Home ข้อคิด 7 รูปแบบความรัก ที่ทำให้คุณไร้ค่า ไม่มีตัวตนในสายตาเขาเลย

7 รูปแบบความรัก ที่ทำให้คุณไร้ค่า ไม่มีตัวตนในสายตาเขาเลย

3 second read
0
0
142

คนทุกคน เวลามีความรักมักจะพย า ย ามทำให้ความรักแฮปปี้มีความสุขที่สุดซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรเลย

ใครๆ ก็อย า กมีรักดีๆ ที่ไม่ทำให้ทุกข์ด้วยกันทั้งนั้นแต่ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ได้ทั้งหมดความรัก

ก็เช่นกัน เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความรักไม่เป็นอย่ างที่คิด คนส่วนใหญ่จะพย า ย า มต่อไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้อง

พย า ย า มไปจนถึงเมื่อไหร่สุดท้าย แม้จะรักไปเจ็ บ ไป คนเหล่านั้นก็ยังอดทนเพื่อประคับประคองความรักให้

ยังอยู่คนเราไม่ควรต้องจ ม อยู่กับความทุกข์ ความเสียใจแบบถอนตัวไม่ขึ้นอย่ ารั้งตัวเองไว้ในวังวนความรักแบบผิดๆ

โดยเข้าใจไปเองว่านี่คือความรักที่เราต้องพย า ย า มทำมันให้ดี จำให้ขึ้นใจเลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอรักไม่เป็นไป

อย่ า งที่คิดโดยเฉพาะความรักทั้ง 7 แบบนี้ รีบหนีไปให้ไกล เพราะไม่ว่าใครก็ไม่ควรต้องเจอ !

1. รักไปก็มีแต่ทำให้ชีวิตแย่ลง

รักที่มีแต่ทำให้ชีวิตแย่ลง เป็นอีกหนึ่งรูปแบบความรักที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรต้องเจอคนเราจะมีความรักทั้งทีหาดีๆ ไม่ได้

ก็อย่ า มีมันเลย ถ้ามีความรักมีคนเข้ามาในชีวิตแต่คนๆ นั้นคอยฉุด คอยดึง คอยรั้งให้ชีวิตเรามีแต่แย่ลงหรือ

อย่ า งน้อยก็เหมือนเดิมแบบไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ควรต้องคิดแล้วว่าเราจะรักไปทั้งแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมคนเราเมื่อมีใคร

สักคนเดินเข้ามาในชีวิต อย่ างน้อยก็ควรทำให้ชีวิตดีขึ้นไม่ว่าด้านใดก็ด้านหนึ่ง เรื่องเงิน เรื่องฐานะ อาจไม่ใช่

คำตอบเสมอไปก็จริงแต่ต้องมีสักอย่ างที่คนๆ นั้นทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เช่น หน้าที่การงาน ชีวิตความเป็นอยู่งาน

อดิเรก ครอบครัว ไลฟ์สไตล์ หรืออะไรก็ตามบอกตามตรงว่าเดี๋ยวนี้ความรักอย่ า งเดียวมันไม่เคยพออีกแล้วและ

เรื่องจริงก็คือสมัยนี้ไม่มีใครยอมไปกั ด ก้อนเกลือกินอีกต่อไป ถึงแม้คนที่เข้ามาในชีวิตไม่จำเป็นต้องรวยมีบ้านหลังโต

แต่ก็ต้องมีความพร้อมในชีวิตระดับหนึ่งที่จะส่งเสริมกันในเรื่องอะไรสักอย่ า ง เรียกว่าเป็นคนที่มีมาตรวัดเดียวกัน

มีศีลเสมอกันนั่นแหละที่สำคัญอย่ า ลืมว่าคนที่มีอะไรคล้ายๆ กันก็จะดึงดูดเข้าหากัน ถ้าเราไม่เริ่มเป็นคนดีทำตัวดี

มีชีวิตดีๆ เสี ย ก่อน คนที่จะเข้ามาหาเราก็ย่อมเป็นคนที่ใกล้เคียงกับเรานั่นแหละ เพราะฉะนั้นทำตัวเองให้ดีเพื่อเปิด

โอกาสให้คนดี ๆ เข้ามาในชีวิต

2. รักที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง

เรื่องน่าเศร้าที่สุด ของคนมีความรักก็คือพอรักใครแล้ว เรามักจะชอบเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนเพื่อให้เค้ารักเปลี่ยน

เพื่อให้เค้าไม่ไปจากเรา บางคนเปลี่ยนซะจนลืมไปเลยว่าจริง ๆ เราเป็นคนยังไงกันแน่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบหรือ

ไม่ชอบอะไรบนโลกนี้มีหลายคนยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อความรัก ยอมแม้กระทั่งไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย เพื่อให้

ความรักได้เดินหน้าต่อ แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าความรักแบบนี้มีแต่จะทำให้เราอ่อนแอขึ้น อยู่ด้วยตัวเองได้ย า กขึ้น

