ฉันมักจะเห็นเตี่ย ใส่กางเกง ตู ด ปะ ตู ด ขาด ไม่พิถีพิถันที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อย เหมือนคนไทยเขาบ้าง จะได้สวยงามดูดี ไม่ทำให้ฉันต้องอายเพื่อน
ฉันจึงถามเตี่ยว่า ทำไมเตี่ยไม่แต่งตัวดีดี เหมือนคนอื่นเขา เตี่ยตอบว่า” เราเป็นคนจีนเนี่ย ปากท้องต้องมาก่อน อยู่เมืองจีนเราลำบากมาก แ ย่ ง กันกินแ ย่ ง กันใช้
พื้นดินสีแดง แห้งแล้ง อดอยาก ยากจน ไม่มีใครจะมาใส่ใจสนใจเรื่องเสื้อผ้า เรื่องแต่งตัว ขอแค่ได้กินอิ่ม กินดีดี มีชีวิตอยู่รอดก็ดีใจมากแล้ว
จำไว้นะลูก ใส่กางเกง ตู ด ข า ด ไม่เป็นไร แต่ปากท้องเราต้องอิ่มคนในครอบครัวเราต้องกินอิ่ม ” พูดเรื่องนี้ปุ๊บ ฉันนึกภาพเด็กไทย อดข้าว กินข้าวกับน้ำปลา
เพื่อหาตังค์ซื้อกระเป๋าใบละห้าหมื่นลอยขึ้นมาทันที เมื่อเริ่มมีเงิน อย่าเอาเงินไปซื้อ ของปรนเปรอตนเองทั้งหมด ต้องเก็บเงินไว้ลงทุนขยายธุรกิจต่อไปด้วยขาย อ า ห า ร จานเดียวนะ
อย่าขาย อ า ห า ร ตามสั่ง อ า ห า ร จานเดียวทำให้อร่อยอร่อยจริงๆ แค่อย่างเดียวพอ ก็รวยได้ อ า ห า ร ตามสั่ง ทำไม่ทัน ทำเยอะก็ไม่ได้ ไม่ทันรวยเหนื่อย ต า ย ก่อน
ต้องหัดฟังเพลงเก่าๆ มั่ง เพลงเก่าๆ มันไพเราะ น่าฟังเพลงสมัยพวกแก มันไม่มีอะไรเลย ตะโกนกันโหวกเหวก มันเป็นเพลงตรงไหนอย่าไปดองกับคนไม่ดี ลูกหลานไปมีครอบครัว
ถ้าไปแต่งงาน กับคนไม่ดี ตระกูลไม่ดี เป็นนักเลง ติ ด ย า ติดการ พ นั น ขี้ โ ก ง เห็นแก่ตัว ขี้เหนียว ไม่รักญาติพี่น้องไม่เอาใครดองกันไป ก็เดือดร้อนทั้งตระกูล
เพราะคนจีนเราผูกพันกัน เกี่ยวพันกันเป็นครอบครัวใหญ่ถ้าหาแฟนดีดีไมได้ ไม่มีใครรักไม่มีใครดีกับลูก ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ต้องไปฟูมฟาย เสียใจหาใครเค้า
ลูกสาวคนเดียวเตี่ยเลี้ยงได้เป็นพี่น้อง ต้องรักกันมากๆ อย่าทะเลาะกัน อย่าตีกั น พ่อแม่จะนอน ต า ย ตาไม่หลับ เตี่ยตื่นตีสี่ ตีห้าทุกวัน เตี่ยบอกว่าเราตื่นก่อนเขาก็ทำงานก่อนเขา มีเวลามากกว่า เขาวันละ 1 ชม.
