
หลายคน มักจะมีปัญหา ใช้เงินเดือนชนเดือน หนักกว่านั้น คือใช้ไม่ถึงเดือนก็หมดซะแล้ว นั่นเป็นเพราะไม่มีการวางแผน ทางการเงินที่ดีมีเท่าไหร่ ก็ใช้หมดไม่เหลือเก็บเมื่อทำบ่อยๆ ก็จะชินจนเป็นนิสัยและกลายเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่วันนี้
เราจะพามาดูเคล็ดลับ ในการช่วยให้คุณ เก็บเงินได้จะทำอย่างไรบ้างไปดูกันเลย
1.หยอดกระปุกทุกวัน วิธีนี้เป็นการเริ่มเก็บเงินที่ง่ายที่สุด และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างนิสัยรักการออมให้กับตัวเองอีกด้วยอย่างน้องๆ ที่ยังไม่ได้หารายได้เอง ไม่ได้มีรายได้แน่นอนก็ใช้วิธีหักค่าขนม
มาหยอดกระปุกไว้ทุกวันสักวันละ 10-20 บาทตามความสามารถสำหรับคนที่ทำงาน มีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว ก็ให้หักจาก เงินเดือน 10-30% ของเงินเดือนสำหรับการออม รับรองว่าต้อง มีเงินเก็บได้สักก้อนใน 1 ปีแน่นอน
2. แบ่งเงินใช้เป็นวันๆ เวลาเงินเดือนออก เมื่อเห็นเงินจำนวนมากก็อย ากจะให้รางวัลตัวเองโดย การไปกินของแพงๆ อร่อยๆ หรือซื้ อของที่ตัวเอง อย ากได้เพื่อตอบแทนที่ทำงานเหนื่อย มาทั้งเดือนแต่การทำแบบนี้
จะเป็นการทำให้ ใช้เงินไม่พอเดือนมากกว่าเราแนะนำว่าเมื่อเงินเดือนออกให้คุณถอนเงินออกมา เพื่อแบ่งใช้ในแต่ละวันไปเลยใส่ถุงซิปไว้เป็นวันๆ จนครบ 30 วันเงินส่วนหนึ่งให้แบ่งไว้จ่ายภาระ
ที่ต้องจ่ายทุกเดือนอย่างค่าบ้ านค่าน้ำไฟค่าโทรศัพท์ที่เหลือก็ให้เก็บไว้ในบัญชีออมเงินที่ไม่ต้องถอนแล้วถ้าเงินที่เหลือจากการแบ่งใช้ในแต่ละวันเหลือ ก็นำไปหยอดกระปุกอีกทีรับรองว่าคุณจะมีเงินเหลือ เก็บมากจน นึกไม่ถึงเลย ล่ะ
3.ห่อข้าวไปกินเอง สำหรับน้องๆ ที่ยังเรียนอยู่ก็อาจจะให้คุณแม่ ทำอาห าร ไว้ให้แล้วห่อไปกินที่โรงเรียน ตอนกลางวันสำหรับคนวัยทำงาน ก็ให้ตื่นเช้าสักหน่อยเพื่อมาเตรียมอาห าร สำหรับไปกินที่ทำงาน
การทำอาห าร กินเองยังไงก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าไปซื้ อจากข้างนอกกินอยู่แล้วเดือนๆ หนึ่งจ่ายค่าอาห าร กลางวันไม่ใช่น้อยๆ นะ ถ้าเราลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ก็ จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น
4.เน้นดื่มน้ำเปล่า มากกว่าน้ำหวาน น้ำเปล่านั้น มีราคาถูกกว่าน้ำหวานอย่างชากาแฟ หรือน้ำอัดล ม อยู่แล้วถ้าเราดื่มน้ำเปล่า จนติดเป็นนิสัยจะทำให้เราไม่อย ากจะดื่มน้ำหวานบ่อยๆ นอกจากจะช่วยให้เราประหยัดเงินได้มากขึ้น
แล้วน้ำเปล่าก็ ยังมีประโยชน์ต่อ ร่ า ง ก า ย มากกว่า การดื่มน้ำหวาน เป็นประจำอีกด้วยนะ
5. ลดรายจ่าย ค่าเน็ตหรือใช้ W i f i สาธารณะดีกว่า เส้นทางการเป็นเศรษฐีต้องเริ่มจากการใช้เงินให้มีประโยชน์ที่สุดนี่แหละ สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวไกลทำให้เราต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่าง ค่าเน็ตค่าโทรศัพท์แต่บางคนก็ใช้งานไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป
