Home ข้อคิด ลักษณะพนักงานแบบไหน ที่เจ้านายจะรัก (เจ้านายดีๆ)

ลักษณะพนักงานแบบไหน ที่เจ้านายจะรัก (เจ้านายดีๆ)

7 second read
0
0
47

งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข…

เป็นคำกล่าวที่ช่วยให้กำลังใจ คนทำงานได้ดีเสมอ ไม่ใช่ว่าเป็นการปลูกฝังให้ทำงานเพื่อเงินเท่านั้นแต่ยังเป็นการ ก ร ะ ตุ้ น ให้เกิดความรักและสนุกในการทำงานด้วย แน่นอนว่าการทำงานทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยความรักในการทำงาน การมีวินัยในตนเอง

รวมถึงการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานทุกแห่งมีการบริหารจัดการแบบองค์กร ก่อให้เกิดการแบ่งตำแหน่งหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ตำแหน่งผู้บริหาร อำนวยการ ปฏิบัติการ และงานสนับสนุนองค์กร

ซึ่งแต่ละตำแหน่งหน้าที่ล้วนมีความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เจริญก้าวหน้า การให้ความสำคัญกับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมากเกินไปจะส่งผลเสียหายโดยตรงต่อองค์กรนั้น ๆ ข้อนี้ผู้บริหารองค์กรจะทราบดี

ถาม : แล้วจะทำอย่างไร ให้องค์กรเกิดการพัฒนา

ตอบ : ต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพนักงานเข้ามาร่วมงาน

ถาม : แล้วพนักงานแบบไหน ที่องค์กรต้องการให้ร่วมงานด้วย

ตอบ : แล้วแต่องค์กรจะระบุ แต่ที่แน่ ๆ พนักงานที่มีบุคลิกภาพและทัศนคติ ดังต่อไปนี้ ทุกองค์กรต้องการมาก

1. กล้าเสนอความคิดเห็น

พนักงานที่เอาแต่ทำงานตามสิ่งที่ได้รับ ห ม อ บ ห ม า ย ไม่เคยแสดงความคิดเห็นต่อผลงานใด ๆ เลย จัดได้ว่าเป็นพนักงานยุคเก่า พนักงานรุ่นใหม่ต้องมีความมั่นใจในตนเองกล้าเสนอแนะสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อองค์กร เพื่อการพัฒนาขององค์กร

ผู้บริหารต้องการพนักงาน ที่มีความคิดที่สร้างสรรค์ และกล้าเสนอความคิดเห็นของตนทั้งนี้ ต้องตั้งอยู่ภายใต้หลักของความจริงและมีความเป็นไปได้ เชื่อแน่ว่าผู้บริหารทุกคน พร้อมที่จะรับฟังลูกน้องเสมอ

อยู่ที่ตัวลูกน้องเองแล้วล่ะว่าจะมีความสามารถในการนำเสนอหรือแสดงความคิดเห็นต่อหัวหน้าได้ดีเพียงใด

2. ไม่กลัวจะเตือนหัวหน้า

การทำงานและความผิดพลาด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคู่กันเสมอ ดังคำกล่าวที่ว่า คนที่ไม่เคยผิดพลาด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย ในองค์กรต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีความผิดพลาดในการทำงานเกิดขึ้นผู้บริหารจะเป็นคนช่วยตักเตือนผู้ปฏิบัติการ เช่นเดียวกัน

ใช่ว่าผู้บริหารหรือหัวหน้างานจะไม่เคยผิดพลาด ฉะนั้น หากหัวหน้าทำพลาดลูกน้องต้องใจกล้า หน้าด้าน ทักทายตักเตือนหัวหน้า ด้วยกิริยาที่เป็นมิตร และแสดงออกให้เห็นถึงความหวังดี

ยิ่งถ้าลูกน้องสามารถอธิบายเหตุผลในความผิดพลาดของงาน ต่อหัวหน้าได้อย่างชัดเจนด้วยแล้ว แทนที่หัวหน้าจะโกรธที่โดนลูกน้องบอกกล่าว จะกลายเป็นว่าลูกน้องจะได้รับคำชื่นชมกลับมาอย่างแน่นอน

