Home ข้อคิด 7 สัญญาณของ “รักทางไกล ” แบบนี้คุณกำลังนับถอยหลังรอวันเลิก

7 สัญญาณของ “รักทางไกล ” แบบนี้คุณกำลังนับถอยหลังรอวันเลิก

10 second read
0
0
118

เชื่อว่าถ้าเลือกได้ก็คง ไม่มีคู่ไหนอย ากมีความสัมพันธ์แบบ Long Distance Relationship

หรือรักทางไกลแน่ๆ จะทำอะไรก็เหงา ไม่มีคนอยู่เคียงข้าง อย ากมีโมเมนต์ไปเที่ยว กินข้าวด้วยกัน

พูดคุยแบบเห็นสีหน้าแววตาโดย ไม่ต้องมีหน้าจอมาคั่นกลาง มันคือความสุขในแบบที่อินเทอร์เน็ ต

ให้ไม่ได้ในช่วงสถานการณ์โควิด โชคชะตา ก็ดลบันดาลให้ต้องแยกจากกันทั้งแบบที่เต็มใจและไม่เต็มใจ

บางคู่อยู่คนละ จังหวัดแต่บางคู่ก็ต้องห่างกันคนละประเทศ ทวีป ที่ต่างไทม์โซนกันอีก

บางคนอาจจะมองว่า มันคือ ‘บททดสอบความรัก’ ถ้าก้าวผ่านอุปสรรคด่านนี้ไปได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก

แต่ต้องอย่ าลืมว่า มนุษย์แต่ละคนมีความโหยหาและความ ต้องการในรักที่ต่างกันบางทีเวลาผ่านไปเป้า

หมายทั้งสองฝ่ายแยกห่างกันออกไปเรื่อยๆ ความผูกพัน ก็น้อยลงตามเวลาสุดท้ายก็เริ่มส่อแววว่าจะไปไม่

รอดถ้าเป็นหนึ่งในคู่รักทางไกลที่เริ่มสับสน ไม่แน่ใจว่าเธอกับแฟนจะไปตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่ ลองมา

เช็กได้ใน ‘7 สัญญาณต้องจบรักทางไกลกับแฟน’ ความหวานเป็นความเฉยชาไปแล้ว ยิ่งยื้อไปก็

เหมือนรอวันเลิกเปล่าๆ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะหยุดหรือไปต่อนะคะ

1. ใช้ชีวิตได้ปกติได้เป็นวัน (หรือหลายวัน) โดยไม่จำเป็นต้องคุยกับอีกฝ่าย

จากที่โหยหากัน เหมือนจะขาดไม่ได้สักวินาทีจะทำอะไรอยู่ต้องเปิดเสียงหรือวิดีโอคอลทิ้งไว้ตลอด

ตอนนี้กลับเบื่อๆ ไม่ได้อย ากจะทักเขาเป็นคนแรกหลังตื่นนอน อีกแล้วใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติไม่ได้

รู้สึกว่าขาดอะไรไป (เอาจริงๆ สบายตัวดีด้วยซ้ำ เหมือนได้กลับไปเป็นคนโสด) บางวันตื่นตั้งแต่เช้าละ

แต่เพิ่งทักไปช่วงเย็น ฝั่งนั้นก็เหมือนกัน ถ้าไม่ทักก็ไม่ตอบ วันไหนพีคๆ หน่อย ลืมตอบไป 2-3 วัน

ก็มี แล้วก็ไม่ได้โหวงๆ หรือรู้สึกผิดอะไรด้วยนะ ปกติมาก ปกติจนผิดปกติเลยแหละ!

การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งคู่ไม่รับรู้ถึง ตัวตนของอีกฝ่ายในชีวิต เป็นลางไม่ดีที่ชัดเจนมากๆ ว่าความรัก

เริ่มจืดจาง เพราะคนที่มีความห่วงใย คิดถึงแคร์กันจริงๆ จะไม่มีทางรอจนข้ามวัน ไม่มีใครที่ยุ่งเกินไป

จนไม่มีเวลา 10 วิตอบแชทหรือ ส่งสติ๊กเกอร์มาสักตัวหรอกมันปลีกตัวได้อยู่แล้ว เวลาเข้าห้องน้ำหรือ

ก่อนนอนก็มี ที่แชทมันว่างเปล่าเพราะในหัวเขาหรือเธอไม่ได้คิดถึงอีกฝ่ายเลยต่างหาก

2. ทั ก แชทไปแบบเบื่อๆ มีแต่เรื่องเดิมๆ ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเลย

