Home ข้อคิด เทคนิคเก็บเงิน ให้ได้ผลตามเป้าที่วางไว้..สิ้นปีมี “เงินแสน”

เทคนิคเก็บเงิน ให้ได้ผลตามเป้าที่วางไว้..สิ้นปีมี “เงินแสน”

12 second read
0
0
35

สำหรับคนเก็บเงินเก่ง หรือวางแผนการเงินได้ดีมาตลอด เป้าหมายเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องยากนัก แต่สำหรับคนใช้เงินมือเติบหรือคนเก็บเงินไม่อยู่มาก่อนเลย

อยากตั้งเป้าหมายทางการเงินของตัวเองบ้าง วันนี้ยังไม่สายเรารวมเทคนิคการเก็บเงิน ที่มีโอกาสสำเร็จสูงมาฝากเพื่อเริ่มต้นเป็นคนมี สุ ข ภ า พ การเงินที่ดีไปพร้อมๆ กันในปีนี้

เทคนิคที่ 1 : เก็บก่อนใช้

เทคนิค ที่เหมาะสำหรับคนที่เก็บเงิน ไม่อยู่เอามากๆ คือการ “เก็บก่อนใช้” เพื่อให้เงินส่วนที่ต้องการเก็บไปอยู่ในที่ที่เราไม่เห็น ไม่มีแรง ก ร ะ ตุ้ น ในการใช้ เงินที่ไม่เห็น = เงินที่ไม่ได้ใช้หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนใช้เงินเก่ง ไม่มีเงินเหลือเก็บตามเป้าหมาย และรู้สึกว่าหาเงินเท่าไรก็ไม่พอ

เพราะหวังจะเก็บเงินที่เหลือ จากการใช้จ่าย แต่ความเป็นจริงสิ่งที่ควรทำคือหักเงินที่ต้องการเก็บออกไปเป็นอันดับแรกหลังมีรายรับ ตามสมการ “รายได้-เงินออม = รายจ่าย” การเก็บก่อนใช้ จะต้องมีกฎว่า “ห้ามยุ่ง” กับเงินก้อนนี้เป็นอันขาดจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

เช่น ตั้งใจเก็บเงิน 100,000 บาท ในปลายปีนี้ ทุกครั้งที่มีรายได้จะหักเงิน 20-30% ออกเพื่อเก็บทันทีก่อนนำไปใช้จ่าย และจะไม่ยุ่งกับเงินก้อนนี้เลยจนกว่าจะถึงปลายปีและใช้ตามเป้าหมายที่คิดไว้ตอนแรกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สามารถปรับลดเป้าหมายต่ำลง ตามรายได้และภาระที่มี แบบค่อยเป็นค่อยไปอาจจะเริ่มที่ปีละ 10,000 30,000 หรือ 50,000 บาทก่อนเพื่อฝึกวินัยก็ทำได้ตามสะดวก

เทคนิคที่ 2 : เก็บเงินไว้ ในที่ที่เอาออกยาก

จากเทคนิคแรก หลายคน เคยทำแล้วแต่ตกม้า ต า ย เพราะรู้ว่าตัวเองมีเงินอยู่ในบัญชีและเอาออกมาใช้ตอนยังไม่ถึงเส้นชัยทุกครั้ง ฉะนั้น เมื่อหักเงินมาเก็บก่อนใช้ได้แล้วลองหาที่พักเงินไว้แบบที่เอาออกไปใช้ได้ยาก เพื่อลดความคล่องตัว โดยอาจทำได้หลายวิธี เช่น

– บัญชีออมทรัพย์ปิด ต า ย ไม่มีบัตร ไม่มี e-banking ยังคงเป็นการเก็บเงินสุดคลาสสิกที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เริ่มต้นการออม ที่ช่วยหักห้ามการถอนมาใช้ได้ ในระดับหนึ่งและสามารถสะสมเงินง่ายๆ เพียง โ อ น เข้าไว้ในบัญชีนั้นๆ ทุกเดือน

