
1. เงียบ
การเงียบไม่ใช่วิธี แก้ปัญหาที่ดีเลยโดยเฉพาะในความสัมพั น ธ์ ของคู่ชีวิตจริงอยู่ที่พอต่างคนต่างโมโหต่างคนต่างงอน
ก็เลยไม่อ ย า กพูดกันขึ้นมา หรือพูดไปก็เปล่าประโยชน์ แต่การเงียบก็เหมือนการหนีปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกแ ก้ ไข
หรือคลี่คลายเลยเพียงแต่หมกเอาไว้จากการไม่พูด เท่านั้นเองคิดดูว่าคนสองคนทะเล า ะ กันมีปัญหากันแต่ต่างคนต่าง
เงียบไม่พูดไม่จากันแล้วปัญหาจะหมดไปได้อย่ างไรความเงียบไม่ใช่อ า วุ ธ แค่เป็นเครื่องมือแก้เผ็ดอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่า
คิดดูว่าเมื่อฝ่ายหนึ่งโก ร ธ อ ย า กหาเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับเงียบ ไม่ยอมพูดยอมจา ยึดคติใช้ความเงียบ
สงบความเคลื่อนไหวคนที่โกรธอาจถึงขั้นอกแ ต ก ต า ย ไปเลย ก็ได้เพราะฉะนั้นถ้ารักกันเวลาเกิดปัญหาขึ้นอย่ า เงียบ
เด็ ด ข า ด หันหน้าเข้าหากันดีที่สุดแม้จะโก ร ธ หรือใช้อารมณ์เ ถี ย ง กัน แต่ก็นำไปสู่การแก้ปัญหาได้ แต่ความเงียบ
กลับไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
2. ไม่พูด คำว่าเลิก
เมื่อสถานะ ของคุณทั้งสองคือครอบครัวคือคู่ชีวิต ขุดดินแล้วฝังกลบการขอเลิก ไปได้เลย ชีวิตคู่คือการมีกันและกันและ
ประคับประคองกันไปจนถึงที่สุด ต่างฝ่ายต่างต้องวางทิฐิอา ร ม ณ์ และตัวตนลงเพื่อนำพาชีวิตคู่ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่งเพราะ
ฉะนั้นคำว่า เลิกไม่ใช่เรื่องดีสำหรับการใช้ชีวิตคู่ถ้าตอนเป็นแฟนใค รที่ใช้เรื่องนี้ขึ้นมาพูดบ่อยๆ จนเป็นนิสัยพอแต่งงานแล้ว
เก็บนิสัยแบบนี้เข้ากรุไปเลยลองคิดดูต่างฝ่ายต่างกำลังโกรธ ไม่ว่าจะทะเล า ะ ขึ้นเสียง เงียบหรืออะไรก็ตามแต่อีกฝ่าย
กลับบอกว่า เลิก มันเหมือนเป็นการโ ห ม ไ ฟ โกรธให้ยิ่งเร่งปฏิกริ ย า ได้เร็วขึ้นครั้งแรกอาจรับได้ งอนง้อกันตามสม
ควรบ่อยครั้งเข้าเผลอๆ อาจพาลจะเลิกกันจริงๆ ไปเลยก็ได้เพราะฉะนั้นไม่พูดเรื่องนี้เป็นดีที่สุด หาทางแก้ไขปัญหาหา
ทางออกให้ทุกอย่ างมันลงตัวจะดีที่สุด
3. ขุ ด คุ้ ย เรื่องเก่า
เป็นความสามารถ ส่วนตัวของผู้หญิงเลยก็ว่าได้สำหรับการขุ ด คุ้ ย แคะเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมาเป็นชาติแล้วออกมาพูดเมื่อ
ย า มโกรธ หรือบางที่ฝ่ายชายก็มีบ้าง ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย อะไรแต่คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าการขุดเอาเรื่องเก่าตั้งแต่
ปีมะโว้มาพูดไม่มีอะไรดีขึ้นเลยทั้งๆ ที่เรื่องนั้นอาจคลี่คลายไปแล้วก็ได้ไปขุ ด ไปคุ้ ย มันขึ้นมาอีกให้อีกคนเ จ็ บ ใจเปล่าๆ