เพราะไม่มีพื้นที่ตรงไหนเลยที่เป็นของเราทุกอย่ า งขึ้นอยู่กับอีกคน ถูกกำหนดโดยอีกคน สุดท้ายเราก็จะสู ญเสี ย

ความเป็นตัวเองไม่มีเค้า เราก็อยู่ไม่ได้ความรักไม่ใช่การเปลี่ยนแต่คือการปรับและยอมรับซึ่งกันและกัน เมื่อไหร่ก็

ตามที่คนใดคนหนึ่งเริ่มเปลี่ยนตัวเอง เมื่อนั้นมันไม่ใช่ความรักแต่เป็นความพย า ย า มที่อาจจะหมดลงวันใดวันหนึ่งก็ได้

3. รักไป ช้ำไป

ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แค่ 2 คนเท่านั้นเลยจริงๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองแต่เป็น 3, 4

หรือมากกว่า เมื่อนั้นมันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความโลภของคนๆ หนึ่งที่ไม่ควรแม้แต่จะถูกรักพอรักดำเนินมาแบบนี้

ไม่แปลกที่รักจะกลายเป็นความอดทนแต่คนเราจำเป็นต้องทนกับความรักแบบนี้จริงๆ หรือเปล่าบางคนบอกว่าไม่เจอ

กับตัวเองไม่มีวันรู้ว่าการจะเดินออกไปจากชีวิตใครสักคนมันต้องใช้มากกว่าความกล้า เหตุผลหลายอย่ า งทำให้

คนเราต้องทนแม้จะรักไป ช้ำไปก็ตามแต่ลองถามตัวเอง ถามคนรอบข้างดูให้ดีสิว่าเราจะทนกับการไม่มีความสุข

แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเพราะความอดทนมีที่สิ้นสุดเสมอ อะไรที่พ่วงท้ายมาด้วยความอดทนมันจะหมดลงและ

แต ก หั ก แบบไม่เหลือชิ้นดีในที่สุดถึงแม้การเดินออกไปจากชีวิตใครสักคนต้องใช้เวลา แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเป็น

เสียเวลาที่ไม่มีความสุขนั้นไป

4. รักที่ต้องเจ็ บ (ตัว)

ไม่มีใครควรต้องเจ็ บ เพราะความรัก ไม่ว่าจะเจ็ บ ใจหรือเจ็ บ ตัวก็ตาม เพราะคนรักกันจะต้องไม่ทำร้ า ยกัน

ทั้งร่างกายและจิตใจที่แปลกก็คือมีคนจำนวนมากยอมเจ็ บ ตัว โดยให้เหตุผลว่านอกจากเรื่องทำร้ า ย ร่างกาย

แล้ว เรื่องอื่นก็ดีหมดซึ่งคนส่วนใหญ่ยอมเจ็ บ ตัวเพื่อให้ความรักและครอบครัวได้เดินหน้าต่อ แม้จะเป็นวิธีการที่

ค่อนข้างแปลกแต่หญิงไทยจำนวนมาก ก็เป็นแบบนั้นก่อนหน้านี้มีการศึกษาอย่ า งจริงจังของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล

ระบุว่าผู้ชายไทยมีแนวโน้มที่ใช้ความรุ นแร ง ทำร้ า ยร่างกายถึง 44.8% และในจำนวนนี้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์

และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ดังนั้นถ้าเค้าเคยทำร้ า ย ร่างกายยังไง ก็จะทำอยู่อย่ า งนั้นไม่เปลี่ยนแปลงแสดงให้

เห็นว่าไม่ว่ารักมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางเปลี่ยนพฤติก ร ร มของอีกคนได้เช่นกันข้อแนะนำของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล

บอกว่า ก่อนจะรักควรศึกษาทัศนคติของผู้ชายในเรื่องการใช้ความรุ นแร ง และสังเกตพฤติก ร ร มทางอารมณ์ก่อน

แต่งงาน หากมีอารมณ์ก้าวร้ า ว ควบคุมตัวเองไม่ได้ ฝ่ายหญิงควรต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ แต่ถ้าแต่งงานไป

แล้วและประสบปัญหาก็ไม่ควรรู้สึกอับอายที่จะต้องหย่ า ร้างหรือมีคู่ใหม่ และไม่ควรต้องอดทน เพราะหลายกรณี

ความอดทนเป็นแรงผลักให้ผู้หญิงต้องป้องกันตัวเอง จนนำไปสู่การฆ่ า สามี หรือถูกสามีฆ่ า มาแล้วสรุปได้ว่า

เมื่อรักแล้วต้องเจ็ บ ทั้งตัวและใจก็ควรต้องตัดใจ และเดินออกมาจากชีวิตของอีกคนซะ เพราะรักไม่ใช่การทน