ใครเคย เป็นบ้ างไม่ได้อย ากคุยขนาดนั้นหรอก แต่ต้องทักแชทไปบ้ างเพราะคิดว่ามันเป็น ‘หน้าที่’

ที่ต้องทำเฉยๆ ตอนเช้าก็ส่งสติ๊กเกอร์ที่ไม่มีความหมายใดๆ ไปหนึ่งตัวแล้วก็ดองย าว ทำนู่นทำนี่ที่น่า

สนใจมากกว่า เรื่องที่คุยกันแต่ละวันก็มีแต่เรื่องเดิมๆ มอร์นิ่ง ฝันดี จากที่เมื่อก่อนเจออะไรนอกบ้ าน

ก็ต้องเม้าท์ คอลคุยกันเป็นชั่ วโมงๆ ส่งรูปอาห ารมาให้ดูบ้ างอะไรบ้ าง ตอนนี้เหรอ อืม ขี้เกียจอะ

บางทีคิดว่าจะส่งให้แล้วก็ลืม หัวข้อที่คุยก็เลยวนแต่เรื่องซ้ำซากอยู่อย่ างนี้ รู้ตัวอีกทีแชทของแฟนก็

เป็นแชทที่ ‘ น่าเบื่อ ‘ ไปซะแล้วบอกเลยว่าคู่ไหนเป็นแบบนี้อยู่ คือสัญญาณวี้หว่อๆ สุดอั นตร าย

ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับแฟนน้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ เพราะการทำแบบนี้ อีกนัยหนึ่งมันก็หมายความ

ว่า ‘คุณไม่ได้สำคัญมากพอที่จะต้องมารับรู้เรื่องของฉัน’ และ ‘ฉันก็ไม่ได้สนใจว่าคุณจะเป็นยังไงเหมือนกัน’

รายละเอียดตัวตนของอีกฝ่ายเมื่อไม่มีความทรงจำใหม่ๆ เพิ่มเลย ทั้งนิสัย บุคลิก ความชอบ รสนิยม

mindset ของแฟนก็จะค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่รู้แล้วว่าเราเข้ากันได้จริงไหม แล้วจะ

พย าย ามคบคนคนนี้ไปทำไม

3. ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มมีพฤติก ร ร ม ‘หลีกเลี่ ย ง’ ไม่คุย ไม่บอกรัก

ตอนคบกันใหม่ๆ ไม่ต้องตั้งก ฎ อะไรต่างฝ่ายก็รู้สึกอย ากส่งความรักที่มีให้อีกฝ่ายจนหมดหัวใจ อารมณ์

‘คลั่งรัก’ แหละว่าง่ายๆ ทั้งคำพูดบอกรักของขวัญดีๆ การกระทำที่รับรู้ได้ว่าใส่ใจความรู้สึกของแฟนคอย

คอลหา ส่งข้อความให้กำลังใจเวลามีปัญหาก็โทรไปให้เขาโอ๋ได้ ทันทีโดยไม่ต้องคิดว่าเขาจะยุ่งอยู่หรือเปล่า

มองไปทางไหนโลกก็เป็นสีชมพูพาสเทล ช่วงนั้นมันดีมากจริงๆ แต่ตอนนี้น่ะเหรอ จืดสนิท!เธอเองพย าย าม

ส่งคลื่นไปนะ แต่อีกฝ่ายหันเสาหนีจ้า พย าย ามหลบเลี่ยงไม่พูดบอกรัก ไม่แสดงความรักให้เห็นชัดเจน

เหมือนแต่ก่อน อย่ าบอกว่าคิดไปเองเลย คนเคยคุย เคยมุ้งมิ้งกันอยู่ทุกวัน ถ้าแฟนเปลี่ยนไปทำไมจะมอง

ไม่ออก และนี่คือสัญญาณที่กล้าพูดเลยว่ากลิ่นไม่ดีแล้ว! อยู่ใกล้ยังนัดมาเคลียร์ หรือบุกไปหาถึงที่ได้แต่

รักทางไกล ถ้าเขาไม่พร้อมเปิดใจ ไม่ยอมเปิดวิดีโอคอลหรือรับโทรศัพท์ก็จบ นับถอยหลังรอได้เลยว่าอาจ

จะไม่ได้ไปต่อค่ะ

4. อีกฝ่ายให้ความสำคัญกับ ‘กิจก ร ร มทั่วๆ ไป’ มากกว่าเธอเสมอ

คนเราถ้ามีแฟนก็ต้องให้ความสำคัญ กับแฟนอันดับต้นๆ เป็นเรื่องปกติถูกมั้ย? ซึ่งเมื่อก่อนก็อาจจะเป็น

