Home ข้อคิด 3 วิธีรับมือ กับคนงี่เง่า..เมื่อโดนเหวี่ยงไร้เหตุผล ในที่ทำงาน

3 วิธีรับมือ กับคนงี่เง่า..เมื่อโดนเหวี่ยงไร้เหตุผล ในที่ทำงาน

6 second read
0
0
42

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะใช้ชีวิต โดยไม่เจอการหาเรื่องจากคนงี่เง่า ที่หันมาเหวี่ยงใส่เราอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ไม่ว่าจะเป็นเพราะปีชงหรือวันซวย ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด ที่ทำให้ตัวเราเหนื่อยกายและใจมากมายมหาศาล

ดังนั้น วิธีที่ดีกว่าคือการรู้ว่าจะรับมือจากคนแบบนี้อย่างไร เพราะการแรงมาแล้วแรงกลับไปนั้นนอกจากจะไม่ช่วยอะไร

มันยังทำให้สถานการณ์ เ ล ว ร้ ายลงอย่างไม่จำเป็นอีกด้วย ไม่ว่าจะเจอคนงี่เง่าบนท้องถนนจากการขับรถป าด กันไปมา

หรือเจอคนงี่เง่าในออฟฟิศ ที่ พ า ล จนทำให้งานของเราไม่เดิน ก่อนจะหันไปหงุดหงิดตอบโต้คนงี่เง่าแบบนั้น

เรามี 3 ขั้นตอนการรับมือ ที่ควรทำมาแนะนำ รับรองว่ามันจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้มากกว่าในทันที

นิ่งสงบ สยบความแรง

เหมือนคำโบราณว่าไว้ อย่าราดน้ำมัน บนกองไฟ แต่มันจะดีกว่าถ้าเราเริ่ม จากการดับไฟในใจเราเสี ย ก่อน

ขั้นแรกของการรับมือกับคนงี่เง่าเข้าใจย ากที่หันมาเหวี่ยงใส่เรา แบบไม่มีเหตุผล คือการนิ่งสงบ ไม่ตอบโต้

เพราะการตอบโต้จะยิ่งทำให้คนงี่เง่ายิ่งบันดาล โ ท ส ะ เข้าไปใหญ่ พูดอะไรก็กลายเป็นหาเรื่อง ต้องอย่าลืมว่า

คนที่กำลังหน้ามืดอยู่นั้นย่อมไม่อยู่ในสติที่จะฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น การตอบโต้ใดๆ จึงไม่ทำให้เกิดผลดีใดๆ ทั้งสิ้น

ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้า กับคนขี้วีนที่ไม่รู้ไปหงุดหงิดอะไรมา ก็จงใช้ความนิ่งเข้าไว้ มันจะช่วยให้เรา

ได้ยินเสียงรอบข้างมากขึ้น เป็นการสร้าง สมาธิและจิตที่สงบ ช่วยให้ควบคุมตัวเองได้ดีกว่าไปในตัว

และที่สำคัญที่สุดคือ มันจะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกสงบขึ้นได้ด้วยความแปลกใจที่เราไม่ตอบโต้

เพราะความนิ่งเป็นเสียงที่ตะโกนได้ดังกว่า มีความหมายมากกว่าเสียงด่ากลับมากกว่าที่เราคิด

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

สิ่งที่สำคัญที่พวกเราหลายคนมองข้าม และมันคือกุญแจไปสู่ความสงบที่แสนสบายใจ นั่นคือการพย าย าม

ทำความเข้าใจถึงเหตุผลที่อีกฝ่ายทำพฤิตกรร มแ ย่ๆ ออกมา การเข้าใจถึงเบื้องหลัง ที่มาที่ไป

จะทำให้เราเข้าใจเจตนาหรือเหตุผลที่อีกฝ่ายมีพฤติกรร มนั้น ๆ และเราจะไม่รู้สึกโกรธใดๆ แม้อีกฝ่าย