– บัญชีฝากประจำ บัญชีฝากประจำ ของแต่ละธนาคาร จะมีเงื่อนไขในการฝากเงินเป็นประจำสม่ำเสมอ ที่ช่วยให้ไม่เผลอเอาเงินออกมาใช้ และมีผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 1-2% ขยับขึ้นมาจากการฝากออมทรัพย์ธรรมดาเล็กน้อย

อย่างไรก็ดี ต้องดูรายละเอียด การฝากประจำ (บางประเภท) ที่จะมีการเรียกเก็บภาษีและปลอดภาษีเพื่อบริหารให้เหมาะกับเป้าหมายของตัวเองด้วย

– ซื้อสลากออมทรัพย์ สลากออมทรัพย์คือการออมเงินประเภทหนึ่ง ที่มีการให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามที่ตกลง คล้ายกับการฝากประจำ (ขึ้นอยู่กับประเภทสลาก) ความพิเศษของการซื้อสลากออมทรัพย์ คือมีโอกาส “ลุ้น ห ว ย”

หรือลุ้นถูกรางวัลตามเลขบนสลากที่เราซื้อทำให้มีโอกาสลุ้นเป็นเศรษฐี ระหว่างที่ฝากเงินด้วย โดยการซื้อสลากจะช่วยให้เก็บเงินอยู่กว่าการออมแบบธรรมดา เพราะมีกำหนดระยะเวลาไถ่ถอน เช่น 1 ปี 3 ปี ฯลฯ

ซึ่งจะทำให้ตอนครบเวลาฝาก เราจะได้รับเงินก้อนที่เป็นเงินต้นที่ซื้อไว้คืนทั้งหมด รวมกับดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่ฝากด้วย

เทคนิคที่ 3 : หัดลงทุน

การ “ลงทุน” คือโอกาสที่ทำให้เงินที่มีอยู่งอกเงยขึ้นมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประเภทต่างๆ ที่ต้องแลกมากับ “ความ เ สี่ ย ง ” ตามมา ส่วนจะ เ สี่ ย ง มากหรือน้อยก็ขึ้น อยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนที่หลากหลาย และเข้าถึงง่ายผ่านสมาร์ทโฟน

โดยการลงทุนเบื้องต้น ที่แนะนำสำหรับคนที่ ไม่เคยลงทุนมาก่อน และต้องการเก็บเงินให้ค่อยๆ งอกเงย คือ“กองทุนรวม” กองทุนรวม คือการใส่เงินลงทุนเข้าไปในกองทุน ที่คนมีผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้จัดการกองทุน ช่วยบริหารจัดการให้ ตามนโยบายที่แจ้งไว้กับนักลงทุน

ซึ่งในแต่ละกองทุนก็จะไปลงทุน ในสินทรัพย์ต่างๆ อีกทอดหนึ่งโดยส่วนใหญ่จะกระจายหลายสินทรัพย์ ซึ่งจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 1-12% (ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ เวลาที่ลงทุน)ซึ่งมีโอกาสปั้นเงินก้อนให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ แบบออกแรงน้อยลง

เช่น อยากมีเงิน 1 แสนบาท ใน 1 ปี หากออมเงินในกระปุก จะต้องเก็บเงินเฉลี่ยเดือนละ 8,333 บาท จึงจะครบแสน แต่หากนำเงินไปลงทุน กองทุนรวม 1 ปี จะใช้เงินต้นที่น้อยลง เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนจะเข้ามาเติมเต็ม

เช่น ถ้าเราลงทุนในกองทุนเดือนละ 8,000 บาท แล้วได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี ก็มีโอกาสจับเงิน 100,800* บาท เนื่องจากมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมา 4,800 บาทนั่นเอง

ขอขอบคุณ b a n g k o k b i z n e w s

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…