Home ข้อคิด 7 วิธีตั้งหลักชีวิตยังไง..ให้ฐานะมั่นคง ไม่มีจน

7 วิธีตั้งหลักชีวิตยังไง..ให้ฐานะมั่นคง ไม่มีจน

6 second read
0
0
26

ความจนเป็นคำตรงข้าม กับความร่ำรวย ซึ่งมีวิถีการใช้ชีวิตแตกต่างราวฟ้ากับดิน ความจนทำให้ชีวิตต้องกระเสือกกระสน สะสมความ เ ค รี ย ด กับการเป็นหนี้สิน กับคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ขาดความร่าเริงในชีวิตเพราะมัวแต่คิดว่าเมื่อไรจะรวยเสียที

เชื่อว่าไม่มีใครชอบความจนส่วนความรวยนั้นให้ไลฟ์สไตล์ที่นำความสุขมาให้ตนและครอบครัว จะไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย ที่อยู่ที่กินล้วนอุดมไม่ขาดแคลน อยากไปเที่ยวก็ได้ไป ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากว่าจะต้องหมุนเงินหรือไปกู้ยืมใครมาใช้หนี้ดี

ความจนกับความรวยหรือคนจนกับคนรวยจึงมีความแตกต่างกันมากแน่นอนว่าคนเราจะจนได้นั้นก็ต้องมีสาเหตุอาจเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตการใช้จ่าย ความคิดและอื่น ๆ มากมายที่นำเราไปสู่ความจน

อาทิ การใช้จ่ายเงินเกินตัวการบริหารเงินไม่เป็นการ ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย การไม่รู้จักประหยัด การเห่อซื้อของตามเพื่อนการอยากได้เกินฐานะจนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน แล้วไม่สามารถใช้คืนได้ การกินอยู่ที่ไม่พอดี และอื่น ๆล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุแห่งความยากจนทั้งสิ้น

เมื่อคุณรู้สาเหตุคุณก็กลับไปแก้ที่ต้นเหตุ และค่อย ๆ พัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น รับรองว่าความจนจะต้องพากันสลายตัว ออกจากชีวิตของคุณอย่างแน่นอน เรามาดูหลักการใช้ชีวิตเพื่อหลีกหนีความจนกัน

1.อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด

ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้หากเราไม่ปรับตัวยังใช้ชีวิตหรูหราเกินฐานะ ความจนจะมาเยือนและไม่ยอมไปไหนอย่างแน่นอน ให้คุณท่องคำว่าอะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดเอาไว้

เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คุณมีเงินงอกเงย จากการประหยัดนั้น ถึงแม้จะเป็นเงินไม่มากแต่เป็นการเพาะนิสัยให้ขยายไปทุกพื้นที่ของชีวิต

และต้องยอมรับว่าเศรษฐีหลายคนก็ยังยกย่องว่าความประหยัด เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่นำพาชีวิตพวกเขาให้ประสบความสำเร็จ

2.มีความขยันขันแข็ง

ปัจจุบันงานก็หายากมีข่าวการปลด พนักงานออกมาเนือง ๆ ทำให้หลายคนไม่มั่นใจว่าจะเป็นตนในวันใดวันหนึ่งหรือไม่ หากคุณทำงานประจำ แน่นอนว่าต้องโชว์ความขยันขันแข็งให้เจ้านายเห็นเพื่อเป็นจุดแข็งให้คุณในยามที่ต้องประเมินผลงานความขยันขันแข็ง

ตรงข้ามกับความขี้เกียจ คงจะไม่มีหน่วยงานไหนที่อยากได้คนขี้เกียจ เรียกใช้ยากผลงานน้อยเข้าทำงานแน่ ซึ่งหากคุณโดนให้ออกจากงาน นั่นแหละ คุณจึงจะรู้ว่างานคือเงิน และไม่มีงานก็ไม่มีเงินนั้นเอง

3.สร้างนิสัยรักการออม

เมื่อคุณมีวินัยในการออมเงิน ผลที่ได้ย่อมนำความชื่นใจมาให้ เพราะคุณจะเห็นยอดเงินออมเพิ่มขึ้นทุกเดือน และนับว่าเป็นนิสัยของเศรษฐี ที่มักจะคิดเรื่องเงินออมก่อนเสมอ อย่างน้อยก็อุ่นใจที่มีเงินก้อนหนึ่งที่โตขึ้นเรื่อย ๆต่างจากคนที่ไม่คิดจะออมเงินจากรายได้ของตนเลย

