Home ข้อคิด 5 เทคนิคเก็บเงินง่ายๆ ในยุคนี้..เก็บง่าย ได้ผลจริง

5 เทคนิคเก็บเงินง่ายๆ ในยุคนี้..เก็บง่าย ได้ผลจริง

9 second read
0
0
367

ออมเงินไม่อยู่ เก็บเงินยังไงก็เก็บไม่ได้เหมือนกับกระเป๋ามันมีรูรั่วอยู่ข้างในอาการแบบนี้ ไม่ว่าใครก็เคยเป็นกันทั้งนั้น จะให้ทำอย่างไร คนมันต้องกินต้องใช้ ได้เงินมาจะใช้ให้หมดไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย

อย่าปลอบใจตัวเอง อีกต่อไป มันมีวิธีเก็บเงิน!!! แค่เราทำไม่ได้แค่นั่นเอง หรือคุณอาจจะเก็บเงินไม่ถูกวิธี ใครๆ ก็อยากมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น แต่เผลอแปปเดียวรู้ตัวอีกทีก็เผลอใช้เงินไปจนเกือบหมด

มาดูกันดีกว่าว่าเราสามารถ เก็บเงินง่ายๆ แต่ได้ผลได้อย่างไร

ตั้งเป้าแล้วแปะบนกระปุก

อยากไปเที่ยว!

อยากได้กระเป๋าใหม่ !!

อยากได้มือถือเครื่องใหม่!!

ทุกอย่างต้องใช้เงิน แต่เราเก็บเงินแทบไม่อยู่ จะทำอย่างไร…ง่ายๆ เลยแค่เขียนใส่กระดาษแล้วแปะข้างกระปุก ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ใช้เงินเท่าไหร่ กลับบ้านวันหยุดยาวเอาเงินไปฝากพ่อฝากแม่ เลี้ยงดูลูกหลานใช้เงินเท่าไหร่ เขียนแปะไว้เลย

นอกจากมันจะเป็นแรงจูงใจแล้ว บางครั้งเรื่องเหล่านี้จะเป็นกำลังใจ ให้เราเก็บเงินด้วยซึ่งวิธีแปะกระปุกนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้กระปุกเดียวในการเก็บออม ใช้หลายกระปุกก็ได้ แล้วหยอดตามความสำคัญที่เราเห็นควร

จำกัดการถอนเงินของตัวเอง

วิธีง่ายๆ วิธีที่สอง คือจำกัดการถอนเงิน ของตัวเองนั่นเอง ใช้วิธีถอนเงินมาก้อนเดียวหรือสองก้อนเก็บไว้ที่บ้าน แล้วดึงมาใช้รายวันจะสามารถเก็บเงินได้ง่ายกว่าแต่ไม่ใช่ว่าถอนมาทีเดียวหมดบัญชีนะ

แค่คิดก่อนว่าเราใช้เงินปกติวันละไม่เกินเท่าไหร่ แล้วจัดแจงคูณตามวันที่มาทำงานเลย ส่วนการถอนครั้งต่อไป ก็เก็บไว้ให้เหตุฉุกเฉินที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น

เช่น สมมติคุณใช้เงินเดือนละ ไม่เกิน 200 รวมค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ปกติ คุณทำงานเดือนละ 20 วัน

จำนวนเงินที่ถอนได้จะเท่ากับ 200 x 20 = 4,000บาท เห็นไหมว่าแค่นี้ ก็สามารถประหยัดเงินได้มากมายแล้ว อีกทั้งเรายังเห็นภาพรวมของเงินได้มากขึ้นกว่า การถอนรายวันด้วย เพราะสมมติว่าวันๆ นึงเราถอนเงินซักสามครั้ง ถ้าไม่ได้มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

เราลืมแน่นอนว่าเราจ่ายเงินค่าอะไรไปบ้าง แต่ถ้าเราเน้นแค่ถอนเงินเป็นก้อน ใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ หากมีการถอนเงินพิเศษขึ้นมา คุณจะรู้ได้ทันทีเลยว่า นี่มันการใช้จ่ายแปลกปลอมที่ปกติไม่น่าเกิดขึ้นในระบบ ทำให้เรามีวินัยในการเงินมากขึ้น

ใช้กระติกน้ำ

คุณอ่านไม่ผิดแน่นอน พกกระติกน้ำไปทำงานเป็นหนึ่ง ในวิธีการประหยัดเงินที่ได้ผลสุดๆ เมื่อเราหิวน้ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำขวดใหม่ คว้ากระติกตัวเองมาได้เลย นอกจากจะประหยัดเงิน แล้วยังดีต่อทรัพยากรโลกอีกต่างหาก

ทำไมเราจึงต้องเน้นเรื่องนี้? ผลสำรวจการใช้เงินของคนไทยในปัจจุบัน ระบุไว้ว่าพวกเราใช้เงินไปกับอาหารและเครื่องดื่มสูงที่สุดเลยนั่นเอง และบางครั้งค่าเครื่องดื่มสูงกว่าค่าอาหารเสียด้วยซ้ำ

ยังไม่นับว่าเมื่อเราอยากกินน้ำหวานหรือของฟุ่มเฟือย เราสามารถดื่มน้ำ จากกระติกนี้แก้ขัดได้ แน่นอนว่าเราไม่ได้ห้ามเรื่องการกินกาแฟ ชานมไข่มุก หรือเครื่องดื่มอื่นๆ