อย่ างนั้น จะทำอะไร จะนัดกับใครยังโทรหรือไลน์มาขออนุญาตด้วยซ้ำ ถ้าเห็นว่าเธอไม่พอใจเศร้าหรือ

น้อยใจก็พร้อมจะหยุดเดี๋ยวนั้น และพย าย ามทำทุกอย่ างให้เธอสบายใจ แต่เดี๋ยวนี้คุยๆ อยู่ก็ตัดสาย

ไปคุยกับคนอื่น หรือนัดคอลทุกอาทิตย์ ก็ขอเลื่อนบ่อยๆ เพราะจะไปทำธุระ (อะไรก็ไม่บอกด้วยนะ)

โอกาสสำคัญก็หนีหาย ไ ล น์ ไม่ตอบ แ ย่ สุดคือขอคอลในวันเกิด แต่เขาบอกขอดูหนังก่อน??? ว้อท??

นานวันเข้าก็เริ่มรู้สึกละว่า เอ๊ะ นี่ฉันมีความสำคัญบ้ างรึเปล่าเนี่ย? การรู้สึกถูกลด rank ระดับความสำคัญ

เป็นสิ่งที่อั นตร ายสำหรับคนมีคู่ที่สุดแล้ว เพราะถ้าแฟน หรือคู่ชีวิตที่เราจะอยู่กับเขาไปอีกหลายสิบปีใน

อนาคต มองเห็นเราสำคัญเป็นอันดับท้ายๆ แล้วเราจะมีเขาไว้ในชีวิตไปเพื่ออะไรกันล่ะ? อย่ าว่าแต่รู้สึก

ว่าถูกทิ้งจริงๆ จังๆ เลย แค่มีเซ น ส์ ‘เอ๊ะ’ ว่าเราไม่ใช่คนสำคัญอีกต่อไป ก็เพียงพอที่จะปล่อยมือ

จากใครสักคนแล้ว เพราะคนรักกัน ไม่ทำกันแบบนี้

5. ยิ่งคบยิ่งทะเล าะ ชีวิตแต่ละฝ่ายย่ำอยู่กับที่ไม่ก้าวหน้าไปไหน

ตอนที่เธอทั้งคู่ ตัดสินใจแล้วว่า ” ถึงคบทางไกลก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้าใจเราไม่หวั่นไหวมันก็ต้องไปรอดสิ!

” ทุกอย่ างดูสวยงามหอมหวานไปหมด มองภาพตัวเองกับแฟนเป็นนักรบที่จะฝ่าฟั น อุปสรรคทุกอย่ าง

ได้หมด และปลายทางคืองานแต่งงานแสนวิเศษเหมือนในฉากสุดท้ายของนิทานดิสนีย์ แต่ไปๆ มาๆ

พอเวลาผ่านไป ต่างฝ่ายต่างเติบโต นิสัย บุคลิกบางอย่ างเริ่มเปลี่ยน เป้าหมายในชีวิตที่เคยมีร่วมกัน

ก็มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย ากเฟดออกมา เพราะมันไม่ตอบโจทย์ของเขาหรือตัวเธอเองอีกแล้ว ยิ่งมีเรื่อง

ทะเลาะให้ร้องไห้ เสียน้ำตาไม่เว้นวัน Toxic Relationship ที่ทำให้เสียความรู้สึกทั้งสองฝ่ายแถม

อนาคตก็ติดแหง็กไม่ก้าวหน้าไปไหน ไม่ควรเกิดกับคู่รักคู่ไหนทั้งนั้น มนุษย์เกิดมามีชีวิตเดียว ควรใช้ให้

มีความสุขและตอบสนองเป้าหมายของตัวเอง การเลือกคู่ชีวิตก็มีพื้นฐานจากตรงนั้น เราเลือกแฟน

ตอนแรกก็เพราะจะมาเป็น ‘พาร์ทเนอร์’ ที่มีความคิดคล้ายกัน เป้าหมายเหมือนกัน จูงมือกันไปถึง

เส้นชัยถูกมั้ย? แต่ถ้ากาลเวลาเปลี่ยนเขากลายเป็นใครก็ไม่รู้ซะแล้ว ก็ไม่ผิดที่จะปล่อยมือคนเก่าแล้วหา

พาร์ทเนอร์คนใหม่ match กันไม่ต้องมาทนเจ็ บกันทั้งสองฝ่ายไปเรื่อยๆ ด้วยค่ะ

6. อีกฝ่ายทำตัว ‘มีความลับ’ มีอะไรไม่บอกยิ่งไม่ถามก็ยิ่งอุบเงียบ

คุณสมบัติของคู่รัก ที่จะมาเป็นแฟนกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ‘เราต้องสบายใจ มั่นใจที่จะแ ช ร์ทุกสิ่ง

