
1.การคิดอย่างเป็น ระบบ (Systematic Thinking)
เถ้าแก่ใหม่ต้อง คิดอย่างเป็นระบบ? แล้วคิดอย่างไรหลักการง่ายๆ ของการคิดแบบนี้คือ เหตุและผล
มีสิ่งนี้ เพราะมีสิ่งนั้น จะทำอย่างไรบ้างให้ได้ยอดข าย คิดออกมาอ๋อ ต้องทำโน่น นี่นั่น บลาๆ
คิดให้ได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เครื่องมือที่นิยมใช้กัน เช่น Fish Bone Diagram (แผนผังก้างปลา)
แผนผังของ การค้นหาสาเหตุและผล Mind Map (แผนผังความคิด)
2.การนำเสนอ (Presentation)
ต้องนำเสนอ ความคิด นำเสนอไอเดีย นำเสนอสินค้าได้ สรุปสั้นๆ คือ “ขายเป็น”
รูปแบบการขายไม่ว่าจะเป็นการนั่งพูดคุย โทรศัพท์ หรือ แม้กระทั่งออกไปยืน หน้าเวที มือถือไมล์
ไฟส่องหน้า กล้องทุกตัวต่างจดจ้องมาที่เราต้องกล้าครับกล้าเสนอหน้า !! ต้องบอกว่า “ด้านได้ อายอด”
ถ้ามัวแต่อาย ไ อ้ ด่ าง มันก็ค าบ ไป D a g นะครับ ทักษะนี้สำคัญมาก ถึงสำคัญที่สุด
ลองดูสินค้าแบ รนด์ดังๆ สิครับ เดี๋ยวนี้เจ้าของกิจการต้องออกโรงมานำเสนอเอง
ตัวอย่าง ไ อ โ ฟ น ก็มี ส ติ ฟ จ๊อบ เป็นต้นแบบ ไล่มาที่ เฟ ส บุ๊ ค ก็มี ม าร์ ค เป็นตัวนำ
ทุกคนต่าง “ขาย” สิ่งที่เขามี “นำเสนอ” สิ่งที่เขาสร้าง ได้อย่างน่าซื้ อ พัฒนาจุดนี้ครับ….
แล้วธุรกิจเราจะเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างให้ธุรกิจ ต้องสะดุดเพราะ “เถ้าแก่ใหม่เป็นใบ้ ไม่กล้าพูด”
3.การเจรจาต่อร่อง (Negotiation)
นำเสนอแล้ว ย่อมมีคนอย ากซื้ อ มีคนสนใจ มีคนขอทำธุรกิจด้วย ไม่ว่าในรูปแบบใด เป็นลูกค้า
เป็นพันธมิตร เป็นตัวแทน หรือ เป็นหุ้นส่วน หรือแม้กระทั่ง เราไปเป็น “ลูกหนี้” ในรูปแบบต่างๆ
เช่น การซื้ อ ของจาก S u p p l i e r ,กู้เงินธนาคาร เป็นต้นเหล่านนี้ต้องใช้ทักษะ
ในการ “เจรจาต่อรอง” เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ที่ H a p p y-H a p p y
คือมีความสุขทั้ง 2 ฝ่าย หากบกพร่องส่วนนี้เราอาจจะเป็น “ฝ่ายเสียผลประโยชน์”
เกินความจำเป็น ต้นทุนต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้น กำไรก็จะลดน้อยถอยลง เป็นต้นพัฒนาอย่างไร ?
