
คำว่า “มิตรภาพซื้อไม่ได้ด้วยเงิน” อาจจะเป็นคติประจำใจ ใครหลายคน แต่บางคนอาจจะเติมต่อท้ายไปอีกหน่อยว่า “ถึงแม้ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน แต่ขอยืมเงินได้ไหม”
และเรื่องเหล่านี้ก็เป็นปัญหาของใครหลายๆ คน เมื่อถูกเพื่อนยืมเงิน ว่าจะทำอย่างไรดี จะปฎิเสธอย่างไรไม่ให้เสียน้ำใจ (เอ๊ะ!! ตกลงใครยืมใครกันแน่หว่า)
เอาล่ะครับ วันนี้มีเคล็ดลับดีๆ ขำๆ มันส์ มาฝากกันครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์
5 เคล็ดลับปฎิเสธเมื่อเพื่อนยืมเงิน
1. บอกว่าโทษทีมีเรื่องใช้เงินเหมือนกัน
อันนี้ใช้ได้ กับเพื่อนที่ไม่สนิทมาก เพราะว่าถ้าหากสนิทกันเพื่อนจะรู้ทันเราว่า “แกไม่ได้มีเรื่องใช้เงินอะไรนี่หว่า”
ดังนั้น อาจจะตอบเลี่ยงๆไปว่าเป็นเรื่องธุระส่วนตัว อันนี้อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้ระยะหนึ่งครับ
2. บอกมันว่าเรามีปัญหาชีวิต
ข้อนี้ใช้วิธีตีเนียนบอกไปเลยว่า โทษที่เรามีปัญหาชีวิต ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะให้ใครยืมเงิน
แบบว่า เ ค รี ย ด อยู่ถ้าเพื่อนดันถามต่อว่าปัญหาชีวิตอะไร ให้ตอบไปว่า เราไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่าให้ฟังว่ะ ..
โทษทีนะ วันหลังค่อยเล่าละกันรับรองว่าเพื่อนมันจะงงๆ ว่าตกลงใครมีปัญหาชีวิตกันแน่หว่า
(ตรูจะมาขอยืมเงินเอ็ง ดันเจือกดราม่าซะงั้น)
3. ขอคิดดอกเบี้ยมันซะเลย
บอกไปเลยว่า ยินดีเพื่่อน แต่เราขอทำสัญญากู้เงินดอกเบี้ยร้อยละ … ต่อปีนะ
แล้วนายไปหาคนมาค้ำประกัน ถ้าผิดนัดเราบวกดอกเบี้ยอีก … ขอแบบแฟร์ๆ กันไปเลย
เพราะเราก็ต้อง เ สี่ ย ง เหมือนกันวิธีนี้ใช้ได้ผลสำหรับเพื่อนที่เป็นคนมีเหตุผลระดับนึงนะครับ
เพราะถ้าเพื่อนไร้เหตุผล เราจะโดนด่าทันทีว่า “ไม่มีน้ำใจ” (สรุปนี่ตรูผิด ทั้งๆ ที่เอ็งมายืมเงินนี่นะ!!)
4. อยู่เฉยๆเงียบๆ หลบหน้าไปสักพัก
วิธีนี้ เราต้องทำตัวเหมือนคนนอนน้อย มึนๆงงๆ หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม
พอได้จังหวะก็หลบหน้า ปิดโทรศัพท์ ไม่รับสาย ติดประชุม มีงานด่วนเรียกได้ว่าหลบหน้าไปก่อน
เพราะไม่อยากปฏิเสธให้ เ จ็ บ ช้ำ น้ำใจกัน เอาไว้เรื่องดีขึ้นค่อยมาว่ากันใหม่
5. ลำบากนัก ตัดเพื่อนไปเลย!!
สุดท้ายถ้ามันลำบากนัก เซ้าซี้ไม่ยอมเลิก ราวีไม่ยอมลดละ ให้จัดด้วย ท่ า ไ ม้ ต า ย นี้
แบบสุขุมนุ่มลึกว่า “โทษทีนะ เป็นเพื่อนกันถ้าจะพูดเรื่องเงิน เราว่าอย่าคบกันดีกว่า”
หรือไม่ก็คำประมาณว่า “มิตรภาพที่ผ่านมา ของเรามีค่าเท่านี้เหรอ”รับรองได้ว่าเพื่อนจะเงียบไป
และไม่กล้าพูดต่อ แต่ถ้าใครโวยวายพูดต่อมา อันนี้ก็คิดเอาเองครับว่าจะเลือกคบคนแบบนี้เป็นเพื่อนหรือเปล่า
บทความตอนนี้เป็นบทความขำๆ แต่แนะนำให้ทำจริง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องไม่ลืม
คือ “เราเป็นเจ้าของเงิน” ดังนั้น “เรามีสิทธิ์จะให้ใครยืมหรือไม่ยืมก็ได้”
เพราะเรื่องเงินนี้มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ แต่ถ้าเราไม่เหลือบ่ากว่าแรง
และมีเงินพอที่จะให้ยืมจริงๆ ให้คิดเสียว่าเงินก้อนนั้นคือการ “ให้” ไม่ใช่ “ให้ยืม”
เพราะถ้าเงินไม่ได้ กลับมาหาเรา เราจะได้ไม่ต้องเสียใจและเสียทั้งมิตรภาพน่ะคร้าบบบบ
เพราะเรื่องเงินนั้น มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ครับ!!!
ขอขอบคุณ a o m m o n e y