Home ข้อคิด 7 สิ่งที่ควรรู้ ช่วงวัยกลางคน แก่ตัวไปจะได้ไม่เสียรู้ภายหลัง

7 สิ่งที่ควรรู้ ช่วงวัยกลางคน แก่ตัวไปจะได้ไม่เสียรู้ภายหลัง

7 second read
0
0
32

หลายคน ผ่านช่วงเวลาชีวิตมาจนอายุ 60 ปี ทำให้รู้สึกว่าเสียดายหลายๆสิ่งที่ได้ทำลงไป และไม่ได้ทำจึงได้มีการสัมภาษณ์

คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา รู้สึกเสียดายและอยากกลับไปแก้ไขเรื่องอะไรมากที่สุด และคำตอบส่วนใหญ่สามารถสรุปได้ 7 ข้อ ดังนี้

1. ทำในสิ่งที่อยากทำ ที่ผ่านมาหลายคนมักจะปล่อยโอกาสที่อยากจะทำอะไรหลายๆอย่างไปเพราะเหตุผลที่ว่า กลัวการล้มเหลว

แต่เมื่ออายุ 60 ปี กลับเข้าใจว่าความผิดพลาดนั้นไม่ใช่ การล้มเหลว แต่คือการไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรต่างหาก

2. เปลี่ยนงาน ถ้ารู้สึกว่างานนั้นบั่ น ท อ นจิตใจ เมื่อถึงวัย 60 คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าถ้ารู้แบบนี้จะไม่ทนทำงานที่คอยบั่ น ท อ นจิตใจ

ถูกเอาเปรียบจนเกินไปหรืออยู่ในสังคมเพื่อนร่วมงานแ ย่ๆอย่างแน่นอนและยิ่งอายุน้อยๆก็ยิ่งมีโอกาสที่จะมองหางานใหม่ๆ

ที่เข้ากับตัวเอง และทำให้ตัวเองมีความสุขในการทำงาน

3. พูดคำว่า รักให้มากขึ้น ถึงแม้เราจะบอกว่า ความรักให้ดูที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูดแต่การพูดบอกรัก ก็สร้างความมั่นใจให้กับคนรักของเราได้มากขึ้น

เมื่อถึงวัย 60 เราจะเข้าใจได้มากขึ้นและอยากบอกรักพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง รวมถึงคนใกล้ตัวเราที่สุดอย่างลูก และภรรยาหรือสามี

4. เป็นตัวของตัวเอง ในวัยหนุ่มสาว เมื่ออายุมากขึ้น เราจะเข้าใจชีวิตได้ว่า คนเราเกิดมาแตกต่างกันไม่มีใครเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง

ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องทำตามคนอื่น เพียงเพราะสังคมพาทำให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าเรามองย้อนไปดู

จะพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จ มีเงินเดือนสูงๆ มักจะเป็นคนที่ทำตัวแตกต่างจากคนอื่น ไม่ใช่คนที่เป็นเหมือนคนอื่น

5. จะกังวลกับเรื่องต่างๆ ให้น้อยลง หลายคนเสียดายเวลาที่ต้องมานั่งกังวลกับเรื่องทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร

เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้กังวลเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วจบไปในที่สุด เพียงแค่จะจบลงแบบไหน ก็อยู่ที่เราลงมือทำและแก้ไขมันก็เท่านั้น

6. เดินทางให้มากเท่าที่มากได้ ตอนเป็นหนุ่สาวก็อ้างว่าไม่มีเงิน พอเข้าวัยทำงานมีเงินก็อ้างว่าไม่มีเวลา แต่พอแก่ตัวมา มีทั้งเงินมีทั้งเวลา

แต่กลับไม่มีแรงจะไปเที่ยวไหนเหมือนตอนหนุ่มสาวซะแล้วยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งเดินทางไปไหนลำบาก ไม่คล่องตัวเหมือนตอนวัยหนุ่มสาว

ที่มีแรงมาก จะทำอะไรก็เต็มที่ได้ และสนุกมากกว่า

7. จะเชื่อฟังพ่อแม่ให้มากกว่านี้ ถึงแม้ว่า หลายคนจะบอกว่า พ่อแม่ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปแต่พ่อแม่ก็เป็นคนที่หวังดีกับเรามากที่สุด

อยากให้เราเติบโตไปอย่างดีที่สุดดังนั้นการรับฟังคำตักเตือนของท่านไว้บ้ าง ก็คงไม่เสียหายอะไร จากนั้นเราค่อยพิจารณาด้วยตัวเราเองว่าเชื่อหรือไม่

และควรทำอย่างไรต่อไป เพราะสุดท้ายแล้วชีวิตเป็นของเรา มันก็อยู่ที่เราเลือกทำ

สุดท้ายแล้ว ชีวิตคนเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ชื่อเสียงเงินทอง ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมันเป็นเพียงแค่ความสุข ชั่ ว คราว

แต่ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจเราอย่าไปคาดหวังอะไรกับชีวิตให้มาก ใช้ชีวิตให้ง่ายเข้าไว้มีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆ ในแต่ละช่วงวัยของตัวเองก็พอแล้ว

ตอน 1 ขวบ สามารถเดินได้ โดยไม่ต้องให้ใครพยุง นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอน 10 ขวบ จำทางกลับบ้านจากโรงเรียนได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอน 15 ปี มีความสุข เข้ากับเพื่อนๆได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอน 18 ปี สอบเข้า มหาวิทยาลัยได้ หรือเรียนต่อสิ่งที่อยากเป็นได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอน 22 ปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัย นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอนอายุ 27 ปี มีงานทำที่มั่นคง นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอนอายุ 35 ปี มีครอบครัวที่อบอุ่น นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอนอายุ 45 ปี ให้การศึกษาที่ดีแก่ลูกๆได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ตอนอายุ 60 ปี ยังขับรถ ไปไหนมาไหนเองได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว

ขอขอบคุณ b i t c o r e t e c h

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…