ลองเริ่มจาก ฝึกต่อราคาสินค้าในตลาดนัดดูสิครับ (ถ้าแม่ค้าด่าอย่ามาว่าผมแนะนำนำ 555 )
4.การบริหารงาน (Management)
แบ่งงานได้ ใช้คนเป็นต้องรู้ จังหวะ เวลา ว่าตอนนี้ควรทำอะไร แผนการที่วางไว้ ดำเนินมาถึง
ขั้นตอนไหนแล้ว งานนี้ใครเหมาะ งานนี้ใครไม่ควรทำเริ่มธุรกิจ จริงๆ ก็มีกันไม่กี่คนหรอกครับ
ตัวเรากับ แฟน หรือ ไม่ก็เพื่อน 2-3 คน เอาเข้าจริง ทำแมร่งเกือบทุกอย่าง 555 แม้เริ่มๆ
เราจำเป็นที่จะต้องทำเป็นทุกอย่าง แต่เราก็ต้องเป็นนักวางแผน นักจัดการ
ไม่ใช่ทุกสิ่งอย่างมา “สุม” ไว้ที่เราคนเดียว อย่างนี้ไม่ใช่แล้วนะครับงานไหน
ให้ทีมงาน Outsource ดูแลได้ก็ปล่อยไป เพียงแต่มีระบบในการ จ่ายงาน ตรวจสอบงาน
และประเมินผลงานที่ชัดเจนวันหนึ่งเราต้องโตขึ้น คำว่าโต คือ ขนาดของ “สมาชิก” ในธุรกิจ
เป็นพนักงานที่มากขึ้น เราต้องมีกระบวนการ คัดสรร ที่มาตรฐานไม่ใช่เพียงเพราะว่าเป็น
เพื่อน เป็นญาติ ใช้เส้นสายแต่สุดท้าย ไม่ได้งานต้องวางระบบ บริหารจัดการในทุกด้านให้ดีครับ
บุคลากร การเงิน บัญชี การตลาด ขาย และปฏิบัติการ ค่อยๆ พัฒนาไปด้วยกันครับ
5.การสร้างแรงบันดาลใจ (Motivation)
โอ้ย !!! กำลังใจตัวเองก็จะไม่มีอยู่แล้ว จะไปให้กำลังใจคนอื่นได้อย่างไรกัน… เออนั่นแหละ!!!
ต้องฝึกไง ต้องพัฒนาไง ต้องสร้างไง ไม่ว่าจะเหนื่อย จะท้อ หรือหนักสักเพียงไหนครับ
เราต้องเป็น “แกนหลัก” ของ “ความมั่นคงในธุรกิจ” ถ้าเราห่อเหี่ยว ทุกคนในทีมก็
ห่อเหี่ ย ว ธุรกิจก็หดหู่ สุดท้ายก็ ล่ ม จ ม เคยดูตลกไหม ? บ่อยครั้งทีเดียวที่
นักแสดงตลกหน้าเวที เจอเรื่องตลกร้ าย ด้านล่างก่อนขึ้นเวที พ่อต าย แฟนทิ้ง
หนี้สินเต็มตัว เศร้าไม่รู้จะเศร้าอย่างไร น้ำตานี่หมดบ่อแล้วแต่เมื่อถึงเวลาขึ้นเวที
ก็สร้างเสียงเฮฮา ได้เหมือนเดิม…นี่แหละครับ “มืออาชีพ” ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ต้อง
ยืนหยัด และต้องส่งต่อพลั ง ความมุ่งมั่น ความตั้งใจ แรงใจไปให้กับทีมงาน คนรอบข้าง
ให้เขามีความหวัง ให้เขามีกำลังใจ ให้เขาพร้อมที่จะสู้ไปกับเรา เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว
เราจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ “ความหวัง”
6.การบริหารชีวิต (Life Balance)
ทักษะนี้ “สำคัญที่สุด” ต้องรู้จักการ “ใช้ชีวิต” ไม่ใช่อยู่ไปเพื่อ งานๆๆๆ เงินๆๆๆ ไม่ใช่นะครับ
ต้องแยกแยะให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นหาเงินได้ แต่ไม่มีความสุขไม่อย่างนั้น หางานได้
มีแต่ความทุกข์เวลาส่วนตัว ครอบครัว งาน สังคม ต้องบริหารให้เป็น ไม่ทิ้งครอบครัว
ไม่ทิ้งงาน ไม่ปล่อยปละละเลยตัวเอง หักโ ห ม อย่างใดอย่างหนึ่ง
สมดุลชีวิต ครับ !!!
อย่าให้ต้องหาเงินมากมายเพื่อนำไปใช้รักษ าตัวเองให้ห้อง I C U
อย่าทุ่มแต่กับงาน จนเสียครอบครัว เสียเพื่อนฝูง
ธุรกิจ มันไม่ใช่ทั้งชีวิตของเรานะครับ ไม่ใช่เลย
ธุรกิจ เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ดังนั้น “อย่าเยอะ” เอาแค่พอเหมาะ
หาเวลาให้ตัวเองบ้าง แบ่งเวลาให้ครอบครัวด้วย ทำกิจกรร มเพื่อสังคมบ้าง
เพื่อนฝูงไปไหนก็ไปด้วยกันบ้าง
อย่างนี้แล้ว !!! ชีวิตจะมีความสุขครับ
ขอขอบคุณ t a o k a e m a i