเป็น ‘แบงก์ 50’ หรือ ‘เหรียญ’ อะไรก็ตาม ห้ามใช้ เ ด็ ด ข า ด! ให้เก็บกลับมาบ้าน แล้วหยอดเข้ากระปุกทันทีจากนั้นทุกเดือนก็นำเงินในกระปุกนำไปใส่บัญชีธนาคารที่เราเปิดแยกไว้นั่นเอง
3. ทำบัญชีรายจ่าย
จดให้หมด จดให้ครบทุกบาททุกสตางค์ที่เราใช้จ่ายออกไป เพื่อให้เราเห็นภาพการใช้จ่ายของเราในแต่วัน แต่ละสัปดาห์ว่าเราใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง สิ่งที่น่าแปลกใจ
คือ เมื่อเรามีการเริ่มบันทึกว่าเราจ่ายอะไรออกไปบ้าง เราจะเริ่มใช้จ่ายน้อยลงไปแบบไม่รู้ตัว
4. ใช้บั ต ร เ ค ร ดิ ต อย่างพอดี
ส่วนตัวเราก็ยังมองว่า ‘บั ต ร เ ค ร ดิ ต ’ มีประโยชน์มากกว่าข้อเสีย สำหรับคนที่ใช้เป็น เพราะว่าการใช้จ่าย เงินสดแทบจะไม่ได้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษอะไรกลับมาเลย แต่ถ้าใช้จ่ายผ่าน บั ต ร เ ค ร ดิ ต จะได้ทั้งเงินคืน การสะสมแต้ม ต่างๆ ซึ่ง ก ฎ เ ห ล็ กของการใช้ ‘บั ต ร เ ค ร ดิ ต ’ มีเพียงข้อเดียวเลยก็คือ..
ถ้าไม่มีก็ห้ามรูด เด็ ด ข า ด เพราะถ้ารูดไปแล้ว ก็แปลว่า เรากำลังดึงเงิน ในอนาคตออกมาใช้ นอกจากนี้ การใช้ จ่ายผ่ าน บั ต ร เ ค ร ดิ ต ยังช่วยให้เราทำ ‘บัญชีรายจ่าย’ ง่ายขึ้นด้วย เพราะทุกการใช้งานจะถูกบันทึกไว้เสมอไม่ต้องกลัวลืมอีกต่อไป!
5. ก่อนซื้ อ ของทุกครั้งคิดอย่างน้อย 3 วัน
คนเรามักจะซื้ อ ของด้วยอารมณ์ วิธีแก้ที่เราใช้กับตัวเอง และได้ผลมากเลยก็คือ ถ้าจะซื้ อ อะไรที่ไม่ใช่ของที่ต้องซื้ อ อยู่ในชีวิตประจำอยู่แล้ว เราจะกลับไปนอนคิดอย่างน้อย 3 วัน ว่าเราต้องการของชิ้นนี้จริงหรือเปล่า ซื้ อ แล้วจะได้ใช้มั้ย ถ้าได้ใช้แล้วจะได้ใช้บ่อยมากแค่ไหน
คุ้มค่ากับการจ่ายออกไปหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ตอนช่วงเราเริ่มต้นเก็บเงิน หลังจากที่กลับมานอนคิดแล้วก็พบว่าไม่จำเป็นต้องซื้ อ ของพวกนั้นเลย ก็จะช่วยทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นลองเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองกันดูนะ
ของแบบนี้สำคัญที่ตอนเริ่มต้น จะเก็บออมมากหรือน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญ เมื่อได้เริ่ม และเห็นเงินหลักพัน หลักหมื่นในบัญชี มันจะเริ่มมีกำลังใจ แล้วหลังจากนั้นพลั ง ในการออมก็จะมีต่อไปอย่างไม่รู้จบเลยล่ะ!
ขอขอบคุณ m o n e y b u f f a l o