แต่การมีกระติกน้ำจะลดโอกาส ที่เราได้กินเครื่องดื่มเหล่านี้ และเพิ่มเงินในกระเป๋าตัวเองให้มากขึ้น ทำให้เอาเงินไปใช้อย่างอื่นได้

ลองดูตัวอย่างง่ายๆ นะครับ ว่าเราจะประหยัดได้เท่าไหร่ หากมีกระติกน้ำ

สมมติเราดื่มน้ำดื่ม ขวดละ 7 บาท ทุกๆ วัน ที่ไปทำงาน เราทำงานเดือนละ 20 วัน

คิดเป็นเงิน 7 x 20 = 140 บาทต่อเดือน หรือ 7 x 20 x 12 = 1680 บาทต่อปี นี่แค่น้ำดื่มธรรมดาราคา 7 บาท

หากเป็นเครื่องดื่มที่มีราคาสูง กว่านี้ เราก็สามารถประหยัดได้มากกว่านี้อีกมากเลยทีเดียว

ใช้เท่าไหร่ เก็บเท่านั้น

วิธีเก็บเงินง่ายๆ วิธีสุดท้าย…ใช้เท่าไหร่ เก็บเท่านั้น ทำอย่างไร ? สมมติว่าเรามีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือ จากการกินอยู่ และการตั้งเป้าหมายไว้ เช่น อยู่ๆ วันนี้เราอยากซื้อหนังสือใหม่ซักเล่ม

เลยซื้อหนังสือราคา 120 บาทไปหยอดกระปุก เพิ่มไปเลย 120 บาทเราเห็นของลดราคา เสื้อยืดตัวละ 199 ขายเหมาสามตัว 500 บาท เลยหยิบมา หยอดกระปุกไปอีกครั้ง 500 บาท

วิธีเขี้ยวๆ อย่างนี้เป็นไปได้เหรอ? มัน โ ห ด เกินไปไหม? ขอตอบชัดๆว่าไม่ โ ห ด เลย นี่เป็นหนึ่งในวิธีบังคับตัวเอง ลดรายจ่าย เพิ่มเงินออมที่เห็นผลชัดเจน อีกเหตุผลหนึ่งมันทำให้เราหลีกเลี่ยงการใช้เงินอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือการใช้จ่ายตามเป้าหมาย

รวมไปถึงเพิ่มเงินออมโดยรวมได้เร็วขึ้น หากเราซื้ออะไรตามความอยาก ของตัวเองบ่อยๆ แน่นอนว่ายิ่งเพิ่มวินัยทางการเงินอย่างดีเข้าไปอีก ซื้อเท่าไร ทบเงินเก็บไปเท่านั้น

ไม่ใช้แบงค์ 50

มาถึงวิธีแรก วิธีสุดฮิตที่หลายๆ คน เลือกจะทำกัน ไม่เว้นแม้แต่ในเว็บไซต์ดัง Pantip.com ก็มีคน แ ช ร์ วิธีนี้มาแล้วนั่นคือ การเก็บแบงค์ฟ้า หรือ แบงค์ 50 ที่เราไม่ค่อยพบเจอ

ในเมื่อหาเจอยาก ก็จัดการเก็บเข้ากระปุกแบบไม่ดึงมาใช้เลยดีกว่า เป็นอีกหนึ่งหนทางการออม ที่มีการการันตีแล้วว่าได้ผลมานักต่อนัก บางรายเก็บไปปีๆ หนึ่งได้เป็นหลักหมื่นเลยด้วยซ้ำ

ทำไมวิธีการนี้ถึงเวิร์ก? ลองดูตามหลักเหตุและผลครับ

โดยปกติแล้วการจับจ่าย ปกติจะมีการใช้แบงค์ 100 กับแบงค์ 20 เป็นหลัก ร่วมกับเหรียญ นานๆ ที่แบงค์ 50 จะมีบทบาท ดังนั้น การเก็บแบงค์ 50 มันทำให้เรารู้สึกว่าการออมมันไม่ได้ลำบากอะไรมากขนาดนั้น

สามารถทำได้เรื่อยๆ แค่แบงค์ 50 เอง หยอดๆ กระปุกไปเถอะ แต่ลองดูตัวเลขดีๆ นะครับ สมมติเราซื้อของทุกวันแล้วได้แบงค์มาวันละ 1 ใบ

1 เดือน เราจะได้ 50 x 30 = 1,500 บาท

1 ปี เราจะได้ 50 x 365 = 18,250 บาท นี่ขนาด แค่ตัวเลขสมมติ มันอาจจะได้มาก หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ เพราะคงไม่มีใครซื้อ ของทุกวันแล้วได้แบงค์ 50 ตลอดยกเว้นพ่อค้าแม่ค้า

แต่คงเห็นแล้วว่าพลังของแบงค์ 50 นั้นจริงๆ มันมากมาย ขนาดไหน อยากรวยง่ายๆ เริ่มต้นได้ตอนนี้เลย หากได้แบงค์ 50 มาแล้วเก็บใส่กระเป๋าโลด

เป็นอย่างไรบ้างกับ 5 วิธีเก็บเงินง่ายๆ แต่ได้ผลจริง ถึงคุณจะเก็บเงินไม่เก่ง แต่เชื่อเถอะว่ามันง่าย และทำได้จริง เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า

ขอขอบคุณ t i d l o r

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…