Home ข้อคิด 7 เทคนิคเก็บเงิน ให้เป็นเงินก้อน..ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

7 เทคนิคเก็บเงิน ให้เป็นเงินก้อน..ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

10 second read
0
0
173

การเก็บเงินหรือออมเงินไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับหลายๆคน บางคนที่เก็บเงินไม่อยู่ยิ่งเป็นเรื่องยากมาก ที่จะเริ่มต้นเก็บเงินแบบจริงๆ จังๆ

ดังนั้นวันนี้ เราจึงมีวิธีเก็บเงินแบบง่าย ไม่ยุ่งยาก เป็นวิธีสำหรับเริ่มต้นฝึกนิสัยการออมได้ดีเลยทีเดียว

1. เก็บเงินทุกวัน จำนวนตามตัวเลขของวันที่

วิธีนี้ให้ยึดเอาตัวเลข ของวันที่เป็นตัวตั้งและเก็บจำนวนเงิน ตามวันนที่ เช่น วันที่ 1 ให้เก็บเงิน 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท หยอดกระปุกไปเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 31 เก็บ 31 บาท พอขึ้นเดือนใหม่ ก็เริ่มเก็บ 1 บาทใหม่

ตามวันที่นั้น ๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกเดือนๆ หากเราเก็บแบบนี้ ไปเรื่อย เมื่อครบ 1 ปี เราจะมีเงินเก็บทั้งหมด 5,738 บาท หรือถ้าใครจะเก็บเงินวันที่ 1 เพิ่มเป็น 10 บาท วันที่ 31 เป็น 310 บาท ก็ได้ รวมทั้งปีเราจะมีเงินเก็บถึง 57,380 บาท

2. เก็บเงินทุกวันเงินเดือนออก

นอกเหนือจากจะเป็นวันที่เรา ต้องจ่ายหนี้สินแล้วให้ลองยึดเอาวันเงินเดือนออก เป็นวันที่เราเก็บเงินไปด้วยก็คงจะดีไม่น้อย พอถึงวันแรก ที่เงินเดือนเข้าบัญชี ให้เก็บไว้เลย 20% ของเงินเดือน ถือเป็นการเก็บเงินก่อนใช้ สมมติได้เงินเดือน 15,000 บาท ก็เก็บ 3,000 บาท ทำแบบนี้ทุกเดือน ๆ

ถึงสิ้นปีเราจะมีเงินเก็บ 36,000 บาท โดยวิธีการเก็บนี้ หากเป็นคนที่ใจไม่แข็งพอแนะนำให้เปิดบัญชีฝากประจำ ที่กำหนดต้องฝาก ในจำนวนที่เท่าๆ กัน ทุกครั้ง ก็ได้ หรือหากยังจิตแข็งพอก็ให้นำเงินออกมาแยกไว้ต่างหาก แต่ต้องสะกดจิตตัวเอง ให้ได้ว่าเงินส่วนนี้คือต้องเก็บเท่านั้น ห้ามนำออกไปใช้

3. เก็บเศษของเงินเดือนทุกเดือน

วิธีนี้ จะคล้ายกับวิธีก่อนหน้านี้ แต่ให้ยึดเอาตัวเลขเศษ จากจำนวนเงินเดือนที่เรา ได้รับในแต่ละเดือน เช่น 25,650 บาท ก็ให้เก็บเศษ 650 บาท หากใครมีเศษน้อยหน่อยเช่น 31,100 บาท ก็อาจจะเก็บ 1,100 บาทเลยก็ได้

แต่ที่สำคัญคือ ต้องเก็บแยกออกมา จากเงินเดือนเลยทันทีที่เงินเดือนเข้า เก็บแบบนี้ไปทุกเดือน ๆ เศษเงินเดือนสมมติ หากเราเก็บเศษเงินเดือน 650 บาท ที่ได้รับประจำ 25,650 บาท x 12 เดือน ก็เท่ากับว่าสิ้นปีเราจะได้เงินเก็บ 7,800 บาทเลยทีเดียว

4. เก็บเศษเงินเหรียญ

วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะกรณีที่ต้องใช้จ่าย ด้วยเงินเหรียญ เป็นประจำ เช่นใช้บริการ รถเมล์ เรือโดยส าร ที่ต้องใช้เหรียญเป็นค่าโดยส าร เป็นหลัก แต่วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบพกเงินเหรียญให้หนักกระเป๋า

โดยในแต่ละวันที่รับเงินทอนมาเป็นเงินเหรียญ ให้แยกเก็บไว้ในกระเป๋าใบเล็กๆ อีกกระเป๋าเลยก็ได้ไม่นำเงินเหรียญออกมาใช้ เมื่อจบวันกลับบ้านให้นำเงินเหรียญทั้งหมดออกมาเก็บใส่กระปุกไว้เมื่อถึงปลายปี

