1.“มันไม่แฟร์” โลกนี้ มันไม่มีอะไรแฟร์อยู่แล้ว การที่พูดว่ามันไม่แฟร์ มันจะทำให้เราดูเหมือนคิดว่าโลกนี้แฟร์
ซึ่งจะทำให้เราดูเหมือนเป็นคนที่อ่อนต่อโลก ไม่เข้าใจความเป็นไปของมัน ถ้าเราไม่อยากให้มัน ดู แ ย่
เราควรเน้นไปที่ Fact หรือการถามหาเหตุผล ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มากกว่าการใช้อารมณ์หรือบ่นว่ามันไม่แฟร์เลย
2.“ทำไปแบบนี้แหละ เดี๋ยวก็เสร็จ” โลกสมัยนี้เป็นโลกที่ทุกอย่าง เกิดขึ้นเร็วมาก อะไรที่เคยเวิร์กเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว
ตอนนี้อาจจะเป็นเรื่องล้าหลังแล้วก็ได้เพราะฉะนั้น อย่าพยายามพูดว่า “ทำไปแบบนี้แหละ เดี๋ยวก็เสร็จ”
เพราะมันอาจจะมีวิธีใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าหรือรวดเร็วกว่า และการพูดแบบนี้จะทำให้คุณดูเหมือนไม่ใส่และดูขี้เกียจเสียเปล่า
3.“มันอาจจะดูเป็นความคิดที่แปลกหน่อยนะ แต่..” การพูดแบบนั้น มันเป็นเหมือนการสร้าง Safe Zone ให้ตัวเอง
และมันทำให้คุณดูไม่มั่นใจในความคิดและจะทำให้ผู้ฟังไม่มั่นใจในความคิดนั้นไปด้วย อย่าพยายามวิพากษ์วิจารณ์ความคิดตัวเอง
หรือถ้าคุณไม่มั่นใจในข้อมูลนั้นจริงๆ ลองนำเสนอ เรื่องราวนั้นไปก่อน และชี้แนะว่าจะนำข้อมูลมาเพิ่มเติมในภายหลัง
4.“แปปเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ” มันทำให้รู้สึกว่างาน นั้นจะไม่เสร็จจริงๆ คุณพูดเพียงแค่ขอต่อเวลาเท่านั้น
เพราะไม่มีอะไรที่มันจะเสร็จรวดเร็ว ขนาดนั้นหรอก (ยกเว้นคุณมั่นใจว่ามันจะสามารถเสร็จภายใน 60 วินาทีจริงๆ)
5.“เจ้านั่นมันขี้เกียจ/ โ ง่ ” มันไม่มีเหตุผล ที่จะกดเพื่อนร่วมงานให้ต่ำลง เพราะถ้าเขาทำงานไม่มีประสิทธิภาพจริงๆ
คนอื่นก็จะเห็นจุดนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นนั้น มันจะทำให้ตัวคุณเอง ดู แ ย่ ในสายตาคนอื่นแทน
6.“มันไม่ใช่ความผิดของฉัน” ถึงคุณจะไม่ได้ผิดจริงๆ แต่พูดแบบนี้ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร
เพราะในสถานการณ์ที่ไม่มีใครรู้หรอกว่าใครเป็นคนผิดการกระทำแบบนี้เหมือนปัดความรับผิดชอบและถึงแม้จะไม่ใช่ความผิดคุณ
แต่คุณก็ควรที่จะพึ่งพาได้ไม่ใช่หรอ ถ้าเสนอแนะความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ไม่ได้การเงียบก็ไม่ใช่เรื่อง แ ย่ อะไร
ถ้าคุณเอาแต่พูดคำนี้ในที่สุด เพื่อนร่วมงานจะพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานกับคุณ และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
7.“มันไม่อยู่ในขอบเขตการทำงานของฉัน!” มันสร้างความรู้สึก เหมือนกับว่า คุณพยายามจะทำงานให้น้อยที่สุด
เพื่อรับเงินเดือนตามตำแหน่ง ซึ่งมันเป็นสิ่งไม่ดีในระยะยาวเลย อย่างไรก็ตามถ้าคุณรู้สึกไม่สบายในงานบางประเภท
สิ่งที่ดีที่สุดคือตั้งใจทำงานนั้นให้สำเร็จ และค่อยปรึกษา ผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับขอบเขตการทำงานของคุณในภายหลัง
เพราะจะเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างคุณและหัวหน้า
8.“ฉันทำไม่ได้” ในหลายครั้งๆ ที่คนได้ยิน ฉันทำไม่ได้มันจะให้ความรู้ว่าผู้พูดไม่อยากทำมากกว่า
แน่นอนมันสื่อถึงว่าคุณไม่อยากเรียนรู้ ไม่อยากก้าวหน้าเลยด้วยซ้ำ ถ้าคุณไม่สามารถทำงานนั้นได้จริงๆ
หรือขาดทักษะสำคัญบางประเภท คุณควรจะนำเสนอวิธีที่ดีกว่าไป ไม่ใช่เอาแต่ปฏิเสธ ไม่ทำ ทำไม่ได้
อาทิ คุณอาจจะพูดไปเลยว่า คุณทำมันกราฟิกไม่ได้ เพราะคุณไม่เคยใช้โปรแกรมที่เกี่ยวข้องเลยเป็นต้น
9.“ไม่มีปัญหา” เมื่อมีคนขอให้คุณช่วย หรือทำอะไรบางอย่างและคุณบอกว่า “ไม่มีปัญหา”
มันกำลังสื่อเป็นนัยว่า เรื่องที่เขาขอมันอาจเป็นปัญหา ของคุณลองใช้คำพูดประมาณว่า ‘ฉันยินดีที่จะทำมัน’ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
10.“ฉัน เ ก ลี ย ด งานนี้” ประโยคแบบนี้เป็นประโยค ที่ไม่มีใครอยากฟัง ไม่ใช่แค่เฉพาะหัวหน้างาน แต่รวมถึงเพื่อนร่วมงานด้วย
คุณอาจจะพูดมันออกไปด้วยอารมณ์แต่มันก็เหมือนเป็นการแปะฉลากตัวคุณไปแล้ว ว่าคุณไม่อยากทำงาน
อีกทั้งมันยัง บั่ น ท อ น จิตใจของผู้อื่นอีกด้วย ที่สำคัญการพูดแบบนี้ เป็นเหมือนการดับอนาคตตัวเองไปกลายๆ เลยล่ะครับ
นับว่าเป็นคำต้องห้ามที่ไม่ควรพูดจริงๆ ถึงแม้คุณจะรู้สึกอย่างนั้นก็ตาม
สุดท้ายนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับกาลเทศะครับ
บางประโยคที่นอกเหนือจากนี้ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูด เช่นกัน ควรพิจารณาให้ดีว่าสิ่งที่เราพูดมันเกิดประโยชน์ต่อตัวเอง
หรือเพื่อนร่วมงานหรือไม่เพราะถ้าพูดไปแล้วมันไม่ได้ประโยชน์อะไรมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะพูดประโยคเหล่านั้นออกไปเช่นกัน
หรือถ้าใครมีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการพูดจา ในสถานที่ทำงาน ก็แนะนำกันมาได้เลย เผื่อจะได้มีประโยชน์กับท่านๆ อื่นด้วย
ขอขอบคุณ b r a n d t h i n k