ทุกอย่ างในชีวิตให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะโดนแ ท ง ข้างหลัง’ เพราะคนรักก็ไม่ต่างกับ

safe zone ที่ไม่ว่าเธอจะประสบความสำเร็จระดับโลก วันที่ทุกคนหันหลังให้เธอ หรือวันที่เธอทำตัว

ไม่น่ารัก คนรักที่ดีก็ต้องยังอยู่ข้างๆ คอยปลอบประโลม ให้กำลังใจเพื่อสู้ต่อไปด้วยกันตอนแรกแฟน

ของเธอก็อาจเป็นแบบนั้น แต่ทุกวันนี้เขากลับทำตัวลับๆ ล่อๆ มีความลับจนผิดสังเกต บางทีก็หายไป

หลายชั่ วโมงหรือหลายวันโดยไม่บอกล่วงหน้า พอเธอตัดสินใจถามตรงๆ ก็ตอบแบบเลี่ยงๆ ไม่กล้าพูด

ความจริง แม้สุดท้ายแล้วความลับนั้นจะไม่ใช่เรื่องเชิงชู้สาวมีกิ๊ก แต่มันก็เป็นสัญญาณบอกว่า

‘เขาไม่ไว้ใจเธอมากพอที่จะแ ช ร์เรื่องสำคัญในชีวิตอีกแล้ว’ หัวอกแฟนมันเจ็ บจี๊ดเหมือนกันนะ คนรักดีๆ

ไม่ควรมีความลับต่อกันไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม ถ้าพย าย ามคุย ปรับแล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังมีความลับ

งอกใหม่เรื่อยๆ ก็ต้องพิจารณาแล้วละว่า จะยังคบกับคนนี้เป็นแฟนต่อไปหรือไม่

7. ไม่คุยอนาคต ไม่ผูกมัด ไม่รู้เป้าหมายในการคบกันจนเหมือนกับ ‘ไม่มีตัวตน’

ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคู่ ที่จะคบทางไกลได้นานๆ มันต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร ซึ่งการจะมี

ความอดทนเหล่านั้นได้ ก็แปลว่าทั้งคู่ต้องมี ‘ เป้าหมายใหญ่ๆ ‘ สักเรื่องร่วมกัน เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว

จิตใจเวลาอ่อนล้า เพลีย เหงาที่ไม่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆ ก็ยังคิดได้ว่าเรากำลังทนเพื่อสิ่งนี้อยู่ เช่น

คบรอแต่งงาน คบรอวันที่จะจดทะเบียนแล้วย้ ายไปอยู่ด้วยกัน คบเพื่อสักวันจะไปเที่ยวด้วยกันรอบโลก

เป็นต้น ที่สำคัญคือ ‘ เขา ‘ ทำให้เรามั่นใจว่าเป้าหมายนี้ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน ก็จะทำให้

Long Distance Relationship ไม่ล่มระหว่างทางค่ะ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเป้าหมายของทั้งคู่

ดูเลือนรางเหมือนเลนส์แว่นที่ฝ้ามัว ไม่รู้จุดหมายว่าคบไปเพื่ออะไร ปลายทางอยู่ตรงไหนจะแต่งงานไหม

หรือจะคบทางวิดีโอคอลแบบนี้ไปเรื่อยๆ? หลายคนก็พอใจที่จะคบแบบ ‘คุยๆ ไปก่อน’ แต่ถ้าเจอ

คนที่ใช่กว่าก็พร้อมจบ หรือบางคนก็อาจจะยังไม่เร่งรีบสร้าง commitment หรือการผูกมัดที่จริงจัง

แต่ละคนมีแนวทางความรักที่ต่างกัน ถ้าเธออย ากซีเรียสกับความสัมพันธ์ แต่อีกฝ่ายยังล่องลอย

คุยเรื่องอนาคตก็ให้คำตอบไม่ได้ อย ากแต่งงานก็อ้ำอึ้งใส่ แนะนำให้เปิดใจคุยจริงๆ จังๆ ว่าจะเอา

ยังไงต่อ หากเป้าหมายข้างหน้าไม่ตรงกัน จะได้รีบมูฟออนแยกย้ าย ไม่เสียเวลาเธอไปมากกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณที่มา sistacafe

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

5 นิสัย “เก็บเงินไม่อยู่” รีบแก้ก่อนจะรู้สึกผิดตอนแก่

1.นิสัย รวย (เกินฐานะ) หลายๆ คน เป็นกันมาก แต่ (แกล้ง) ไม่รู้ตัว จะอะไรซะอีก นอกซะจากการใช…