Home ข้อคิด แม้เรียนสูงแค่ไหนไม่ใช่ประเด็น..ที่สำคัญคือการมีทักษะ “ทำงานเป็น”

แม้เรียนสูงแค่ไหนไม่ใช่ประเด็น..ที่สำคัญคือการมีทักษะ “ทำงานเป็น”

6 second read
0
0
90

เรามักจะถูกสั่งสอนมา ว่าการเรียนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในชีวิตปัจจุบันนั้นเราจะสังเกตได้ว่าคนที่เรียนจบสูงบางคนก็ว่างงานไม่มีงานทำ

ต่างจากคนที่คนมีประสบการณ์ทางด้านการทำงาน มีความรู้ความสามารถการปฏิบัติ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง มีความก้าวหน้าทางด้านการงานมากกว่า

ประเด็นแรก ของเรื่องนี้คือ เรื่องการเรียน

ปัจจุบันการศึกษาเล่าเรียนเป็นเรื่องของผู้เรียนเพียงคนเดียวจะเรียนดีเรียนแ ย่ ก็อยู่ที่คนเรียนเองทั้งนั้น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือญาติพี่น้องทั้งหลาย ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้สถาบันการศึกษาที่เรียนจบมาก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ แล้วอยู่ที่ฝีมือตัวเองล้วนๆ

เมื่อผลการเรียนออกมามีแนวโน้มว่าสามารถทำงานได้เก่งนะ เพราะกว่าจะจบมันต้องฝึกฝนกันมากมายแต่ถ้าว่าอย่างไรก็ตามการฝึกฝนในระหว่างการที่ศึกษาอยู่นั้น มันฝึกฝนและเรียนรู้จากกรอบการศึกษา เมื่อทำผิดก็ทำใหม่ แก้ไขใหม่ จนกว่าจะดีขึ้น

นั่นเป็นหลักการง่ายๆ ของการศึกษาที่เชื่อว่าทุกคนที่ได้ศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยหรือในรั้วโรงเรียน ก็เคยผ่านกันมาทุกคน แต่อยากให้ลองสังเกตดีๆ ว่าในช่วงที่เราศึกษาอยู่ เมื่อไหร่ที่คิดผิด ทำผิด เราจะถูก ทำ โ ท ษ ด้วยการทำให้เห็นจากเกรดหรือผลการศึกษา

ถ้าเรียนไม่ดีก็อาจติด F ในที่นี้คือการลงทะเบียนใหม่กับเด็กรุ่นน้องๆ บางคนก็อับอายที่จะต้องเป็นพี่แล้วไปเรียนกับรุ่นน้องใครจะรู้ว่า ชีวิตในวัยเรียนนั้นมีเรื่อง เ ค รี ย ด มากมาย ป ว ด หั ว เพียงไม่กี่เรื่อง นอกนั้นเป็นเรื่องสนุกสนานบางคนที่จบมาแล้วยังอยากกลับเรียนใหม่เลย

เพราะเมื่ออยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นได้เจอเพื่อนๆ ได้อยู่กับเพื่อนๆถึงเวลาเรียนก็ไปถึงเวลาเลิกก็ไปกับเพื่อน แต่เมื่อผลการศึกษาออกมาและเมื่อเราสำเร็จการศึกษาเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องจบจากการศึกษาเพื่อมาทำงานทำการ ซึ่งผลการศึกษาที่ผ่านมานั้นจะเป็นตัวพิสูจน์ต่อไปในช่วงชีวิตวัยทำงาน

ประเด็นที่สอง คือ เรื่องการทำงาน

เขาบอกกันมาว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของการทำงาน การทำงานของทุกคนสามารถวัดได้ง่ายๆ โดยการวัดจากผลของงานที่ทำว่างานนั้นเกิดคุณค่าหรือประโยชน์แก่คนร่วมงานมากน้อยแค่ไหน นั่นแหละคือ คุณภาพของงานเมื่อพูดแบบนี้แล้วเราจะสังเกตได้ง่ายเลยว่าตอนเราเรียนไม่มีผลการวัดแบบนี้เลย

การศึกษาที่ผ่านมานั้นเป็นการเรียนรู้อะไรที่ทำไม่ได้สอบไม่ผ่านก็ทำใหม่ แต่จริงๆแล้วการทำงานนั้นไม่เหมือนแบบเรียนเลย เมื่อเราทำงานที่ได้รับมอบหมายมา นั้นถ้าเกิดความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเสียเวลาเสียเงิน เสียใจ หัวหน้างานตำหนิ เพื่อนร่วมงานไม่มีความเชื่อถือ

ทั้งหมด ที่พูดมานี้คือความจริง คือโลกความเป็นจริงที่ เ จ็ บ ป ว ด แต่ในทางกลับกันมันก็อาจจะเป็นโลกที่มีความสุขเพราะเมื่อไหร่ที่เราทำงานสำเร็จ คุณก็จะมีคุณค่าต่อผู้อื่นในวงกว้าง ถ้าสังเกตดีๆ ก็เหมือนกับชีวิตในวัยเรียนคือช่วงของโลกจินตนาการ

แต่ชีวิตในการทำงานมันเป็นโลกแห่งความจริงมีคนเคยบอกว่าการที่เราประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นเพราะเราไม่หยุดการเรียนรู้เพราะเมื่อไหร่ที่ออกมาจากรั้วมหาลัยแล้ว ไม่มีคุณครูคอยบอกคอยสอนจะเป็นตัวเราที่จะได้ศึกษาจริงๆจังจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างเพราะนั่นมันคือผลได้ผลเสียของเราในทุกๆ ครั้ง

ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามจริงๆ แล้วการศึกษาไม่ได้อยู่เพียงแค่ในรั้วมหาวิทยาลัย เพียงอย่างเดียว เราจำเป็นต้องศึกษาในทุกๆเรื่อง ศึกษาที่จะล้มเหลวและปรับแก้ไขให้มันดีขึ้น ไม่ให้มันผิดแล้วผิดอีกจนหาคุณภาพไม่ได้ ชีวิตของเรายังดำเนินต่อไป

ไม่ใช่แค่อยู่ในรั้วมหาลัยจะต้องเรียนรู้ชีวิต การทำงานเราก็ต้องเรียนรู้จะพัฒนาตัวเอง ให้ก้าวไปสู่จุดที่สูงที่สุด แต่ไม่ใช่จุดที่เราต้องเ ห ยี ย บ ย่ำ คนอื่นขึ้นมา แต่เราต้องพยายามเรียนรู้และแก้ไขสิ่งต่างๆให้ผ่านไปให้ได้

ขอขอบคุณ p o s t s a r a

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…