ชีวิตเราก็ล้ำหน้าคนอื่นไปแล้ว วันละ 1 ชม.ทำให้นึกถึงคำคนจีนว่า ” อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่า ห มิ่ น เงินน้อย อย่าคอยวาสนา” มีวัดอยู่ใกล้บ้านใกล้ชุมชนต้องดูแล
ไม่ใช่เอาแต่หอบเงินขึ้นเหนือล่องใต้ ไปทำบุญวัดโน้น วัดนี้ แต่วัดในชุมชนตนเอง ห มู่ บ้านตนเองไม่ดูแลเลย เราเกิดที่นี่โตที่นี่เราต้องดูแลบ้าน ของเราเรื่องของคุณธรรมและความขยันหมั่นเพียร
คือสิ่งที่คนจีนยึดถือมายาวนานนับเป็นร้อยๆ ปีจากรุ่นสู่รุ่นและแม้ว่าชาวจีนบางส่วนจะอพยพไปตั้งรกรากที่อื่น แต่ก็ยังนำหลักคำสอนไปใช้สอนลูกหลานอยู่เสมอ สิ่งนี้ทำให้ชาวจีน
แม้อยู่ในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็จะเติบโต และมีความก้าวหน้าซึ่งส่วรหนึ่งก็เพราะคำสอนเหล่านี้สำหรับครั้งนี้ เราจะมาดูคำที่คนจีน ไม่ให้ลูกหลานพูดกัน และนี่คือ 5 คำที่คนจีนสอนลูกหลานว่าไม่ควรพูด
“ยาก”
คำว่ายากจะ ปิ ด กั้ น ความเป็นไปได้ของสิ่งที่คุณกำลังทำในทันทีและจะลดความสามารถในการลงมือลงหลายระดับเพราะสิ่งที่กำลังเผชิญมันยากเกินความสามารถหรือถ้าไม่เกินความสามารถ
ก็ต้องใช้พละกำลังในการเอาชนะ เยอะกว่าปกติพอสมควร ลองคิดกลับกันว่าถ้าแทนที่จะพูดคำว่ายากเปลี่ยนเป็นคำว่าทำได้หรือไม่ยากมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกไม่ เ ค รี ย ด และเอาชนะปัญหาได้ในที่สุด
“ทำไม่เป็น”
คำว่าทำไม่เป็นนั้น ควรเก็บไว้ ชั่ ว คราวไม่ควรให้คำนี้ยืนหยัดกับชีวิตไปตลอด แน่นอนว่าไม่มีใคร เกิดมาทำเป็นตั้งแต่เกิด
หากต้องเรียนรู้พัฒนากันไปคนที่เก่งกว่าคนอื่นไม่ใช่เพราะเขาเก่งมาแต่เกิด เพียงแต่พวกเขาพยายามพัฒนามากกว่าคนอื่น ๆ
“ท้อ”
คำว่าท้อเป็นคำที่ห้ามพูด เวลาที่คุณเจอกับอุปสรรคในชีวิต เพราะจะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายกับปัญหา รู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว
สู้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วคนที่ประสบความสำเร็จเขาเกิดความท้อแท้ อย่างแน่อนแต่พวกเขาไม่มัวแต่พูดว่าท้อ ทำไม่ไหว แต่เก็บรวบรวมกำลังใจฮึดสู้เอาชนะอุปสรรคไปได้เสมอ
“ขี้เกียจ”
คำว่าขี้เกียจนั้นอันตร ายยิ่งนัก หากใช้บ่อยครั้งจะทำให้ชีวิต ดิ่งลงเหวอย่างแน่นอน คนที่ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะชาวจีนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย เราจะได้ยินเรื่องราวแห่งความพยายาม
อุตสาหะและขยันทำมาหากินอยู่เสมอ ด้วยเพราะไม่มีต้นทุนในชีวิตมาแต่เดิม มีแต่เพียงเสื่อผืน ห ม อ น ใบหอบข้ามน้ำข้ามทะเล มาจากเมืองจีนทำให้คนจีนยุคก่อนจึงไม่มีความขี้เกียจอยู่เลย
“เหนื่อย”
คนที่พร่ำบ่นว่า เหนื่อยออกมาจะทำให้พละกำลังของตนเองลดลงในทันที ชีวิตคนจีนสมัยก่อนต้องพบแต่ความยากลำบากไม่ได้ร่ำรวยอู้ฟู่เหมือนอย่างที่เห็น
ในยุคสมัยนี้ต้องปาก กั ด ตี น ถีบทุกวัน เรื่องเหนื่อยจึงต้องพบเจอเป็นประจำ แต่พวกเขาเลือก ที่จะทำงานต่อไป โดยไม่พูดคำว่าเหนื่อยออกมา จนสามารถเลี้ยงดูครอบครัวให้สุขสบายได้
ขอขอบคุณ share-si,leaderwings