ให้นำเหรียญออกมานับแล้วค่อยนำไปฝากธนาคารหรือแลกเป็นแบงค์ เพื่อนำไปฝากเข้าบัญชีก็ได้ วิธีนี้อย่างน้อยๆ ก็สามารถเก็บได้ 3,000-5,000 เลยทีเดียว

5. เก็บแบงค์ 50 ทุกวัน

วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่หลายคน น่าจะรู้จัก เพราะ แ ช ร์ ต่อๆ กัน มานานมากแล้ว โดยวิธีนี้จะให้เน้นเก็บแต่แบงค์ 50 เพราะเป็นแบงค์ที่เรา มักไม่ค่อยจะได้เจอสักเท่าไร ส่วนใหญ่ก็มักจะเจอแต่แบงค์ 20 หรือ แบงค์100 เลยทีเดียว นานๆทีจะมีได้ทอนกลับมาบ้าง

ดังนั้นการเก็บแบงค์ 50 มันทำให้เรารู้สึกว่าการออมมันไม่ได้ลำบากอะไร มากขนาดนั้น โดยไม่ว่าวันนั้นๆ จะได้รับทอนกลับมาเท่าไหร่ก็ขอให้เก็บไว้ทั้งหมด ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ได้รับเงินทอนสมมติถ้าเราซื้อของ จ่ายค่าแท็กซี่ หรือค่าใช้จ่ายอะไรก็ตาม

ทุกวันแล้วได้แบงค์ 50 มาวันละ 1 ใบ ใน 1 เดือน เราจะได้ 50 x 30 = 1,500 บาท ถ้า 1 ปี เราจะได้ 50 x 365 = 18,250 บาทอาจจะได้มากหรือน้อยกว่า นั้นก็ได้ เพราะคงไม่มีใครซื้อของทุกวันแล้วได้แบงค์ 50 ตลอด แต่ก็ยังดีที่เราได้มีเป้าหมายในการเก็บแบงค์ 50

6. ใช้เท่าไร เก็บเท่านั้น

วิธีนี้อาจจะยากหน่อย เพราะอาจจะยุ่งยากถ้าใครเป็นคนขี้ลืม เทคนิคคือ จดหรือบันทึกไว้ในสมาร์ทโฟนของเรา โดยเอารายจ่ายฟุ่มเฟือยในแต่ละวัน เป็นตัวตั้ง เช่น วันนี้ซื้อเสื้อไป 250 บาท ก็ให้เก็บ 250 บาท เท่ากับจำนวนเงินที่ใช้ไป

ยิ่งเราใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก ก็ยิ่งต้องเก็บมากถือเป็นการเก็บเงินหลังใช้ และเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่ค่อนข้าง ใช้เงินเก่ง เพราะยิ่งเราใช้เยอะ เราก็ต้องมีวินัยในการเก็บเงินให้เยอะขึ้นด้วย

7. เก็บแบงค์ 50 รวมกับค่าชา กาแฟ

วิธีนี้เหมาะสำหรับ คนที่ติด ชา กาแฟหรือขี้เกียจจดบัญชี รายรับรายจ่าย โดยให้เก็บเงินเท่ากับจำนวนที่ซื้อกาแฟทุกๆ วัน เมื่อเจอแบงค์ 50 ก็ให้เก็บไว้ อาจจะดูเล็กน้อยสำหรับใครบางคนแต่เชื่อว่า เป็นวิธีที่ช่วยฝึกนิสัยการออมได้ เช่น วันนี้ได้แบงค์ 50 มา 1 ใบ

และวันนี้ซื้อกาแฟไป 2 แก้ว สมมติแก้วละ 50 บาท รวมเป็น 100 บาท เท่ากับวันนี้ เก็บเงิน 50+100 = 150 บาทหากคำนวณคร่าวๆ เก็บ 1 เดือน จะได้เงินเก็บ 4,500 บาท แต่อาจจะได้มากหรือน้อยกว่า นั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอแบงค์ 50 มากเท่าไหร่ และกินกาแฟวันนั้นกี่แก้ว

เมื่อรู้เทคนิคดีๆไปทั้ง 7 วิธีข้างต้น แล้วก็เลือกวิธีที่ เหมาะกับตัวเอง แล้วเริ่มต้นเก็บเงินเลย แล้วเรื่องออมเงินจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพราะอย่างน้อย เราก็จะมีเงินเก็บ ไว้เผื่อสำรองหรือกรณีฉุกเฉินในอนาคตไม่ไปยื่นกู้ให้ยุ่งยากหรือไม่จำเป็น ต้องเป็นหนี้ใคร

ขอขอบคุณ t n n t h a i l a n d

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…