มีเท่าไรใช้หมดแถมใช้เงินเกินจากที่ได้รับด้วย อย่างไรก็พบกับความจนเรื้อรังแน่นอน คุณสามารถเริ่มต้นคิดถึงเงินออมได้ตั้งแต่บัดนี้ และลงมือทำจากจำนวนเงินน้อย ๆ ก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่มจนถึงจุดที่คุณพอใจในแต่ละเดือน เพียงทำเท่านี้ชีวิตของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

4.ยึดหลักความพอดี

ไม่ว่าจะกินจะใช้หากไม่อยากจนเงินติดลบ ก็ต้องนำหลักความพอดีมาใช้ คุณควรบริหารเงินเป็นสัดส่วนกินและใช้อย่างเหมาะสมไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป พอดีพอดี บางคนชอบกินของแพงถ้านาน ๆทีคงไม่เป็นไร

แต่หากเน้นกินของแพงทุกวันเพราะ ชอบอย่างนี้อร่อยลิ้นแต่ต้องมานั่ง เ ค รี ย ด กับเงินไม่พอใช้อย่างแน่นอน ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับเงิน คุณจะต้องคิดให้มาก ๆ ไม่ใช่อะไรก็ได้ เพราะเงินเวลาใช้นั้นเร็วแต่เวลาหานั้นยากและนาน จะทำอะไรที่เกี่ยวกับเงินก็ต้องฉุกคิดไว้ก่อน

5.มองหาการลงทุน

ข้อนี้สำคัญมากเลยที่จะทำให้คุณเลื่อนฐานะการเงินขึ้นมาได้ คนรวยมักชอบมองหาการลงทุน คุณก็ต้องมองหาการลงทุนด้วยเช่นกัน ซึ่งการลงทุนมีมากมายหลายประเภทที่จะทำให้เงินของคุณงอกเงยขึ้นแต่ก่อนอื่นคุณจะต้องหาความรู้เรื่องการลงทุนในกิจการนั้น ๆ ก่อนเพื่อลดความ เ สี่ ย ง เรียกว่าลงทุนอย่างชาญฉลาด ซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จจากการลงทุนทำให้การเงินฟื้นตัวและพลิกกลับมาเป็นคนรวยได้

6.บันทึกบัญชีการเงิน

เรื่องการบันทึกบัญชี มีผลต่อชีวิตจริง ๆ การบันทึกบัญชีการเงินเป็นการแกะรอยการเงินทุกฝีก้าวว่าเงินไปไหนได้มาเท่าไรทำให้คุณวางแผนการเงินจากสมุดบันทึก ซึ่งดีกว่าแค่จำ ๆ ใน ส ม อ ง

หลักการบันทึกบัญชีคือให้คุณบันทึกเงินเข้าออกทุกเม็ด เงินไม่ให้ตกหล่นตามความเป็นจริง แล้วขีดเส้นสรุปรายวัน และทำรายเดือนอีกครั้ง

เพียงเท่านี้คุณจะเห็นร่องรอยการเงินของคุณและมีสติมากขึ้น การบันทึกบัญชีรับ-จ่ายจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้คุณวางแผนการเงินได้ดีขึ้นอีกด้วย

7.หมั่นหาความรู้เสมอ

คุณต้องทำตัวให้กลายเป็นผู้หิวกระหาย ในความรู้เพื่อนำมาต่อยอดไอเดียในการพัฒนาชีวิตและรายได้ของตน ซึ่งความรู้มีหลายประเภท อาทิ ความรู้ในอาชีพต่าง ๆ ความรู้ในเรื่องการลงทุน ความรู้ในเรื่องการเงิน เป็นต้นและปัจจุบันความรู้ต่าง ๆ เหล่านี้ก็แฝงตัวอยู่ทุกที่

ให้เราเก็บไปบางแห่งไม่ต้องเสียเงินแต่อย่างใด เช่น ในอินเตอร์เน็ต ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ มีความรู้มากมายรอให้เราไปค้นไปคว้า และไปเก็บมาแบบให้เปล่า อยู่ที่ว่าเราจะเห็นคุณค่าของความรู้นั้นแล้วนำมาต่อยอดพัฒนาชีวิตของตนให้พ้นจากความจน

หรือไม่ต้องยอมรับ ว่าการใช้ชีวิตของแต่ละคนนำมาซึ่งความร่ำรวยหรือความยากจนที่แตกต่างกัน ทำสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น ยังเป็นคำกล่าวที่เตือนใจได้เป็นอย่างดี หากเราสร้างเหตุดีผลก็ย่อมดีตาม มาเปลี่ยนการใช้ชีวิตที่นำความรุ่งเรืองให้ชีวิตดีกว่าจะได้ไม่ถูกประทับตราว่าเป็นคนจนแบบถาวรอีกต่อไป

ขอขอบคุณ m o n e y h u b

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…