ฉะนั้น ลองหาโปรโมชั่น ที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุดเพื่อที่จะได้ราคาต่ำที่สุด หรือใครที่ไม่ได้เดือดร้อนในการใช้เน็ต ก็อาจจะใช้เป็น W i f iสาธารณะจะช่วยให้เราไม่มีรายจ่ายส่วนนี้ประหยัด ไปได้หลายร้อยเลยนะแต่ละเดือน
6.ซื้ อแต่ของที่จำเป็น และต้องใช้จริงๆ เท่านั้น การช้อปปิ้งไม่ใช่เรื่องที่ผิดหากเรามีเงินเหลือมาก พอที่จะไปซื้ อของหรืออาจจะจำเป็นต้องซื้ อมาใช้งานจริงๆ ก็ไม่ว่ากันแต่การต้องไปช้อปปิ้งซื้ อกระเป๋ารองเท้าเสื้อผ้าของจิปาถะ ทุกเดือนหรือทุกครั้งที่เห็นป้ าย ลดราคามันคงจะไม่ดีแน่
หากจะอย ากเป็นเศรษฐีก็ต้องรู้จักเก็บและ รู้จักใช้เงินนะเราไม่จำเป็นต้องซื้ อของที่อย ากได้ภายในเดือนเดียวก็ได้
7. งดสังสรรค์ปาร์ตี้ สำหรับสายปาร์ตี้อาจจะไม่ต้องเลิกถาวร แต่ให้ลดจำนวนครั้งลงมาบ้างเลือกไปเฉพาะงานที่สำคัญอย่างเช่นงานวันเกิด เพื่อนหรืองาน แสดงความยินดีบางครั้งแต่ไม่ควรเกินเดือนละ 2 ครั้งเพราะการไปสังสรรค์แบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
และยังเป็นสิ่งที่ให้โท ษต่อสุขภ าพเราในระยะย าวอีกด้วยแต่สำหรับใครที่ไม่ชอบแนวนี้ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร และยังมีเงินเก็บได้ ง่ายขึ้นอีกด้วย
8.หารายได้เสริมจากหลายช่องทาง นอกจากการเก็บออมแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการหารายได้เพิ่มตั้งใจเก็บอย่างเดียวก็คงจะรวยช้าแต่ถ้าสามารถหารายได้เพิ่มขึ้นได้ ก็จะยิ่งร่นระยะเวลาไปได้เยอะอาจจะหาของไปขาย ที่ตลาดนัดในวันหยุดหรือรับงานฟรีแลนซ์ ที่สามารถทำได้ หลังเลิกงานประจำ
9. รู้จักการลงทุ น ทำเงินให้งอกเงย อย่างที่บอกว่าก้าวแรก ของความรวยคือการเก็บออมแต่ก้าวต่อไปต้องรู้จักลงทุ น ให้เป็นการลงทุ นนั้น มีหลายแบบมีความเ สี่ ย ง สูง-ต่ำที่ แ ป ร ผั น ตามค่าตอบแทนยิ่งเ สี่ ย ง มากก็มีโอกาสได้มาก
แต่ถ้าเสี่ ย ง น้อย ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนน้อยตามไปด้วยทุกการลงทุ น มีความเ สี่ ย ง ดังนั้นเราจึงต้องศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนทุกครั้งแต่หากใครที่มีเงินก้อนที่เป็นเงินเย็นไม่ได้รีบร้อน เอาไปหมุนอะไร
เราแนะนำ ให้คุณนำไปซื้ อ ส ล า ก ออมเงินไว้ นอกจากจะได้ ค่าตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินแบบปกติแล้วยังมีโอกาสได้ ลุ้ น ร า ง วั ล ใ ห ญ่ๆ อีกด้วยถ้าดวงดี มากก็อาจจะได้เป็นเศรษฐีเลยก็ได้เคล็ดลับที่บอกไป
เป็นเพียงแนวทางที่จะช่วยให้คุณมองเห็น จุดเริ่มต้นในการออมเงินแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับจิตใจของคุณ และการใช้เงินว่าคุณจะเข็มแข็งพอ ที่จะไม่ตามใจตัวเองได้ไหมใครที่มีแผนทางการเงินที่ดี ย่อมได้เปรียบ
ขอขอบคุณ m o n e y g u r u