3. มีความรับผิดชอบ

คนที่มีความรับผิดชอบ ล้วนเป็นที่รักใคร่และชื่นชมไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงานต่างต้องการทำงานร่วมกับคนประเภทนี้ สำรวจตัวเองว่ามีความรับผิดชอบมากหรือน้อยเพียงใดถ้ามีความรับผิดชอบมากแล้วจงรั ก ษ า มันไว้ แต่ถ้ายังมีน้อยไปให้พัฒนามันขึ้นมาโดยเร็ว

ความรับผิดชอบเริ่มต้นจากการทำงานที่ได้รับห ม อบหมายให้ดีที่สุดหากเกิดปัญหาขึ้นอย่าปล่อยผ่านหรือโยนให้คนอื่นทำ เราต้องกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหา อาจสอบถามเพื่อนร่วมงานคนอื่น ปรึกษาหัวหน้า เป็นต้น

อย่ากลัวว่าการขอคำปรึกษาจะทำให้เราดูไม่มีความสามารถ ให้มองกลับไปว่าเพราะเราต้องการให้เกิดประสิทธิภาพ ต่องานให้ดีที่สุดต่างหาก เราถึงต้องสอบถามเพื่อความชัดเจน ข้อนี้ผู้บริหารจะเข้าใจพนักงานเป็นอย่างดี

4. มีไหวพริบ

พนักงานที่มีความคล่องแคล่ว ในการปฏิบัติงาน มีไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ประยุกต์ใช้ความรู้ด้วยความมั่นใจ เป็นพนักงานที่ทุกองค์กรต้องการเป็นอย่างยิ่งและจะหาได้ยากมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน เราเคยสังเกตบุคคลที่มีความสามารถสูง

เช่น ผู้บริหาร นักกีฬา หรือดาราชื่อดังหลายคน จะมีไหวพริบที่ดีเสมอความเป็นคนมีไหวพริบ สามารถฝึกฝนได้เริ่มจากการรัก ที่จะเรียนรู้ในการพัฒนาตนเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เพื่อเป็นการเสริมประสบการณ์ที่สำคัญคือการเข้าไปคลุกคลีกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ

เมื่อเราต้องการความรู้เราก็ต้องแสวงหาความรู้ ทั้งจากตำรา การปฏิบัติจริง และสอบถามผู้เชี่ยวชาญ เหล่านี้จะเป็นการเสริมสร้างไหวพริบในการทำงานได้โดยอัตโนมัติ

5. ตรงต่อเวลา

การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งแสดง ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ทั้งพนักงานใหม่และพนักงานเก่า ต่างต้องตระหนักถึงข้อนี้ไว้เป็นอันดับแรกการตรงต่อเวลา นอกจากจะโฟกัสไปที่เวลาในการเข้างานและเลิกงานแล้ว เวลาที่ใช้ในการปฏิบัติงานเทียบกับประสิทธิภาพของผลงานที่เกิดจากการใช้เวลา

ผู้บริหารจะนำมาคำนึงถึงเสมอในการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานเพราะฉะนั้นพนักงานที่ดีต้องรู้จักการแบ่งเวลา เริ่มตั้งแต่เวลาในการจัดการภารกิจส่วนตัว การบริหารเวลาในที่ทำงาน พึงระลึกไว้เสมอว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า

ในส่วนของการทำงาน คนที่ทำงานในเวลาเท่ากัน ผลงานที่ดีกว่าจะได้เปรียบเสมอ จงอย่าปล่อยให้เวลาที่มีค่าของคุณสูญเปล่า

สรุป

เมื่อพนักงานเรียนรู้ที่จะปรับปรุง และพัฒนาตนเอง จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของงานที่องค์กรได้รับย่อมพัฒนาตามไปด้วย หลังจากนั้นความสุขในการปฏิบัติงานก็จะตามมา เมื่อเกิดความสุขในการทำงานรายได้งดงาม โบนัสและการเลื่อนตำแหน่งก็จะตามมาเมื่อมีรายได้มากขึ้น

พนักงานก็จะรักและสนุกกับการทำงานในองค์กร เพราะฉะนั้น พนักงานที่ดีต้องเรียนรู้ที่จะทำตนให้เป็นที่รักของหัวหน้า อย่างน้อยที่สุดทำได้ ดังหัวข้อที่กล่าวข้างต้น 5 ประการนี้ คุณก็จะกลายเป็นลูกน้องที่หัวหน้ารักและอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด นั่นเอง

ขอขอบคุณ l e a d e r w i n g s

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…