แต่รักคือการทั้งทุกข์และสุขร่วมกัน

5. รัก..ที่เกินรัก

ความรักเป็นเรื่องดีๆ ที่สวยงาม แต่รักที่เกินรักจะยังคงเป็นความสวยงามอยู่ไหม? ในทางพระพุทธศาสนาเรามัก

ได้ยินได้ว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ ยิ่งมีรักมากก็ยิ่งทุกข์มาก แต่ไม่ใช่เพราะรักจึงทุกข์ คนเราทุกข์เพราะไปยึดติดกับ

ความรักต่างหากโดยทั่วไปคนทุกคนมีแนวโน้มที่จะคาดหวังกับอะไรบางอย่ า งอยู่แล้ว ดังนั้นพอมีความรักก็

ไม่แปลกที่จะคาดหวังยึดติด กับความรักและคนรักพอคาดหวัง พอยึดติดแล้วไม่ได้ดังที่หวังก็เลยทำให้ทุกข์

ซึ่งเป็นเรื่องปกติวิสัยที่สุดบนโลกใบนี้เพราะฉะนั้นยิ่งรักมากก็ยิ่งยึดติดมากคาดหวังมาก อย า กให้ทุกอย่ าง

เป็นไปตามที่ต้องการกลายเป็นรักเกินรักที่มักจะทำล า ย ทั้งคนที่รักและคนที่ถูกรัก ทำให้คนหนึ่งก็อึดอัดส่วน

อีกคนก็ทุกข์เพราะรักที่ยึดติดไม่ยอมปล่อยสุดท้ายก็กลายเป็นรักมัวๆ ที่ถึงจะรักกัน แต่ก็ไม่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่

6. รักแท้ดูแลไม่ได้

ความรัก ที่ไม่เคยแสดงออกไม่เคยใส่ใจยังเรียกว่า ‘รัก’ อยู่ไหม?เมื่อคนสองคนรักกัน มันไม่ใช่แค่เรื่อง

ของอารมณ์หรือความรู้สึกอย่ า งเดียว แต่รวมถึงการกระทำ คำพูดและอีกหลายอย่ า งที่บ่งบอกให้รู้ว่า

ยังรักกันอยู่ถ้ารักใครสักคนก็จงทำให้เค้ารับรู้ ว่ารักเค้าทั้งการกระทำและคำพูด ไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้ารัก

แต่ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยมีเวลาให้เพราะถ้ามีความรักแล้วยังต้องอยู่คนเดียวทั้งตอนที่อ่อนแอ ตอนทุกข์และสุข

เราจะมีคนรักไปทำไมจริงไหม

7. รักที่เอาแต่ครอบครอง

ปกติพอมีความรัก คนเรามักจะอย ากยึดอย ากรั้งคนที่เรารักไว้กับตัวเสมอทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีกคน

อย า กให้เค้าเป็นในสิ่งที่เราอย า กให้เป็น อย า กให้เค้าทำในสิ่งที่เราอย า กให้ทำ แต่เชื่อไหม

ความรักแบบนี้ไม่เคยเป็นรักที่ยืนย า วการที่คนหนึ่งทำตัวเป็นเจ้าของอีกคนคือการยึดติด เหนี่ ย ว รั้ ง

ให้เค้าไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง ต้องทำอย่ า งที่อีกคนต้องการซึ่งไม่มีใครทนกับความรักแบบนี้ไปตลอด

ยังไงก็ต้องมีสักวันที่อึดอัด หายใจไม่ออกกดดั น และสุดท้ายการเลิกราอาจจะเป็นคำตอบที่ง่ายที่สุดก็ได้

เพราะฉะนั้น ‘รักจึงไม่ใช่การครอบครอง’ แต่ความรักคือการแบ่ ง ปั นเรื่องราวทั้งในย า มทุกข์และสุขคือ

การปล่อยให้อีกคนได้มีพื้นที่หายใจและเป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ใช่การไม่เอาใจใส่หรือละเลยกันและกันคำว่า

‘ครอบครอง’ กับคำว่า ‘เอาใจใส่’ ทั้งการกระทำและความหมายไม่มีอะไรเหมือนกันสักนิดถ้าวันหนึ่งมี

โอกาสได้เจอรักที่มีแต่ความรู้สึกดีๆ เอาใจใส่ จริงใจ เชื่อใจ ไว้ใจซึ่งกันและกันจะรู้เลยรักที่มีแต่การครอบครอง

เป็นรักที่ไม่มีใครต้องการความรักคือการแบ่งปันทั้งความทุกข์และความสุข เพราะฉะนั้นอย่ า รักใครจนลืม

ความสุขของตัวเอง แล้วก็อย่ า รักใครจนมองไม่เห็นความทุกข์ของตัวเอง

ขอบคุณที่มา L I N E TODAY

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนจะเป็นเถ้าแก่ ต้องมี 3 ข้อนี้

การประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐี ตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นความฝันและเป้าหมาย ที่คนรุ่นใหม่ หลายๆ …