แม้บางครั้งเรื่องที่ทะเลาะกันอยู่นี้ เกิดจากเรื่องเก่าที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ใจก็อ ย า กจะยกเรื่องเก่ามาอ้างอิงเสียเหลือเกิน
อย่ าลืมค่ะว่าเรื่องนั้นมันจบไปแล้วเปล่าประโยชน์สุดๆ ทะเล า ะ แลกเปลี่ยนอารมณ์กันเฉพาะเรื่องไปดีกว่า การโยงใยโน่นนี่
ไปเรื่อยไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลยทะเล า ะกันเป็นเรื่องๆ ไปก็ ย า กจะแก้ไขแล้ว อย่ าเอาอะไรมาพั ว พั น ให้ยิ่งแก้ย า ก
เข้าไปใหญ่เป็นดีที่สุด
4. ไม่ทำร้ า ย ร่างกาย และจิตใจ
ข้อนี้สำคัญขอกา ด อ ก จันไว้สิบ ด อ ก เป็นคู่ชีวิตกันแล้วถึงแม้จะโ ม โ ห โทโสกันแค่ไหน อ ย ากจะทำให้อีกฝ่าย
เจ็ บ แ ค้ นแค่ไหน แต่การทำ ร้ า ย ทั้งร่างกายและจิตใจเป็นเรื่องที่ให้อภัยกันไม่ได้เลย แค่ทะเลาะกันก็ทำ ร้ า ย จิตใจ
กันมากพอแล้วถ้ายิ่งมีการลงไม้ลงมือกันด้วยยิ่งทำให้ทุกอย่ างแย่ไปหมด หันหน้ามาแก้ปัญหากันแบบดีๆ ประเภทที่ใคร
พูดให้อีกฝ่ายเจ็บแค้นได้มากกว่า เป็นฝ่ายชนะนั้นไม่น่าใช่ความคิดของคนรักกันเลยอย่ าลืมว่าปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ตลอดเวลาและเมื่อโก ร ธ เมื่อโ ม โ ห แน่นอนว่าต้องอย า กระ บ า ย ต้องอ ย า กให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่ก็ไม่จำเป็นเลยที่
จะต้องทำ ร้ า ย กัน แค่ระ บ า ย และ ปรับความเข้าใจให้ทุกอย่ างเป็นไปในทางที่ดีขึ้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว
5. อย่ าพย า ย ามทำ ให้มันใหญ่โต
บางครั้งการทะเล า ะ กันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องโตอาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่มองข้ามไปได้แต่ไม่อ ย า กมองข้ามหรือ
บางทีก็ขัดหูขัดตา เ สี ย จนต้องบ่นออกมาดังๆ ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่ าง ย า สี ฟั น ตะกร้าผ้า หรืออะไรก็ตามที่เล็กน้อย
แต่เคยพูดมาหลายครั้งก็ยังไม่ดีขึ้นทางที่ดีเลิกพูดไปเลยค่ะ ในเมื่อไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น หรือปรับตัวเลยก็ไม่ควรเสียเวลา
มานั่งบ่น นั่งทะเลาะกันอีก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็ไม่น่าจะมีผลต่อการ ใช้ชีวิตคู่เท่าไรอยู่แล้ว มองข้ามไปบ้างหรือ
ทำเองบ้าง น่าจะเป็นทางแก้ที่ดีกว่าเห็นไหมคะ ว่าบางครั้งเราก็มองข้ามเรื่องง่าย ๆ พวกนี้ไปแล้วเผลอก่อไฟแห่งความโกรธ
ขึ้นมาเอง ถ้าไม่อ ย า กทะเล า ะ ไม่อ ย า กต้องมานั่งง้อหรือ ปรับความเข้าใจกันบ่อยๆ ทางที่ดีตัดไฟเสียแต่ต้นลม
อะไรที่จะกลาย เป็นปัญหาในภายหลังเรารู้ก่อนล่วงหน้าอยู่แล้วไม่ทำซะ ก็ไม่มีปัญหาจริงไหมคะ
ขอบคุณที่มา sanook