จะเหวี่ยงหรือหงุดหงิดใส่เราอย่างไร้เหตุผลก็ตามถ้าเราเข้าใจว่าพฤติกรร มที่อีกฝ่ายมาหาเรื่องเรา

อาจจะมีเหตุผลจากความเ ค รี ย ด บางอย่าง เราอาจจะรู้สึกเห็นใจมากกว่าที่จะไปตอบโต้

อย่างเช่นเมื่อเราขับรถอยู่ดีๆ ก็เจอคู่กรณีไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์วินหรือพี่ Messengers ขับมา ป า ด หน้าหาเรื่อง

ถ้าเรามองในมุมของเค้าว่าต้องขี่รถแข่งกับเวลา ท่ามกลางการจราจรที่สุดจะหนาแน่นภายใต้อากาศที่โค ต ร ร้อน

สูดหายใจก็มีแต่ ควัน พิ ษ จากท่อไอเสีย มันคงจะต้องเ ค รี ย ด มากอย่างช่วยไม่ได้ คิดได้แบบนี้

เราจะหายโกรธทันที และจะยินดีเป็นฝ่ายให้อภัยเพื่อ ความสบายใจด้วยซ้ำการฝึกฝนให้คิดแบบนี้ได้

จะทำให้เรามีสุขภายจิตที่ดีในระยะย าว และไม่มีใครสามารถหาเรื่อง ให้เราต้องอารมณ์ขุ่นมัวได้อีกด้วย

อย ากช่วยแก้ปัญหา

การทำความเข้าใจ ก็เรื่องนึง แต่ถ้าเราสามารถฝึกฝนจิตใจให้มาได้ถึงขั้นที่ 3 เราอาจจะสามารถเปลี่ยน ศั ต รู

ให้กลายเป็นมิตรได้ และทำให้คนรอบข้างรู้สึกศรัทธาในความใจกว้างของเราอีกด้วย นั่นคือการแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

หรือบางครั้งอาจจะเสนอตัวเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้อีกฝ่ายเท่าที่จะทำได้ลองจินตนาการว่ามีคนที่บริษัท

ผู้ไม่รู้ไปเ ค รี ย ด อะไรมา อยู่ดีๆ ก็มีท่าทีหาเรื่อง พูดจาด้วยโทนเสียงและภาษาที่ไม่ดี

หลายคนคงคิดว่าแบบนี้ก็ต้องด่ากลับให้หายซ่า แม้จะสะใจ แต่ความสัมพันธ์คงถูกทำล ายอย่างถาวร

ไม่มีวันย้อนกลับ แต่ถ้าลองคิดอีกมุม เรานิ่ง เราเอาใจเขามาใส่ใจเรา และเราเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงว่า

“พี่โอเคเปล่า เ ค รี ย ด อะไรเปล่าพี่ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้มั้ย?” รับรองว่านอกจากจะทำให้อีกฝ่ายต้องชะงั ก

หายพาล และยังทำให้เค้ารู้สึกผิดได้ทางอ้อมอีกด้วย

ทั้ง 3 ขั้นตอนนี้สามารถ ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าคู่กรณีจะเป็นใคร แม้แต่กับแฟนสาวหรือภรรย า

ในช่วงวันมามากแค่ไหน ขอแค่นิ่งเข้าไว้ ทำความเข้าใจ และแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

ร้บรองว่าปลอดภัยทั้งกายและใจแน่นอน

ขอขอบคุณ u n l o c k m e n

Load More Related Articles
Load More By wansuk
Load More In ข้อคิด

Check Also

เจ้านาย 8 แบบนี้ ที่ไม่ควรเป็นหัวหน้าคน

1.เจ้านาย ทรงอำนาจ เจ้านายประเภทนี้ จะดีแต่ออกคำสั่ง มักแสดงพฤติกรรม การใช้อำนาจขณะทำงานหร…